“ดร.สุขุม” มั่นใจจัดทำเกณฑ์แต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการครูเสร็จไม่เกิน 2 เดือน ยำข้อดีหลักเกณฑ์ที่ ศ.ดร.สมหวัง นำเสนอ กับเกณฑ์ ก.ค.ศ.เข้าด้วยกัน เชื่อลดขัดแย้งครูประถม-มัธยม ได้ และแก้ปัญหาวิ่งเต้นได้ด้วย พร้อมทำคู่มือแต่งตั้ง โยกย้าย ให้ครู และผู้บริหารได้รับทราบทั่วถึง
รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์ รองอธิการบดีฝ่ายศูนย์การศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต (มสด.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) วิสามัญเฉพาะกิจเกี่ยวกับการปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายผู้บริหารสถานศึกษา กล่าวว่า หลักเกณฑ์ที่คณะอนุกรรมการสภาการศึกษาด้านการพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารจัดการเพื่อคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน : การมัธยมศึกษา สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ที่มี ศ.ดร.สมหวัง พิธยานุวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) เป็นประธานจัดทำขึ้น ถือเป็นหลักเกณฑ์ที่ดี แต่เป็นการพิจารณาตามตัวหนังสือ และยังไม่สามารถทำให้ทุกฝ่ายพอใจได้ เนื่องจากยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ยังไม่ได้รับการแก้ปัญหา โดยเฉพาะความเสมอภาคและการติดยึดกับการแบ่งระดับการศึกษาออกเป็นประถมศึกษาและมัธยมศึกษา
รองอธิการบดีฝ่ายศูนย์การศึกษา มสด.กล่าวอีกว่า อ.ก.ค.ศ.ชุดที่ตนเป็นประธาน จะนำหลักเกณฑ์ของคณะกรรมการ ชุด ศ.ดร.สมหวัง มาพิจารณาร่วมกับหลักเกณฑ์ และวิธีการบริหารงานบุคคลเรื่องการย้าย สรรหา แต่งตั้งผู้บริหารสถานศึกษา ข้าราชการครูในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ของคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) มาพิจารณาเพื่อนำข้อดีของทั้ง 2 หลักเกณฑ์มาปรับปรุงและแก้ไขเสนอ ก.ค.ศ.โดยเกณฑ์ที่ทำขึ้นจะต้องอธิบายถึงความได้เปรียบเสียเปรียบได้ มีเกณฑ์การพิจารณาที่เห็นได้เป็นรูปธรรม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการวิ่งเต้นในการแต่งตั้งโยกย้ายขึ้นอีก โดยการทำงานของคณะกรรมการชุดนี้ จะยึดเป้าหมายการบูรณาการการจัดการศึกษาให้ระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษาให้เป็นเนื้อเดียวกัน
รศ.ดร.สุขุม กล่าวว่า ตนไม่รู้สึกหนักใจที่ได้รับมอบหมายให้เข้ามาแก้ไขปัญหานี้ เนื่องจากขณะนี้ปัญหาความแตกแยกระหว่างประถมศึกษา และมัธยมศึกษา หรือการโยกย้ายครู และผู้บริหาร มีหลักเกณฑ์การแก้ปัญหาที่ดีอยู่แล้ว แต่คณะทำงานชุดนี้ ซึ่งมีตัวแทนจากทั้งสองฝ่าย และผู้ทรงคุณวุฒิ มาร่วมแก้ปัญหา เชื่อว่า จะสามารถแปลงให้มาเป็นหลักเกณฑ์ใหม่ที่ทุกฝ่ายสามารถยอมรับได้ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 2 เดือนเกณฑ์ดังกล่าวจะเสร็จสิ้น อย่างไรก็ตามจะมีการทำคู่มือการแต่งตั้ง โยกย้าย เพื่อให้ครู และผู้บริหารได้มีการเตรียมตัว อีกทั้งต้องมีการประชาสัมพันธ์ถึงการแต่งตั้งโยกย้ายให้ทั่วถึงด้วย
รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์ รองอธิการบดีฝ่ายศูนย์การศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต (มสด.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) วิสามัญเฉพาะกิจเกี่ยวกับการปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายผู้บริหารสถานศึกษา กล่าวว่า หลักเกณฑ์ที่คณะอนุกรรมการสภาการศึกษาด้านการพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารจัดการเพื่อคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน : การมัธยมศึกษา สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ที่มี ศ.ดร.สมหวัง พิธยานุวัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) เป็นประธานจัดทำขึ้น ถือเป็นหลักเกณฑ์ที่ดี แต่เป็นการพิจารณาตามตัวหนังสือ และยังไม่สามารถทำให้ทุกฝ่ายพอใจได้ เนื่องจากยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ยังไม่ได้รับการแก้ปัญหา โดยเฉพาะความเสมอภาคและการติดยึดกับการแบ่งระดับการศึกษาออกเป็นประถมศึกษาและมัธยมศึกษา
รองอธิการบดีฝ่ายศูนย์การศึกษา มสด.กล่าวอีกว่า อ.ก.ค.ศ.ชุดที่ตนเป็นประธาน จะนำหลักเกณฑ์ของคณะกรรมการ ชุด ศ.ดร.สมหวัง มาพิจารณาร่วมกับหลักเกณฑ์ และวิธีการบริหารงานบุคคลเรื่องการย้าย สรรหา แต่งตั้งผู้บริหารสถานศึกษา ข้าราชการครูในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ของคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) มาพิจารณาเพื่อนำข้อดีของทั้ง 2 หลักเกณฑ์มาปรับปรุงและแก้ไขเสนอ ก.ค.ศ.โดยเกณฑ์ที่ทำขึ้นจะต้องอธิบายถึงความได้เปรียบเสียเปรียบได้ มีเกณฑ์การพิจารณาที่เห็นได้เป็นรูปธรรม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการวิ่งเต้นในการแต่งตั้งโยกย้ายขึ้นอีก โดยการทำงานของคณะกรรมการชุดนี้ จะยึดเป้าหมายการบูรณาการการจัดการศึกษาให้ระดับประถมศึกษา และมัธยมศึกษาให้เป็นเนื้อเดียวกัน
รศ.ดร.สุขุม กล่าวว่า ตนไม่รู้สึกหนักใจที่ได้รับมอบหมายให้เข้ามาแก้ไขปัญหานี้ เนื่องจากขณะนี้ปัญหาความแตกแยกระหว่างประถมศึกษา และมัธยมศึกษา หรือการโยกย้ายครู และผู้บริหาร มีหลักเกณฑ์การแก้ปัญหาที่ดีอยู่แล้ว แต่คณะทำงานชุดนี้ ซึ่งมีตัวแทนจากทั้งสองฝ่าย และผู้ทรงคุณวุฒิ มาร่วมแก้ปัญหา เชื่อว่า จะสามารถแปลงให้มาเป็นหลักเกณฑ์ใหม่ที่ทุกฝ่ายสามารถยอมรับได้ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 2 เดือนเกณฑ์ดังกล่าวจะเสร็จสิ้น อย่างไรก็ตามจะมีการทำคู่มือการแต่งตั้ง โยกย้าย เพื่อให้ครู และผู้บริหารได้มีการเตรียมตัว อีกทั้งต้องมีการประชาสัมพันธ์ถึงการแต่งตั้งโยกย้ายให้ทั่วถึงด้วย