ศูนย์ข่าวขอนแก่น- มาตรการใช้น้ำฟรี ของ “ลุงหมัก” ทำพิษ ชาวชุมชนสามเหลี่ยมขอนแก่น ออกมาโวยการประปาขอนแก่น เลือกปฏิบัติ ทั้งที่ใช้น้ำไม่เกิน 5 หมื่นลิตรยังถูกเรียกเก็บ ขณะร้านค้ารายได้อื้อไม่ต้องจ่าย จี้รัฐบาลรับผิดชอบแก้ปัญหาคนจนให้ถูกจุด ด้านการประปาฯออกตัวทำตามนโยบายรัฐ แนะประชาชนที่มั่นใจว่าเข้าเกณฑ์ ให้รีบมายื่นขอเปลี่ยนประเภทผู้ใช้น้ำด่วน
ตามที่ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศออก 6 มาตรการ 6 เดือน ฝ่าวิกฤตเพื่อคนไทย โดยกรณีการชำระค่าน้ำประปาตามมาตรการดังกล่าวนั้น รัฐบาลจะรับภาระในการชำระค่าน้ำประปาให้กับประชาชนในเงื่อนไข คือ เป็นประเภทบ้านพักอาศัย หรือ T1 และใช้น้ำไม่เกิน 50,000 ลิตร/เดือน หรือไม่เกิน 724.93 บาท เริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2551 – เดือนมกราคม 2552
ปรากฏว่า เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ จากประชาชนจำนวนไม่น้อย เนื่องจากเชื่อว่าตนเข้าเกณฑ์ดังกล่าว แต่กลับถูกเรียกเก็บค่าน้ำประปาตามเดิม ขณะที่บางบ้าน หรือร้านค้าบางแห่งกลับไม่ต้องชำระค่าน้ำประปา
ล่าสุดประชาชนชาวชุมชนสามเหลี่ยม ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น จ.ขอนแก่น ราว 50 คน ได้ร่วมกันลงชื่อออกแถลงการณ์ความไม่เท่าเทียมของกลุ่มประชาชนผู้ใช้น้ำประปา จ.ขอนแก่น และรวมตัวประท้วงที่หน้าสำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค จ.ขอนแก่น ถ.รื่นรมย์ อ.เมือง จ.ขอนแก่น
นายสุทธี ปุราทะกา แกนนำกลุ่มประชาชนผู้เรียกร้องความเป็นธรรมและเท่าเทียมกันในสังคม จ.ขอนแก่น เปิดเผยถึงแถลงการณ์ดังกล่าว ได้มีขอเรียกร้องให้การประปาส่วนภูมิภาค มีคำอธิบายต่อการปฏิบัติที่ไม่เท่าเทียมกันที่เกิดขึ้น และสะท้อนปัญหากลับไปยังนายกรัฐมนตรีผู้ออกมาตรการดังกล่าว ซึ่งเป็นการแสดงถึงความไม่จริงใจ ในการแก้ปัญหาช่วยเหลือประชาชนที่ต้องประสบปัญหาสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดี
อีกทั้งทางการประปาควรศึกษาข้อมูลรายได้ของทุกครัวเรือนอย่างละเอียด เพื่อแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด เนื่องจากผู้ที่ต้องเช่าบ้านราคาแพง ทำอาชีพค้าขายหรือเสริมสวยมีรายได้ไม่แน่นอน แต่ต้องเสียค่าเช่าห้อง ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ตามปกติ ทั้งที่ก็ใช้น้ำไม่เกิน 50 หน่วย หรือ 50,000 ลิตร ส่วนผู้ที่มีรายได้ดี ประกอบกิจการหอพักบางแห่ง กลับไม่ต้องชะระค่าประปา จึงถือเป็นการจัดเก็บค่าน้ำที่ไม่เป็นธรรมในสังคม
นายสุทธี กล่าวอีกว่ากลุ่มประชาชนต้องการให้ นายสมัคร สุนทรเวช รับทราบปัญหาที่เกิดขึ้น อันเกิดจากความไม่จริงใจที่จะช่วยเหลือประชาชนอย่างเท่าเทียม ซึ่งหากต้องการให้เกิดความเท่าเทียมไม่ควรมีข้อยกเว้นใดๆ สำหรับผู้ใช้น้ำอย่างประหยัด ไม่เกิน 50 หน่วย/เดือน
ด้าน นางศิริธร สุพล ผู้ช่วยผู้จัดการสำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค จ.ขอนแก่น และนายปวเรศ ดำรงภคภากร หัวหน้างานจัดเก็บรายได้ สนง.การประปาส่วนภูมิภาค จ.ขอนแก่น ได้เปิดห้องประชุม ที่ชั้น 2 ของสำนักงาน เพื่อชี้แจงข้อสงสัยของประชาชน โดยนางศิริธร ยืนยันว่าการประปาฯ ขอนแก่น ต้องนำนโยบายของกระทรวงมหาดไทยซึ่งเป็นต้นสังกัดมาปฏิบัติ โดยการจัดเก็บค่าน้ำประปาตลอดจนการยกเว้นการจัดเก็บตามมาตรการดังกล่าว มีระเบียบที่ชัดเจน
ปัญหาที่เกิดขึ้นแก้ไขได้ โดยขณะนี้ประชาชนที่เข้าเกณฑ์ ซึ่งจะต้องไม่ใช่ ผู้ใช้น้ำประเภท T2 หรือสถานที่ราชการ หรือธุรกิจขนาดเล็ก ตลอดจน T3 หรือรัฐวิสาหกิจ, โรงงานอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ แม้ใบเรียกเก็บเงินจะระบุเป็นผู้ใช้น้ำประเภท T2 หรือ T3 แต่หากประชาชนมั่นใจว่าตนอยู่ในเกณฑ์แน่นอน ให้รีบมายื่นเรื่องเพื่อขอเปลี่ยนแปลงประเภทผู้ใช้น้ำ โดยทางการประปาจะส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบและหากเข้าเกณฑ์ก็จะได้สิทธิ์ในเดือนต่อไป ซึ่งขณะนี้มีผู้มายื่นเรื่องแล้วกว่า 2,000 ราย
อย่างไรก็ตาม กลุ่มประชาชนผู้เรียกร้องความเป็นธรรมและเท่าเทียมกันในสังคม จ.ขอนแก่น ยังเห็นว่าทางการประปาควรส่งเจ้าหน้าที่ไปสำรวจทุกครัวเรือน ไม่ใช่รอให้ประชาชนเข้ามาหา เพราะยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่ทราบข่าวสาร หรือไม่เข้าใจ
แต่นางศิริธร และนายปวเรศ ระบุว่าเจ้าหน้าที่ไม่สามารถออกไปสำรวจได้ทั้งหมด เนื่องจากมีผู้ใช้น้ำกว่า 60,000 ครัวเรือน อีกทั้งรัฐบาลก็ประชาสัมพันธ์มาตรการดังกล่าวทางสื่อทุกสื่ออยู่แล้ว