ฉะเชิงเทรา - เปิดใจอดีตเมียหลวงตำรวจชั่วรักร้าว ชี้ชนวนเหตุเหี้ยมโหดก่อคดีอุ้ม 5 นักเรียนเรียกค่าไถ่ก่อนฆ่าทิ้ง ระบุติดทั้งผู้หญิงและการพนันทุกรูปแบบ หลังเกิดเหตุส่งผลกระทบด้านความเป็นอยู่และสภาพจิตใจคนในครอบครัวอย่างรุนแรง เผยไม่คาดฝันว่าอดีตสามีจะทำได้ถึงขนาดนี้ ด้านเพื่อนร่วมงานระบุผู้ก่อเหตุเป็นคนเงียบเฉยไม่ยุ่งกับใคร
นางสมใจ ชะระจำนงค์ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30/1 ม.5 ต.ท่าถ่าน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา อดีตภรรยาของ ส.ต.อ.สุริยา ชะระจำนงค์ ผบ.หมู่งาน ป.สภ.พนมสารคาม ผู้ต้องหาก่อเหตุคดีอุ้ม 5 นักเรียนพร้อมผู้ปกครองเรียกค่าไถ่ เปิดเผยว่า ได้เลิกราไม่ได้อยู่ด้วยกันกับสามีมานานเกือบ 6 ปี แล้ว จากสาเหตุที่อดีตสามีเป็นคนเจ้าชู้และติดเล่นการพนันอย่างหนัก
ที่ผ่านมาได้เคยใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันมานานกว่า 10 ปีมีลูกชายด้วยกันถึง 2 คนแล้ว โดยคนโตอายุ 16 ปีกำลังเรียนอยู่ในโรงเรียนประจำจังหวัด ชื่อดังในตัวเมืองชั้น ม.4 ส่วนคนเล็กอายุเพียง 6 ขวบเศษ ซึ่งได้ถูกสามีทอดทิ้งไปตั้งแต่วัยแบเบาะเพียง 6 เดือนเท่านั้น แต่เขาเองก็ยังไม่ได้ทิ้งจากไปเสียทีเดียวยังมีการส่งเสียให้ลูกอยู่บ้าง ด้วยการทิ้งบัตรเอทีเอ็มบัญชีเงินเดือนไว้ให้ แต่เรื่องอื่นไม่ได้รับรู้ หรือยุ่งเกี่ยวกัน ในบัญชีมีเงินได้ไม่แน่นอนนัก หลังจากถูกหักบัญชีสหกรณ์มีเงินเหลือให้ใช้ในแต่ละเดือนเพียง 3,000-5,000 บาท ส่วนตนมีอาชีพรับจ้างซักผ้า เลี้ยงชีวิตครอบครัวทั้งลูกๆ และพ่อแม่
จากเหตุที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสภาพจิตใจและความเป็นอยู่ของลูกๆ อย่างมาก โดยเฉพาะเงินเดือนที่มีพอส่งเสียอยู่บ้างก็จะไม่มีอีกแล้ว ส่วนลูกคนโตเมื่อทราบข่าวจากที่ตนบอกถึงกับนิ่งอึ้งไป ไม่ยอมพูดจากับใคร และเก็บตัวอยู่แต่เพียงในห้องลำพัง และอาจส่งผลกระทบต่อไปจนถึงที่โรงเรียน อาจเป็นที่รังเกียจ ของกลุ่ม เพื่อนๆ ในชั้นเรียนได้ จึงทำให้เขาคิดมาก ตนไม่คาดฝันว่าอดีตสามีจะทำได้ถึงขนาดนี้
ขณะที่ ด.ต.ประสาร พิมลสกุล เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อนร่วมงานภายใน สภ.พนมสารคาม กล่าวว่า ส.ต.อ.สุริยา เป็นคนในพื้นที่ อ.พนมสารคาม เขต ต.ท่าถ่าน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากด้านหลังโรงพักมากนัก ได้ย้ายมาจาก กรุงเทพฯ ซึ่งเคยเป็นตำรวจรถไฟ ได้ประมาณ 8 ปี เป็นคนเงียบๆ ไม่ยุ่งกับใคร โดยปกติเขาเป็นตำรวจสายตรวจ งานป้องกันและปราบปราม จะพบหน้ากันก็ต่อเมื่อเข้ามาปล่อยแถวด้านหน้าโรงพักเท่านั้น เมื่อพบเจอกันก็ได้มีเพียงการยกมือไหว้ทักทายกันเท่านั้น และต่างฝ่ายต่างแยกย้ายกันไปทำงาน ซึ่งสายตรวจต้องทำงานอยู่ด้านนอกโรงพักตลอด จึงไม่ค่อยได้พบหน้ากัน
ขณะเพื่อนร่วมงานอีกรายระบุว่า ปัจจุบัน ส.ต.อ.สุริยา ได้อยู่กินกับเมียคนใหม่ ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ในสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งในจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นผู้หญิงที่หน้าตาดีมาก และมีส่วนสำคัญที่ทำให้ชุดสืบสวนภูธรภาค 2 สามารถติดตามจับกุมตัวได้สำเร็จ เพราะเขาเป็นห่วงภรรยาคนนี้มาก จึงได้โทรศัพท์เข้ามาหา จนถูกเจ้าหน้าที่แกะรอยติดตามจับกุมตัวได้สำเร็จ
"เขาเป็นคนที่ชอบเล่นและติดการพนันอย่างหนัก ทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการพนันฟุตบอลยูโรที่ผ่านมา ทำให้เขามีหนี้สินท่วมท้นมากมาย นอกจากนี้ยังชอบแทงสนุกเกอร์ ที่มีราคาเดิมพันถึงลูกละ 1 พันบาท เพื่อนตำรวจที่ใกล้ชิดเผย"
นางสมใจ ชะระจำนงค์ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30/1 ม.5 ต.ท่าถ่าน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา อดีตภรรยาของ ส.ต.อ.สุริยา ชะระจำนงค์ ผบ.หมู่งาน ป.สภ.พนมสารคาม ผู้ต้องหาก่อเหตุคดีอุ้ม 5 นักเรียนพร้อมผู้ปกครองเรียกค่าไถ่ เปิดเผยว่า ได้เลิกราไม่ได้อยู่ด้วยกันกับสามีมานานเกือบ 6 ปี แล้ว จากสาเหตุที่อดีตสามีเป็นคนเจ้าชู้และติดเล่นการพนันอย่างหนัก
ที่ผ่านมาได้เคยใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันมานานกว่า 10 ปีมีลูกชายด้วยกันถึง 2 คนแล้ว โดยคนโตอายุ 16 ปีกำลังเรียนอยู่ในโรงเรียนประจำจังหวัด ชื่อดังในตัวเมืองชั้น ม.4 ส่วนคนเล็กอายุเพียง 6 ขวบเศษ ซึ่งได้ถูกสามีทอดทิ้งไปตั้งแต่วัยแบเบาะเพียง 6 เดือนเท่านั้น แต่เขาเองก็ยังไม่ได้ทิ้งจากไปเสียทีเดียวยังมีการส่งเสียให้ลูกอยู่บ้าง ด้วยการทิ้งบัตรเอทีเอ็มบัญชีเงินเดือนไว้ให้ แต่เรื่องอื่นไม่ได้รับรู้ หรือยุ่งเกี่ยวกัน ในบัญชีมีเงินได้ไม่แน่นอนนัก หลังจากถูกหักบัญชีสหกรณ์มีเงินเหลือให้ใช้ในแต่ละเดือนเพียง 3,000-5,000 บาท ส่วนตนมีอาชีพรับจ้างซักผ้า เลี้ยงชีวิตครอบครัวทั้งลูกๆ และพ่อแม่
จากเหตุที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสภาพจิตใจและความเป็นอยู่ของลูกๆ อย่างมาก โดยเฉพาะเงินเดือนที่มีพอส่งเสียอยู่บ้างก็จะไม่มีอีกแล้ว ส่วนลูกคนโตเมื่อทราบข่าวจากที่ตนบอกถึงกับนิ่งอึ้งไป ไม่ยอมพูดจากับใคร และเก็บตัวอยู่แต่เพียงในห้องลำพัง และอาจส่งผลกระทบต่อไปจนถึงที่โรงเรียน อาจเป็นที่รังเกียจ ของกลุ่ม เพื่อนๆ ในชั้นเรียนได้ จึงทำให้เขาคิดมาก ตนไม่คาดฝันว่าอดีตสามีจะทำได้ถึงขนาดนี้
ขณะที่ ด.ต.ประสาร พิมลสกุล เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อนร่วมงานภายใน สภ.พนมสารคาม กล่าวว่า ส.ต.อ.สุริยา เป็นคนในพื้นที่ อ.พนมสารคาม เขต ต.ท่าถ่าน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากด้านหลังโรงพักมากนัก ได้ย้ายมาจาก กรุงเทพฯ ซึ่งเคยเป็นตำรวจรถไฟ ได้ประมาณ 8 ปี เป็นคนเงียบๆ ไม่ยุ่งกับใคร โดยปกติเขาเป็นตำรวจสายตรวจ งานป้องกันและปราบปราม จะพบหน้ากันก็ต่อเมื่อเข้ามาปล่อยแถวด้านหน้าโรงพักเท่านั้น เมื่อพบเจอกันก็ได้มีเพียงการยกมือไหว้ทักทายกันเท่านั้น และต่างฝ่ายต่างแยกย้ายกันไปทำงาน ซึ่งสายตรวจต้องทำงานอยู่ด้านนอกโรงพักตลอด จึงไม่ค่อยได้พบหน้ากัน
ขณะเพื่อนร่วมงานอีกรายระบุว่า ปัจจุบัน ส.ต.อ.สุริยา ได้อยู่กินกับเมียคนใหม่ ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ในสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่งในจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นผู้หญิงที่หน้าตาดีมาก และมีส่วนสำคัญที่ทำให้ชุดสืบสวนภูธรภาค 2 สามารถติดตามจับกุมตัวได้สำเร็จ เพราะเขาเป็นห่วงภรรยาคนนี้มาก จึงได้โทรศัพท์เข้ามาหา จนถูกเจ้าหน้าที่แกะรอยติดตามจับกุมตัวได้สำเร็จ
"เขาเป็นคนที่ชอบเล่นและติดการพนันอย่างหนัก ทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการพนันฟุตบอลยูโรที่ผ่านมา ทำให้เขามีหนี้สินท่วมท้นมากมาย นอกจากนี้ยังชอบแทงสนุกเกอร์ ที่มีราคาเดิมพันถึงลูกละ 1 พันบาท เพื่อนตำรวจที่ใกล้ชิดเผย"
