ศูนย์ข่าวศรีราชา - “จงรัก” ลงพื้นที่ทำแผน ตำรวจใจสัตว์ อุ้มเด็ก 5 คนเรียกค่าไถ่ก่อนฆ่าทิ้ง 1 ศพ ชี้คนร้ายโหดเหี้ยม สาเหตุมาจากติดหนี้การพนัน โทษสูงสุดถึงประหารชีวิต
จากกรณี จ.ส.ต.สุริยา ชะระจำนงค์ หรือ จ่าโดม ผบ.หมู่ สภ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ทำตัวเป็นหัวหน้าแก๊งนอกรีต พร้อมพวก 3 คน ดักจับนักเรียรโรงเรียนเซนต์หลุยส์ ฉะเชิงเทรา จำนวน 5 คน ไปเรียกค่าไถ่และฆ่าปิดปากเหยื่อเสียชีวิต 1 คน ส่วนพ่อของเด็กถูกอุ้มหายไป จากที่เกิดเหตุ เมื่อเช้าวันที่ 8 ส.ค.และถูกพบเป็นศพในเวลาต่อมานั้น
ล่าสุด วันนี้ (10 ส.ค.) พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร.ได้ไปดูแลคดีด้วยตนเองอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นคดีสะเทือนขวัญประชาชน อีกทั้งกลุ่มคนร้ายยังเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียเอง พร้อมได้สั่งการให้ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 พร้อมด้วยกลุ่มงานสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ตำรวจภูธรเมืองชลบุรี และตำรวจภูธรแสนสุข และตำรวจภูธรฉะเชิงเทรา ร่วมกันติดตามจับกุมคนร้ายที่ยังหลบหนี และออกหา นายสมชาย แซ่เลี่ยง คนขับรถ และบิดาของ น.ส.สิริวรรณ แซ่เลี่ยง หรอื แป้ง 1 ในเหยื่อที่ถูกอุ้มตัวเรียกค่าไถ่ โดยนายสมชาย ถูกอุ้มหายตัวไปตั้งแต่เช้าวันที่ 8 ส.ค.
ต่อมา พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เงามุข รอง ผบก.หน.ศสส.ภ.2 พร้อมกำลังออกไปติดตามจับตัวคนร้าย จนกระทั่งสามารถจับกุม จ.ส.ต.สุริยา ชะระจำนงค์ ได้เมื่อเวลา 01.30 น.วันที่ 10 ส.ค.ได้ที่บ้านเพื่อนภายในหมู่บ้านเอื้ออาทรคลองรังสิต จ.ปทุมธานี
จากนั้นมาทำการสอบสวนขยายผลจนสามารถจับกุมเพื่อนร่วมแก๊ง ได้อีก 2 คน คือ นายปุณยรักษ์ พุ่มพวง พร้อมยาบ้า 500 เม็ด ที่บ้านภายในหมู่บ้านปรารถนา 3 ต.เสม้ด อ.เมือง จ.ชลบุรี และยังตามจับกุม นางสุรีย์พร เผือดผ่อง อายุ 26 ปี ผู้เปิดห้องพักให้กักตัวเด็กนักเรียนทั้ง 5 คนระหว่างการเรียกค่าไถ่อีกด้วย แต่ยังมีคนร้าย 1 คน หลบหนีไปได้ คือ นายนิธิศ ศรีเจริญ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เร่งออกติดตามหาตัวแล้ว
ต่อมาเวลา 11.00 น.วันนี้ พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. พร้อม พล.ต.ต.พงศ์กานต์ ปัญจพรรค์ รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.บัณฑิต คุณจักร์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ได้นำตัว จ.ส.ต.สุริยามาทำแผนที่เกิดเหตุ โดยมีประชาชนให้ความสนใจ เข้ามาดูการทำแผนกันอย่างแน่นขนัด พร้อมต้องให้หน่วยกู้ภัยมูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์ มาช่วยกัน ระหว่างทำแผน ประชาชนต่างส่งเสียงด่าทอกันระงม จนต้องนำตัว จ.ส.ต.สุริยา กลับเข้ารถตู้รอดพ้นหวุดหวิดจากการถูกประชาทัณฑ์
ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า จ.ส.ต.สุริยา ชอบเล่นการพนัน จนเป็นหนี้เป็นสินจำนวนมาก และต้องหาเงินไปใช้หนี้ จึงมาวางแผนร่วมกัน โดยวันแรก เวลา 06.30 น.วันที่ 8 สิงหาคม ระหว่างที่ขับรถมาขวางหน้ารถยนต์กระบะที่นายสมชาย แซ่เลี่ยง ที่กำลังขับพานักเรียน 5 คนไปส่งที่ จ.ฉะเชิงเทรา แล้ว นายปุณยรักษ์ พร้อมด้วย นายนิธิศ ได้ใช้อาวุธปืนเข้าไปจี้ พร้อมยัดข้อหาเสพยาบ้าให้นายสมชายแล้วสวมกุญแจมือไพล่หลังจับขึ้นรถไป
เมื่อขับมาจนถึงบริเวณถนนบางพระ-เหมือง ต.เหมือง อ.เมือง จ.ชลบุรี ก็ใช้เชือกรัดคอนายสมชายจนเสียชีวิต จากนั้นก็นำศพไปทิ้งไว้ในป่าลึกห่างข้างทาง 700 เมตร โดยทั้งสองพาไปชี้ที่เก็บศพได้อย่างแม่นยำ
ต่อมา จ.ส.ต.สุริยา ได้ขับรถยนต์พา น.ส.สิริวรรณ และเด็กนักเรียนรวม 5 คนที่นั่งมาในรถขับวนไปวนมา พร้อมกับโทรศัพท์หานางมุกดา มารดาของเด็ก พร้อมกับข่มขู่เรียกค่าไถ่เป็นเงิน 3 ล้านบาท และห้ามแจ้งตำรวจ โดยนางมุกดายังไม่รู้ว่านายสมชายได้ถูกฆ่ารัดคอจนเสียชีวิตไปแล้ว ต่อมนางมุกดา ได้ต่อรองราคาเหลือ 1 ล้านบาท แต่ก็ยังไม่นำเงินส่งให้ ขณะนั้น คนร้ายทั้งหมดกักขังเด็กๆ ไว้ที่ บังกะโลแสนสบาย หน้าชายหาดบางแสน เพื่อรอการตกลงการจ่ายเงิน แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ สร้างความโกรธแค้นให้แก๊งรีดค่าไถ่ จึงตกลงกันนำเด็กทั้งหมดไปฆ่าปิดปาก เนื่องจากเด็กทั้งหมดรู้จักจ่าโดมเป็นอย่างดี
จนเวลา 02.00 น.วันที่ 9 ส.ค. จึงนำเด็กทั้งหมด ขึ้นรถขับไปที่บริเวณทางเข้าสถานที่ก่อสร้าง หมู่บ้านเอื้ออาทร ม.5 ต.ห้วยกะปิ อ.เมือง จ.ชลบุรี โดยมีจ่าโดม และนายนิธิศ ไปด้วย ระหว่างไปถึงที่เกิดเหตุ นายนิธิศลงมือใช้ผ้ารัดคอ น.ส.แป้งจนกระทั่ง น.ส.แป้งแกล้งตาย เป็นจังหวะเดียวกับจ่าโดมลงมือใช้ผ้ารัดคอ ด.ญ.ปภัสสร ธาราพิศ หรือน้องเดียร์ อายุ 14 ปี แต่เด็กสู้และดิ้นจึงเรียกนายนิธิศมาช่วยกันฆ่า แล้วปล่อยมือจาก น.ส.แป้งเพราะนึกว่าตายแล้ว
จากนั้นก็มาช่วยกันกระทืบ เตะ ต่อย กระชากลากจิกผมศีรษะ ของ ด.ญ.ปภัสสร ระหว่างนั้น เด็กอีก 3 คนที่นั่งอยู่ในรถเห็นพฤติกรรมป่าเถื่อนของจ่าโดมและพวก จึงร้องไห้กันระงม และระหว่างนั้น น.ส.แป้งก็ลุกขึ้นวิ่งหนีตายเข้าไปป่ารกลึกไปถึง 200 เมตร เข้าไปหลบซ่อนอยู่ที่ห้องน้ำของพนักงานก่อสร้าง จึงรอดตาย
ด้วยความที่จ่าโดมและพวกแค้นที่ น.ส.แป้งหนีจึงได้แสดงความถ่อยด้วยการขับรถเหยียบถอยรถทับอยู่บนร่างน้องเดียร์จนแน่ใจว่าเสียชีวิต จากนั้นได้ขับรถพาเด็กอีก 3 คนไปปล่อยทิ้งไว้ที่ริมถนนใน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา
พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า คดีนี้ คนร้ายมีความโหดเหี้ยมมาก สาเหตุมาจากเรื่องการพนัน มีหัวหน้าแก๊งเป้นตำรวจนอกรีตคือ จ.ส.ต.สุริยา ดังนั้นจึงสั่งให้ออกจากราชการตำรวจไว้ก่อน จากพฤติกรรมนี้โทษสูงสุดต้องถึงประหารชีวิต
สำหรับเหตุการณ์เรียกค่าไถ่และฆ่าทิ้งอย่างโหดเหี้ยมครั้งนี้ เกิดขึ้นตอนเช้าวันที่ 8 ส.ค. เมื่อจ่าโดมพร้อมพวก 3 คน ใช้รถยนต์ขับเข้าไปขวาง รถกระบะนิสสันฟอนเทียร์และยัดข้อหานายสมชาย แซ่เลี่ยง คนขับรถว่าเสพยาบ้า ขณะกำลังจะไปส่งลูกสาวและหลานชายสาว รวม 5 คน ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกันไปส่งเรียนหนังสือ ร.ร.เซนต์หลุยส์ โดยใช้อาวุธปืนจี้นายสมชาย พร้อมบังคับใส่กุญแจมือไพล่หลังนำตัวขึ้นรถหนีหายไป
จากนั้นคนร้าย 2 คน ก็ขึ้นรถพา น.ส.สิริวรรณ แซ่เลี่ยง อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.5 และ ด.ญ.ปภัสสร ธาราพิศ ผู้ตาย อายุ 14 ปี ชั้น ม.2 ด.ญ.บี สมศร อายุ 11 ปี ชั้น ป.4 ด.ช.ปวริศ ธาราพิศ อายุ 6 ปี ชั้นอนุบาล 3 ด.ญ.พีรดา สมศร อายุ 4 ปี ชั้นอนุบาล 1 โรงเรียนเดียวกัน มากักขังไว้ที่บังกะโลแสนสบาย หน้าชายหาดบางแสน ห้อง 3A โดยมีกลุ่มคนร้าย คือ นางสุรีย์พร เผือดผ่อง อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40/19 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี เป็นผู้เปิดห้องรอไว้ และซื้อเสื้อผ้าและอาหารมาให้กับกลุ่มเด็กและคนร้าย
จากนั้น จ.ส.ต.สุริยา ก็แสดงความเป็นคนร้ายด้วยการโทรศัพท์ไปหานางมุกดา ธาราพิศ มารดาของ ด.ญ.ปภัสสร พร้อมกับข่มขู่ให้นำเงินค่าไถจำนวน 3 ล้านบาท มาไถ่ตัวทั้งหมด รวม 6 คน แต่ต่อมานางมุกดา ได้เจรจาต่อรองจนเหลือ 1 ล้านบาท แต่สุดท้ายก็ไม่ได้จ่ายเงิน สร้างความโกรธแค้นให้แก๊ง ตร.นอกรีต จึงนำตัวเด็ก ๆ ทั้งหมด ขึ้นรถยนต์ไปยังจุดเกิดเหตุบริเวณทางเข้าที่ก่อสร้าง หมู่บ้านเอื้ออาทร ม.5 ต.ห้วยกะปิ อ.เมือง จ.ชลบุรี พยายามที่จะลงมือ ใช้ผ้าเย็นเช็ดหน้าผืนใหญ่ รัดคอฆ่า น.ส.สิริวรรณก่อน
แต่ น.ส.แป้ง ไหวตัวทันทำเป็นแน่นิ่งแกล้งตาย คนร้ายจึงหันมาลงมือ ฆ่า ด.ญ.ปภัสสร ด้วยการรัดคอและเตะ ต่อย บีบ ลาก จิกผมอย่างทารุณ และยังใช้รถยนต์ถอยเหยียบ จนมั่นใจว่า ด.ญ.ปภัสสรเสียชีวิต เนื่องจากต้องการฆ่าปิดปาก เพราะเด็ก ๆ ที่จับมาเรียกค่าไถทั้งหมด มีความสนิทสนมกันมานาน จนเด็ก ๆ เรียกกันจนติดปากว่า พ่อดมบ้าง ลุงดมบ้าง น้าดมบ้าง จึงจำเป็นต้องฆ่าปิดปาก