xs
xsm
sm
md
lg

“ข้าวเหนียวครูอ้อ” พร้อมพัฒนายกระดับแบรนด์สินค้าสู่สากล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นางสาวเฟื่องสกุล อินทร์สละ
ศูนย์ข่าวศรีราชา - “ข้าวเหนียวครูอ้อ” เตรียมยกระดับแบรนด์สินค้าสู่สากล หลังพบการขยายตัวของตลาดและฐานผู้นิยมบริโภคข้าวเหนียวมะม่วงเพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ เบื้องต้นจะเร่งพัฒนารูปแบบบรรจุภัณฑ์ให้ทันสมัย ก่อนนำระบบบาร์โค้ดเข้าตรวจสอบปริมาณสินค้า ขณะเดียวกัน ยังจะขยายพื้นที่จำหน่ายในหัวเมืองหลักโดยไม่ขายแฟรนไชส์ควบคู่การแตกไลน์ธุรกิจ เผยแต่ละวันยอดจำหน่ายข้าวเหนียวมูลสูงเกือบ 400 กิโลกรัม และอนาคตหากสามารถพัฒนาสินค้าจนได้มาตรฐานส่งออก ก็พร้อมเปิดตลาดเอเชียหลังพบความนิยมบริโภคข้าวเหนียวมะม่วงของคนเอเชียมีมากขึ้น

นางสาวเฟื่องสกุล อินทร์สละ ผู้บริหารรุ่นที่สองของร้านข้าวเหนียว “ครูอ้อ” ของฝากขึ้นชื่อของตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ที่ปัจจุบันมียอดจำหน่ายสูงเกือบ 400 กิโลกรัมต่อวัน เผยถึงแนวทางการพัฒนาแบรนด์สินค้า “ครูอ้อ” ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นว่า นับจากนี้ไปว่าจะเร่งพัฒนารูปแบบบรรจุภัณฑ์ให้ทันสมัยเพื่อเหมาะแก่การเป็นของฝากอย่างเต็มตัว ที่สำคัญในเร็วๆ นี้ จะนำระบบบาร์โค้ดเข้ามาใช้ในการตรวจสอบปริมาณสินค้าที่จำหน่ายออกไปในแต่ละวัน เพื่อแบ่งเบาและลดภาระแรงงานคนที่นอกจากจะต้องผลิตข้าวเหนียวมูล เพื่อให้ทันต่อความต้องการแล้ว ยังต้องแบ่งกำลังส่วนหนึ่งเพื่อจำหน่ายสินค้าหน้าร้านอีกด้วย

ขณะเดียวกัน ยังจะเพิ่มช่องทางการจำหน่าย ด้วยการกระจายสาขาไปยังหัวเมืองท่องเที่ยวหลัก และที่จะเห็นในเร็วๆ นี้ คือ การขยายสาขาข้าวเหนียวครูอ้อไปยังอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา หลังจากที่ผ่านมาได้กระจายการจำหน่ายในหลายพื้นที่ของจังหวัดชลบุรี ด้วยรูปแบบตู้คีออส ที่สำคัญการขยายสาขาจะเป็นการดำเนินงานของคนในครอบครัวโดยจะไม่มีการขายเฟรนไชส์ให้แก่ผู้ประกอบการอื่น เนื่องจากเกรงว่าจะไม่สามารถควบคุมมาตรฐานสินค้าได้

“เราโตวัยมากในแง่ของการจำหน่ายและการสร้างชื่อให้กับแบรนด์สินค้า เพราะตั้งแต่ปี 2540 ที่เราลุยธุรกิจนี้เต็มตัวในลักษณะของการเปิดหน้าร้านที่หน้าบ้านพัก ยอดขายก็เพิ่มขึ้นทุกวันและในปี 2546 ก็เริ่มขยับออกมาเป็นร้าน 4 คูหาติดถนนสุขุมวิท ในพื้นที่ตำบลบางพระ ซึ่งในช่วง 5 ปีหลังนี้ ยอดขายของเราโตมากจากการนิยมซื้อเป็นของฝากทั้งในส่วนคนพื้นที่และนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในจังหวัด ที่สำคัญในวันนี้เรายังมีกลุ่มลูกค้าเป็นชาวต่างชาติที่เข้ามาอาศัยและทำงานในเขตอำเภอศรีราชา ซึ่งกลุ่มคนต่างชาติเหล่านี้จะนิยมสั่งแพ็กมะม่วงเป็น 100 ลูกก่อนเดินทางกลับประเทศ และยังชื่นชอบการบริโภคข้าวเหนียว แต่เรายังไม่สามารถพัฒนาสู่ระบบฟรีทเพื่อนำกลับไปรับประทานในต่างแดนได้”

นางสาวเฟื่องสกุล กล่าวต่อว่า ในอนาคตหากสามารถพัฒนาข้าวเหนียวครูอ้อ จนได้มาตรฐานส่งออกก็พร้อมที่จะเปิดตลาดส่งออกข้าวเหนียวมะม่วงไปยังประเทศแถบเอเซีย ที่ขณะนี้แต่ละวันมีลูกค้าแถบเอเชียทั้ง ไต้หวัน ฮ่องกง ญี่ปุ่นและเกาหลีเข้ามาเป็นลูกค้าประจำมากขึ้นเรื่อยๆ

“พอความต้องการบริโภคข้าวเหนียวมีมากขึ้น เราก็เริ่มศึกษาว่าจะใช้มะม่วงที่ไหนที่จะรองรับตลาดได้ตลอดทั้งปี สุดท้ายก็พบว่ามะม่วงพันธุ์ทวายสามารถบังคับให้ ผลผลิตออกได้ตลอดทั้งปี เราก็ตระเวนไปตามสวนต่างๆ เพื่อคัดมะม่วง ซึ่งหากเป็นฤดูส่งออกต้นทุนการซื้อมะม่วงของเราจะสูงมาก เพราะหากเราเห็นว่ามะม่วงเกรดเอที่เจ้าของสวนคัดไว้ เพื่อส่งไปขายต่างประเทศมีความงามและเหมาะที่จะนำมาจำหน่าย เราก็จะซื้อตัดราคามายกล็อตเพื่อนำมาสต๊อกไว้ การคัดก็จะคัดกันทั้งดิบๆ แล้วนำมาบ่ม ด้วยวิธีธรรมชาติ ซึ่งมันจะมีความหอมและหวานมากกว่า วิธีนี้เสี่ยงที่จะขาดทุนเพราะมะม่วงบางทีตอนดิบสวยมาก แต่เมื่อสุกกลับมีจุดดำๆ หรือช้ำเราก็จะไม่นำออกขาย ซึ่งต้นทุนส่วนนี้เราต้องแบกรับและกล้าเสี่ยง เพื่อรักษาชื่อเสียงและคุณภาพของสินค้า”

นางสาวเฟื่องสกุล ยังเผยถึงการแตกไลน์ธุรกิจภายใต้แบรนด์ครูอ้อ ว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ได้เริ่มขยายรูปแบบการจำหน่ายสินค้าประเภทอาหารจากการเป็นที่รู้จักในเรื่งอของขนมหวาน สู่การพัฒนาอาหารคาวด้วยการเปิดร้านอาหารเวียดนาม “เฮือนครูอ้อ” เพื่อบริการผู้ชื่นชอบการรับประทานอาหารเวียดนาม โดยใช้ชื่อเสียงครูอ้อ เป็นเครื่องการันตีด้านคุณภาพการผลิต และยังเลือกทำเลใกล้ๆ กับร้านข้าวเหนียวครูอ้อ เป็นที่ตั้งซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าทั้งขาประจำและนักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้ามาอุดหนุนอย่างต่อเนื่อง และในเร็วๆ นี้ ยังจะขยายสาขา 2 ในพื้นที่อำเภอศรีราชา อีกด้วย นอกจากนั้นยังพร้อมขยายลู่ทางธุรกิจสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อีกด้วย

มะม่วงพันธุ์ดีที่ได้รับการคัดสรรก่อนนำออกจำหน่าย
น่าตาน่ารับประทานแบบนี้ ทำให้ขายดีจนต้องทำเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
กำลังโหลดความคิดเห็น