ศรีสะเกษ - “ชวน หลีกภัย” ชี้ อดีตนายกฯ ทักษิณ หนีคดีซุกอยู่อังกฤษ ต้องถูกดำเนินการตาม กม.เท่าเทียมคนอื่นไม่มียกเว้น ระบุ การกล่าวหากระบวนยุติธรรมไทยถูกแทรกแซงเป็นข้ออ้าง แต่หากเป็นจริงถือว่ารัฐบาล “หุ่นเชิด” ชุดนี้ ที่ “ทักษิณ” มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ต้องรับผิดชอบ และเป็นรัฐบาลใช้ไม่ได้ เผย กระบวนการยุติธรรมยุคนี้ แทรกแซงทำได้ยาก ต่างจากยุครัฐบาล ทรท.แต่มีจุดอ่อนที่ ตร.ต้องขยับทำคดีด้วย และหากทำคดีมาอ่อนจะให้ศาลทำให้ดีคงยาก
วันนี้ (22 ส.ค.) นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี และประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวภายหลังตรวจเยี่ยมให้กำลังทหารไทย และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานบนเขาพระวิหารชายไทย-กัมพูชา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ถึงกรณีออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และภรรยา ที่หนีคดีอาญาแผ่นดินไปอยู่ประเทศอังกฤษ ว่า เป็นเรื่องของทางฝ่ายกฎหมายที่จะต้องดำเนินการ แต่อย่างไรก็ตาม ต้องปฏิบัติโดยเสมอกันไม่ใช่ไปยกเว้น โดยเราปฏิบัติต่อคนอื่นอย่างไรก็ต้องปฏิบัติต่อทุกคนเช่นนั้นไม่มากน้อยกว่ากัน เพราะทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเท่าเทียมกัน
ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มารายงานตัว และจะขอลี้ภัยอยู่ที่ประเทศอังกฤษนั้น ตนเห็นว่า เป็นข้ออ้างของแต่ละคน แต่ปัญหาในขณะนี้ไม่ใช่การเมือง สิ่งที่รัฐบาลควรทำ และต้องทำความเข้าใจอย่างเร่งด่วน ก็คือ ความชอบธรรมของบ้านเมืองนั้น เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องทำ หากมีใครไปกล่าวหาว่ากระบวนการยุติธรรมถูกแทรกแซง เราก็ต้องดูว่าใครเป็นรัฐบาล ทั้งนี้ เนื่องจากรัฐบาลชุดใดก็ตามที่ปล่อยให้สิ่งนี้เกิดขึ้น แสดงว่า รัฐบาลชุดนั้นไม่รับผิดชอบ
ฉะนั้น รัฐบาลชุดนี้ซึ่งตามความจริง ก็คือ เป็นรัฐบาลที่ พ.ต.ท.ทักษิณ มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ถ้ารัฐบาลที่เป็นฝ่ายของท่านเองประพฤติปฏิบัติการใดที่ทำให้เกิดความไม่เป็นธรรม ปล่อยให้องค์กรอื่นเข้ามาแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมอย่างนี้ แสดงว่า รัฐบาลชุดนั้นใช้ไม่ได้ ฉะนั้นเป็นภาระหน้าที่ของรัฐบาลชุดนี้จะต้องดูว่าคำกล่าวอ้างของ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นความจริงหรือไม่ หากเป็นความจริงรัฐบาลชุดนี้ก็จะต้องรับผิดชอบ
นายชวน กล่าต่อว่า อย่างไรก็ตาม ตามความรู้สึกของตนแล้ว ขณะนี้เป็นช่วงเวลาหนึ่งในระยะเวลา 7-8 ปีที่ผ่านมา ที่กระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะฝ่ายศาลแทรกแซงไม่ได้ พูดง่ายๆ คือ การวิ่งเต้นเพื่อล้มคดี แตกต่างจากสมัยที่พรรคไทยรักไทย (ทรท.) เป็นรัฐบาล ซึ่งขณะนั้นเราต้องยอมรับว่ามีการแทรกแซงกระบวนการต่างๆ เกือบหมด กระบวนการองค์กรอิสระไม่เหลือเลย สภาวุฒิสมาชิกสมัยนั้นส่วนหนึ่งถูกซื้อไป
แต่ขณะนี้ต้องถือว่ากระบวนการแทรกแซง และการซื้อทำได้ยากกว่าเดิม สมัยโน้นแม้แต่สื่อมวลชนก็ยังยากที่จะพูดอะไรอย่างตรงไปตรงมาได้ ต้องพูดเข้าข้างฝ่ายรัฐบาลเท่านั้น แต่เมื่อเกิดสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี ขึ้นมา จึงทำให้ประชาชนสามารถรับฟังได้ 2 ด้าน
ฉะนั้น ในวันนี้ คิดว่า กระบวนการของกฎหมายมีส่วนสำคัญในการสร้างความชอบธรรมให้เกิดขึ้นมากกว่าในสมัยนั้น แต่ยังมีข้อบกพร่องที่ยังเป็นจุดอ่อนอยู่ โดยเฉพาะกระบวนการยุติธรรมเราต้องมองครบทั้งหมด อย่ามองเพียงฝ่ายตุลาการฝ่ายเดียว เพราะศาลเป็นผู้วินิจฉัยคดี การวินิจฉัยคดีศาลจะทำได้ต่อเมื่อทางฝ่ายพนักงานสอบสวน ฝ่ายตำรวจต้องทำคดีด้วย หากทำมาอ่อนแล้วจะให้ศาลทำให้ดีคงเป็นไปได้ยาก
“จึงขอย้ำว่า กระบวนการยุติธรรมที่เราพูดถึงนั้น เราต้องให้ความสำคัญทั้งหมด ทางฝ่ายพนักงานสอบสวน ฝ่ายตำรวจก็ต้องทำคดีด้วย หากทำมาอ่อนแล้วจะให้ศาลทำให้ดีคงเป็นไปได้ยาก แม้กระทั่งหลังศาลแล้วคือฝ่ายราชทัณฑ์ ก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน” นายชวน กล่าว