ศูนย์ข่าวศรีราชา - ตร.นอกรีตพร้อมพวกรวม 4 คน ก่อเหตุอุ้ม 5 เด็ก ร.ร.เซ็นต์หลุยส์ ฉะเชิงเทรา รีดค่าไถ่ 3 ล้านบาท แต่โดนขอต่อรองเหลือ 1 ล้านบาท เนื่องจากหาเงินไม่ทัน แค้นจัดสวมวิญญาณสัตว์นรก แยกเด็กออก 2 ชุด ชุดแรก 3 คน ปล่อยทิ้งข้างถนนพนมสารคาม ส่วนอีก 2 คน รู้จักกันดีจึงนำตัวไปฆ่าปิดปาก เหยื่อแกล้งตาย รอด 1 แต่อีกรายถูกซ้อมทารุณจนขาดใจตาย ก่อนขับรถเหยียบซ้ำ
วันนี้ (9 ส.ค.) พ.ต.ท.ชัช บรรทัดเที่ยง สารวัตรเวร สภ.เมืองชลบุรี สาขาย่อยเสม็ด ได้รับแจ้ง พบศพหญิงนอนเสียชีวิต อยู่ริมถนนทางเข้าหมู่บ้านเอื้ออาทร ม.5 ต.ห้วยกะปิ อ.เมือง จ.ชลบุรี จึงรายงานไปยัง พล.ต.ต.พงศ์กานต์ ปัญจพรรค์ รอง ผบช.ภ.2 ,พล.ต.ต.บัณฑิต คุณจักร์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี, พ.ต.อ.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผกก.สภ.เมืองชลบุรี พร้อมแพทย์เวร รพ.ชลบุรี รุดเดินทางไปที่เกิดเหตุ
เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบศพ ด.ญ.ปภัสสร ธาราพิศ อายุ 14 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69/650 ม.4 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กทม. พักอยู่ที่ 182 ม.2 ต.บางคล้า อ.ราชสาส์น จ.ฉะเชิงเทรา เป็น เด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเซ็นต์หลุยส์ จ.ฉะเชิงเทรา สภาพศพมีร่องรอยบาดแผลถูกทำร้าย และลากถูหลายแห่ง แขนขาหัก มีคราบเลือดทั่วร่างกาย และบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุได้พบตัว น.ส.สิริวรรณ แซ่เลี่ยง อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่เดียวกัน และเป็นญาติกับผู้เสียชีวิต เรียนอยู่ชั้น ม.5 โรเงรียนเดียวกัน ซุกซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำบ้านพักคนงานก่อสร้างห่างจากที่พบศพประมาณ 200 เมตร
จากการสอบสวน น.ส.สิริวรรณ ทราบว่า เมื่อวานนี้ (8 ส.ค.) เวลา 07.00 น. นายสมชาย แซ่เลี่ยง อายุ 39 ปี บิดาของตนได้ขับรถยนต์กระบะแค็บ ยี่ห้อนิสสัน ฟรอนเทียร์ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ตน 2948 กทม. พาบุตรหลานและญาติพี่น้อง 5 คน ประกอบด้วย น.ส.สิริวรรณ ด.ญ.ปภัสสร ผู้ตาย, ด.ญ.เอ๋ สมสร อายุ 11 ปี อยู่ ป.4 ด.ช.ปวริศ ธาราพิศ อายุ 6 ปี ชั้น อนุบาล 3 ด.ญ.พีรดา สมสร อายุ 4 ปี ชั้นอนุบาล 1 ออกจากบ้านพักเพื่อไปส่งที่ ร.ร.เซ็นต์หลุยส์ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา
ระหว่างขับรถกระบะมาส่งถึงหน้าบริเวณ ม.ราชภัฏบางคล้า อ.ราชสาส์น จ.ฉะเชิงเทรา มีคนร้าย 3 คน ขับรถยนต์กระบะไม่ทราบยี่ห้อ สีน้ำเงิน มาจอดขวาง แล้ว 2 คนร้ายก็ลงมา ใช้อาวุธปืนจี้นายสมชายนำตัวไปขึ้นรถคนร้าย จากนั้นก็หายไปโดยยังไม่ทราบชะตากรรม ส่วนคนร้ายที่เหลือได้ขึ้นมาขับรถของนายสมชาย พา น.ส.แป้งและพวก รวม 5 คน มากักขังไว้ที่ บังกะโลแสนสบาย หน้าชายหาดบางแสน ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี ที่ห้องพักหมายเลข 3 A โดยมีกลุ่มคนร้าย คือ นางสาวสุรีย์พร เผือดผ่อง อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40/19 ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี เป็นผู้เปิดห้อง และซื้อเสื้อผ้าและอาหารมาให้เด็กและกลุ่มคนร้ายเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ใหม่
จากนั้นคนร้ายพยายามหลอกลวงกลุ่มเด็กๆ ว่า นายสมชายถูกตำรวจจับข้อหาเสพยาบ้า ซึ่งกลุ่มคนร้ายนั้น น.ส.สิริวรรณ และ ด.ญ.ปภัสสร ผู้ตาย ได้รู้จักหัวหน้าแก๊งเป็นอย่างดีเพราะสนิทชิดเชื้อ เรียกติดปากว่า พ่อดม หรือ จ.ส.ต.สุริยา ชะระจำนงค์ ผบ.หมู่ สภ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา โดยได้ติดต่อไปยังญาติพี่น้องของเด็กๆ เรียกเงินค่าไถ่เป็นเงิน 3 ล้านบาท แต่ญาติได้ต่อรองเหลือ 1 ล้านบาท เนื่องจากทางญาติไม่สามารถหาเงินมาเป็นค่าไถ่ตัวเด็กได้
เมื่อไมได้เงินตามต้องการ ทำให้กลุ่มคนร้ายไม่พอใจจึงก่อเหตุสลดขึ้น เมื่อช่วงเวลา 02.00 น วันที่ 9 ส.ค.คนร้ายได้แยกเด็กๆ ออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรก คือ ด.ช.ปวริศ, ด.ญ.พีรดา และ ด.ญ.เอ๋ นำขึ้นรถยนต์ขับกลับไป นำไปทิ้งไว้ริมถนน อ.พนมสารคาม ส่วนอีกกลุ่ม คือ น.ส.สิริวรรณ และ ด.ญ.ปภัสสร ผู้ตาย นำไปฆ่าทิ้งปิดปาก แต่ระหว่างที่ลงมือนั้น คนร้ายใช้ผ้าเย็นรัดคอ น.ส.สิริวรรณ จนแน่นิ่ง คิดว่าเสียชีวิตแล้ว แต่ความจริง น.ส.สิริวรรณ แกล้งตาย ก่อนหลบหนี คนร้ายจึงหันมาลงมือกับ ด.ญ.ปภัสสร โดยใช้ผ้าเย็นรัดคอ แต่ ด.ญ.ปภัสสร พยายามขัดขืนและหลบหนี คนร้ายจึงลงมือตบ เตะ กระทืบ จนถึงแก่ความตาย นอกจากนั้นยังใช้รถยนต์เหยียบทับร่างซ้ำเพื่อให้แน่ใจว่าเสียชีวิตจริง ส่วนตนได้วิ่งหลบหนีไปซ่อนตัวดังกล่าวจึงรอดตาย
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกปู่และย่าของเด็กทั้งหมดมาสอบสวน ให้การว่า รู้จักกับ จ.ส.ต.สุริยา ชะระจำนงค์ ผบ.หมู่ สภ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา เป็นอย่างดี นอกจากนี้ เมื่อ 29 พ.ค. 2551 จ.ส.ต.สุริยา ยังมาชิงทรัพย์เป็นเงินสด 500,000 บาท พร้อมทองคำรูปพรรณหนักรวม 17 บาทไปอีก เพราะด้วยความที่สนิทสนมกัน และเล่นการพนันที่บ่อนข้างบ้านใกล้กันเป็นประจำ
ด้าน พล.ต.ต.พงศ์กานต์ ปัญจพรรค์ รอง ผบช.ภ.2 กล่าวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ถือว่าเป็นคดีที่สะเทือนขวัญและโหดร้ายทารุณต่อประชาชนเป็นอย่างมาก ดังนั้น ตนได้สั่งการให้ศูนย์สืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ร่วมกับกลุ่มงานสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี และตำรวจสภ.เมืองชลบุรี ร่วมกันติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว ซึ่งจากการสอบสวนพยานแล้วทราบว่ามีใครบ้าง คงไม่ยากต่อการจับกุม โดยเฉพาะที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งขอให้เข้ามอบตัวโดยเร็ว และหากขัดขืนการจับกุมก็ต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาดต่อไป