สภาถกกรอบการสำรวจ-จัดทำหลักเขตชายแดนไทย-กัมพูชาบ่ายนี้ เพื่อให้ผ่านขั้นตอน ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 190 “สมศักดิ์” ยันไม่สอดไส้ญัตติแก้ไข รธน.ฉบับ “หมอเหวง” ที่บรรจุในวาระเรียบร้อยแล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า การประชุมร่วมกันของรัฐสภา ที่จะเริ่มขึ้นเวลา 13.30 น.วันนี้ (28 ต.ค.) มีสาระสำคัญ คือ การพิจารณาเรื่องด่วนกรอบการเจรจาข้อตกลงชั่วคราวไทย-กัมพูชา เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนบริเวณเขาพระวิหาร เรื่องด่วนกรอบการเจราสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกไทย-กัมพูชา ตลอดแนวในกรอบของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือเจบีซี และกลไกอื่นๆ ภายใต้กรอบนี้ ซึ่งทั้ง 2 เรื่องดังกล่าว คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ โดยมีการเชิญปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และตัวแทนจากกระทรวงกลาโหมเข้าชี้แจง เพื่อให้รัฐสภาทราบสาเหตุการพิจารณา ก่อนขอความเห็นชอบเพื่อให้ทันการเจรจาระหว่างคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา วันที่ 10 พฤศจิกายนนี้
ก่อนหน้านี้ กัมพูชาพยายามให้ไทยเร่งรัดกรอบเจบีซีที่จะแก้ปัญหาข้อพิพาทที่เขตแดน แต่ติดที่รัฐบาลไทยยังไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 กำหนดให้ลงนามในสนธิสัญญาของรัฐบาลที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงอาณาเขต ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ที่กำหนดให้การทำสนธิสัญญาใดๆ ต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาก่อน
ส่วนที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้มีประเด็นสำคัญ คือ กระทรวงการต่างประเทศจะเสนอร่างพระราชบัญญัติขั้นตอนและวิธีจัดทำหนังสือสัญญา เพื่อให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ โดยหนังสือสัญญานี้มีสาระสำคัญ ประกอบด้วย บทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทย หรือผลผูกพันงบประมาณ ผลกระทบต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจของประเทศ และผลผูกพันด้านการค้า หรือการลงทุนของประเทศ
ขณะที่ นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รองหัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวยืนยันว่า การประชุมรัฐสภาวันนี้จะไม่มีการหยิบยกเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ หรือพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ (คปพร.-ที่มี นพ.เหวง โตจิราการ) ซึ่งบรรจุอยู่ในวาระการประชุมขึ้นมาพิจารณาอย่างแน่นอน จะมีเพียงการพิจารณากรอบการเจรจาแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา ทั้งในระดับคณะกรรมการชายแดน และระดับคณะกรรมาธิการขึ้นมาพิจาณาเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม นายสมศักดิ์ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าการพิจารณาเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะดำเนินการเมื่อใด และก่อนหน้านี้ประธานวิปรัฐบาลก็ยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนเกี่ยวกับความชัดเจนที่จะพิจารณาประเด็นที่ล่อแหลมต่อความขัดแย้งทางการเมืองนี้ได้ แม้จะมีการคาดการณ์ว่าจะพิจารณาในสัปดาห์ถัดไปก็ตาม