สมาคมนักข่าวภูมิภาคฯ ชี้ปัญหาเขาพระวิหารทำศก.ชายแดนทรุด

สระแก้ว - สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย เผยปัญหาความขัดแย้งไทยกัมพูชา กรณีปราสาทเขาพระวิหาร กำลังส่งผลกระทบหนักต่อภาวะเศรษฐกิจชายแดน ติงสื่อระวังการนำเสนอข่าวโดยเฉพาะการปลุกระดมที่อาจจะนำไปสู่ปัญหาความขัดแย้งที่รุนแรง

วานนี้(8 ส.ค.) เวลา 14.30 น. ที่สำนักงานสมาคมนักข่าวหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย (สขนพท.) อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว นายประสิทธิ์ แสงรุ่งเรือง นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยคณะกรรมการ สมาชิกสมาคมฯ ได้ประชุมประจำเดือนคณะกรรมการ โดยภายในการประชุมยังได้มีการเปิดเวทีเสวนา เรื่องการประชุมร่วมไทย-กัมพูชา กรณีเขาพระวิหาร ที่กำลังเป็นปัญหาสำคัญที่กำลังสร้างปัญหาให้พื้นที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดและกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจชายแดนภาพร่วมไทย เนื่องจากทางประเทศกัมพูชาได้ตอบโต้ด้วยการรณรงค์ไม่ซื้อสินค้าไทยใช้เงินบาทไทย

นายประสิทธิ์ แสงรุ่งเรือง นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย ได้เริ่มพูดคุยถึงผลการเจรจาพื้นที่เขตแดนไทยบริเวณเขาพระวิหารที่ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้แต่ผลกระทบที่เกิดจากปัญหาชายแดนในส่วนของฝ่ายกำลังทหารของทั้ง 2 ประเทศ กำลังส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาวะเศรษฐกิจชายแดน เนื่องจากสินค้าไทย เงินบาทไทย ไม่เดินสะพัด ไม่มีการซื้อขายสินค้าโดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค

นายโปรย สมบัติ อุปนายก สขนทพ. กล่าวว่า แนวทางการแก้ไขปัญหาระหว่างประเทศที่กำลังกระทบต่อภาคเศรษฐกิจในชายแดนระหว่างประเทศของทั้ง 2 ฝ่าย จะต้องร่วมกันถกปัญหาร่วมกับสื่อมวลชนของประเทศกัมพูชา เพื่อที่จะหาวิธีการให้เกิดกระบวนการซื้อขายสินค้าเนื่องจากในขณะนี้ พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั่วไปได้รับผลกระทบในภาพรวม

วิธีการแก้ไขปัญหาอาจจะไม่จำเป็นที่จะต้องให้กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าชายแดนไปมีส่วนร่วมในปัญหาชายแดน แต่ควรที่จะให้เกิดผลทางการค้าเพียงอย่างเดียวเนื่องจากปัญหาชายแดน เป็นปัญหาใหญ่ที่กำลังกระทบต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจ

นายประมวล เขียวขำ เลขาธิการหอการค้าจังหวัดสระแก้ว ในฐานะกรรมการบริหารฝ่ายต่างประเทศ สมาคมฯ กล่าวเสริมว่า หลังจากปัญหา เขาพระวิหารเกิดขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมของทางเศรษฐกิจชายแดนเกิดการซื้อขายลดน้อยลง ซึ่งตรวจสอบได้จากปริมาณเม็ดเงินการส่งออกในปี 2550 การค้าชายแดนไทยสามารถส่งออกได้ถึง 20,000 ล้านบาท แต่ในขณะที่เม็ดเงินการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ตั้งแต่เดือนมกราคม-มิถุนายน 2551 สามารถส่งออกได้เพียง 14,000 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 65 ของการส่งออกในปีที่แล้ว ซึ่งหากคำนวณจะเป็นตัวเลขที่สูง แต่ในอนาคตกำลังจะเกิดปัญหาที่กระทบต่อพ่อค้าแม่ค้าในระดับรากหญ้า เพราะไม่เกิดกระบวนการค้าในพื้นที่

ด้านนายประสิทธิ์ แสงรุ่งเรือง นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ภูมิภาคแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในแนวทางการแก้ไขปัญหา ขณะนี้ ถือเป็นงานของพี่น้องสื่อมวลชนทุกคนที่จะต้องช่วยกันประชาสัมพันธ์เพื่อลดปัญหาความขัดแย้ง เพราะปัญหาแนวเขต เขาพระวิหาร ถือเป็นปัญหาที่มีความละเอียดอ่อน ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2505 ซึ่ง ประเทศกัมพูชา จะได้เปรียบเนื่องจากแนวทางการดำเนินการนั้นได้มีการจัดเก็บระบบแนวคิดการวางแผนประชาสัมพันธ์อยู่ตลอดเวลา

ดังจะเห็นว่า ทุกครั้งเมื่อมีการเคลื่อนไหว ยกตัวอย่างในกรณีการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในปี 2548 ได้เดินทางไปลงนามในเรื่องผลประโยชน์ระหว่างประเทศไม่ว่าจะเป็นการเปิดการค้าชายแดนหรือการใช้ประโยชน์ในเรื่องก๊าซธรรมชาติ ในฝั่งของ กัมพูชา รัฐบาลกัมพูชา ได้ทำการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนภายในประเทศได้รับทราบรับรู้แล้วยังได้มีการทำรายงานไปยัง ยูเนสโก้ อย่างเป็นระบบ ในขณะที่ในฝั่งไทยก็ไม่เคยมีใครรู้เรื่องนี้ จึงเป็นปัญหาที่ทำให้คนไทยไม่มีความเข้าใจ

ดังนั้นแนวทางที่ควรจะทำในขณะนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องยุติการนำเสนอข่าวที่สร้างปัญหาให้เกิดการยั่วยุ ปลุกระดม แต่ควรที่จะหันมาพูดความจริง และสร้างความสงบสุขภายในบ้านเมืองจากนั้นก็ทำการประชาสัมพันธ์ให้พ่อค้าแม่ค้าชายแดน สามารถที่จะทำการค้าได้ แล้วค่อยประชุมเจรจาร่วมกันกับผู้นำของประเทศกัมพูชา

"สำหรับแนวทางการขับเคลื่อนของ สขนทพ. ในอนาคตอันใกล้ จะมีการเปิดเวทีเสนาร่วมกับสื่อมวลชนของ ประเทศกัมพูชา โดยจะมีการเชิญ รัฐมนตรีของกัมพูชาและของไทยเข้าร่วมเสวนาเพื่อหาทางออกทางสังคมทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการหาแนวทางลดความขัดแย้ง ทางการเมือง ทางการทหารและทางสังคมของ 2 ประเทศด้วย" นายประสิทธิ์ กล่าว