พะเยา/เชียงราย – จังหวัดฯ-เด็ก พปช.เมืองกว๊านฯ รุมถล่ม “กรมทางหลวงชนบท” วางแผนตัดถนน 4 เลนรับ R3a / สี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ (ไทย-พม่า-ลาว-จีน) มูลค่ากว่า 1.4 พันล้านบาท แต่ “ไม่แจ้งให้ทราบ” ยกเหตุหวั่นทุ่งข้าวหอมมะลิสูญ ผู้ว่าฯ ติงต้องทำประชาพิจารณ์ถามประชาชนก่อนทำ ด้านเมืองพ่อขุนฯ เรียกประชุมอนุกรรมการฯดันรถไฟเด่นชัย-เชียงราย เชื่อมจีน หลังฝันค้างมานาน
รายงานข่าวจากจังหวัดพะเยา แจ้งว่า ที่ห้องประชุม ศูนย์ราชการจังหวัดพะเยา เมื่อเร็ว ๆ นี้นางสาวเรืองวรรณ บัวนุช ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ได้เป็นประธานการประชุมพิจารณาการดำเนินการเกี่ยวกับ ถนนสายแยกทางหลวงหมายเลข 1020 บ้านร่องทิว อ.เทิง จ.เชียงราย-แยกทางหลวงหมายเลข 1021 บ้านร่องหาด อ.จุน จ.พะเยา ซึ่งเป็นถนน 4 เลนรองรับการเชื่อมโยงกับถนน R3a จีน-ลาว-ไทย เพื่อติดตามการดำเนินโครงการก่อสร้าง หลังจากดำเนินโครงการในระยะแรกไปแล้วกว่า 5 เดือน แต่จังหวัดแทบไม่ได้รับแจ้งเรื่อง จากหน่วยงานรับผิดชอบ โดยมีผู้แทนกรมทางหลวงชนบท, ผอ.ทางหลวงชนบทจังหวัด, โยธาจังหวัด, ส.ส.พรรค พปช.จังหวัดพะเยา ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และผู้แทนบริษัทที่ปรึกษาโครงการฯ เข้าร่วมประชุม
นายอมร จันทร์สกุล ผู้แทนกรมทางหลวงชนบท กล่าวว่า โครงการก่อสร้างถนน ถนนสายแยกทางหลวงหมายเลข 1020 บ้านร่องทิว อ.เทิง จ.เชียงราย-แยกทางหลวงหมายเลข 1021 บ้านร่องหาด อ.จุน จ.พะเยา จะใช้งบประมาณในการก่อสร้างประมาณ 1,474 ล้านบาท โดยโครงการแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 มีความยาวประมาณ 5.98 กิโลเมตร, ส่วนที่ 2 ความยาวประมาณ 3.0 กิโลเมตร และส่วนที่ 3 จะมีความยาวประมาณ 34.7 กิโลเมตรทั้งหมดอยู่ในพื้นที่เชียงราย-พะเยา
ขณะนี้ได้ดำเนินการมาแล้วประมาณ 5 เดือน โดยอยู่ระหว่างการศึกษาและสำรวจออกแบบรายละเอียด จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนการออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดิน ที่ทำควบคู่ไปกับการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม, การสำรวจอสังหาริมทรัพย์กำหนดค่าตอบแทน, การจ่ายค่าตอบแทนอุทธรณ์ และขั้นตอนการดำเนินการก่อสร้าง
นายอมร กล่าวว่า กรมทางหลวงชนบท มั่นใจว่าหากโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จ จะเป็นการเพิ่มเส้นทางโครงข่ายคมนาคมรองรับการพัฒนาสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ เชื่อมโยงการค้าระหว่าง ไทย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว )และสาธารณรัฐประชาชนจีน, เพิ่มเส้นทางการขนส่งสินค้าเกษตรกรรม และอุตสาหกรรมชุมชนทำให้เกิดการเดินทางมีความคล่องตัว, ลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางและส่งเสริมการประหยัดพลังงาน โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการระยะแรกได้ประมาณ พ.ศ.2556 ในลักษณะ 2 ช่องจราจร ส่วนรูปแบบถนนแบบ 4 ช่องจราจร คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณอีก 20 ปีข้างหน้า
นางสาวเรืองวรรณ บัวนุช ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา กล่าวว่า ที่ผ่านมาจังหวัดไม่ค่อยทราบรายละเอียดโครงการนี้เท่าไรนัก เนื่องจากไม่มีการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรที่ชัดเจนจากหน่วยงานรับผิดชอบ จากนี้ไปหน่วยงานรับผิดชอบ คือทางหลวงชนบทจังหวัดพะเยา คงต้องรายงานอย่างต่อเนื่องด้วย ซึ่งผู้ว่าฯ เป็นเจ้าของพื้นที่ก็ต้องทราบว่าเกิดอะไรขึ้นในพื้นที่รับผิดชอบ
นางสาวเรืองวรรณ ยังแสดงความเป็นห่วงว่า โครงการดังกล่าวอาจส่งผลกระทบถึงโบราณสถานเวียงลอ ใน อ.จุน ซึ่งที่ผ่านมา อบต.ลอ ได้รับงบประมาณในการบูรณะโบราณสถานดังกล่าวกว่า 10 ล้านบาท เกรงว่าโบราณสถานที่มีคุณค่าของจังหวัดพะเยา จะได้รับความเสียหาย ขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบ และบริษัทที่ปรึกษาโครงการฯ คำนึงถึงเรื่องนี้ด้วย นอกจากนี้ยังต้องมีการทำประชาพิจารณ์ให้ทั่วถึง
“ที่ผ่านมาพบว่าปัญหาการก่อม็อบของประชาชนเกิดจากโครงการต่างๆ รับฟังความคิดเห็นจากประชาชนไม่ทั่วถึง ทำให้เกิดปัญหาขึ้นมากมาย”
ขณะที่นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พรรค พปช.แสดงความไม่พอใจ ที่กรมทางหลวงชนบท ดำเนินโครงการก่อสร้างถนน กรมทางหลวงชนบท สายแยกทางหลวงหมายเลข 1021-บ้านกิ่วแก้ว เชื่อมโยงสู่ถนนสายเศรษฐกิจ R3Aซึ่งเป็นเส้นทางการค้าระหว่างประเทศไทย สปป.ลาว และจีน โดยตัดผ่าน อ.เทิง จ.เชียงราย อ.เชียง คำ อ.จุน อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา แต่ไม่เคยแจ้งให้ทราบว่า ทั้งที่ตนเองเป็นตัวแทนของประชาชน หากเกิดปัญหาที่มีผลกระทบต่อประชาชน ตนก็ต้องเป็นคนแก้ ดังนั้นจึงขอให้กรมทางหลวงชนบท จะทำอะไรควรแจ้งให้ตนในฐานะผู้แทนของ ปชช.ทราบด้วย
นายวิสุทธิ์ เชื่อว่า โครงการดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวได้ เช่น การได้เปรียบเสียเปรียบ จากสินค้าหนีภาษีจากประเทศจีน ที่อาจส่งผลให้สินค้าชุมชนที่มีลักษณะคล้ายกันขายไม่ได้ เนื่องจากต้นทุนการผลิตสูงกว่า
นอกจากนี้ พื้นที่บริเวณดังกล่าวยังเป็นพื้นที่ปลูกข้าวหอมมะลิคุณภาพของจังหวัดพะเยา จะทำให้สูญเสียปริมาณผลผลิตไปมากน้อยแค่ไหน คุ้มค่ากันหรือไม่ อีกทั้งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ดินอ่อนอาจมีการทรุดตัวของดินทำให้ต้องเสียค่าซ่อมบำรุงจำนวนมาก จึงขอให้ผู้ดำเนินโครงการศึกษาให้ละเอียดก่อนเริ่มโครงการ ไม่อยากให้มีปัญหาเหมือนหลายๆเส้นทางในจังหวัดพะเยา โดยในเร็วนี้ๆ ตนจะเข้าสอบถามถึงเหตุผล ความคุ้มค่า การก่อสร้างโครงการดังกล่าวต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ต่อไปด้วย
ด้านจังหวัดเชียงราย ช่วงบ่ายวันนี้ (22 ก.ค.) นายวรชัย อุตตมชัย รองผู้ว่าราชการจังหวัด ได้เรียกประชุมคณะอนุกรรมการพัฒนาเส้นทางรถไฟเด่นชัย-เชียงราย หนึ่งในโครงข่ายคมนาคมรองรับกรอบสี่เหลี่ยมเศรษฐกิจ ที่มีการผลักดันเรียกร้องมานาน เพื่อพิจารณาถึงสภาพ-ปัญหาที่เป็นอยู่ปัจจุบัน/ข้อเสนอเพิ่มเติมจากหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ ตลอดจนงบประมาณในการดำเนินการ
