xs
xsm
sm
md
lg

ทหารกัมพูชาปล่อย 2 คนไทยชาวสุรินทร์ - หลังจับกุมไว้นาน 5 วัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทหารกัมพูชาปล่อย 2 คนไทยชาวสุรินทร์ - หลังจับกุมไว้นาน 5 วัน
สุรินทร์ - กัมพูชาส่งตัวราษฎรชาวสุรินทร์ 2 คนให้กับฝ่ายไทย หลังเข้าไปหาของป่าในเทือกเขาพนมดงรัก พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาพลัดหลงล้ำแดนเข้าไปในเขตประเทศกัมพูชาจนถูกจับกุมควบคุมตัวไว้สอบสวนรวม 5 วัน ก่อนส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ประสานงานไทย-กัมพูชาดำเนินการส่งตัวกลับที่บริเวณด่านโอร์เสม็ด

ช่วงค่ำวันนี้ (16ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 18.20 น. ที่บริเวณด่านตรวจคนเข้าเมืองโอร์เสม็ด ต.โอร์เสม็ด อ.สำโรง จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ใกล้กับผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องจอม-โอร์เสม็ด ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ พ.อ.นิเวศน์ ฉายากุล หัวหน้าชุดประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ 2 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 และนายกฤษณุ เหลืองพิบูลย์กิจ ปลัดอำเภอกาบเชิง จ.สุรินทร์ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดประสานชายแดนฝ่ายไทย เจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันอำเภอกาบเชิง จ.สุรินทร์ ได้ร่วมประชุมเจรจากับเจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชา ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ประเทศกัมพูชา มี นายวาส ปาละนิน ประธานช่องโอร์เสม็ดและรองปลัดจังหวัดอุดรมีชัย กัมพูชา เป็นหัวหน้าเจรจา

ทั้งนี้เพื่อเจรจาขอรับตัวราษฎรไทย 2 คือ นายเชี่ยวชาญ ต้องถือดี อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 272/10 ม.9 บ.ทลอกกลอง ต.โคกสะอาด อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ และ นายดุล สำราญใจ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10 ม.14 บ.ช้างมอบ ต.แนงมุด อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ที่เข้าไปล่าสัตว์ป่า เขตเทือกเขาพนมดงรัก บริเวณช่องปราสาท ตาควาย ต.แนงมุด อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ และได้พลัดหลงล้ำชายแดนเข้าไปในเขตประเทศกัมพูชา ประมาณ 2 กิโลเมตร ถูกเจ้าหน้าที่ทหารประจำชายแดน ที่ 402 ภูมิภาคทหารที่ 4 ประจำฐานปฎิบัติการปะองค์ อ.สำโรง จ.อุดรมีชัย กัมพูชา จับกุมตัวไว้ เมื่อวันที่ 12 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยชาวไทยทั้ง 2 คน ที่มีอาวุธปืนแก๊ปคนละกระบอกและถูกทหารกัมพูชาควบคุมตัวไว้สอบปากคำรวม 5 วัน

จนกระทั่งในวันนี้ ( 16 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชา ได้นำตัวราษฎรไทยทั้ง 2 คน มาส่งมอบ ให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยด้วยความร่วมมือที่ดีต่อกัน

นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ไทยและกัมพูชา ยังได้หารือกันถึงความร่วมมือด้านต่างๆ ในระดับท้องถิ่นระหว่าง 2 ประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาแม้มีความร่วมมือและความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาอย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีปัญหาหลายอย่างที่มีความเข้าใจที่คาดเคลื่อนไม่ตรงกัน เช่น ขั้นตอนการดำเนินการจับกุมชาวกัมพูชาของฝ่ายไทยที่ได้มีการดำเนินคดีด้วย ซึ่งแตกต่างจากฝ่ายกัมพูชาที่เมื่อจับกุมชาวไทยมักจะมีการเจรจาให้ปล่อยตัวมากกว่าการถูกดำเนินคดี ,การแจ้งประสานกันมีความล่าช้า จนเป็นปัญหาเกิดขึ้นในการใช้ความเหลือราษฎรของทั้ง 2 ประเทศที่ถูกจับกุมดังนั้นทั้ง 2 ฝ่าย จึงได้ฝากกรณีปัญหาดังกล่าวไปยังหน่วยเหนือของแต่ละประเทศเพื่อหาทางแก้ไจปัญหาที่เกิดขึ้นต่อไป

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลกัมพูชาได้ฝากขอบคุณเจ้าหน้าที่ไทยประจำด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม-โอร์เสม็ด ที่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชา ตลอดทั้งการอำนวยความสะดวกช่วยเหลือในด้านการรักษาพยาบาล กรณีประชาชนชาวกัมพูชาเจ็บป่วย เดินทางเข้ามารักษาตัวยังโรงพยาบาลกาบเชิงด้วยดีมาตลอด

ด้านนายดุล สำราญใจ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10 หมู่ 14 บ้านช้างมอบ ต.แนงมุด อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เล่าว่า ตนพร้อมด้วยนายเชี่ยวชาญ เข้าไปล่าหมูป่า ตามแนวเทือกเขาพนมดงรัก ในช่วงกลางคืน และได้เดินหลงทางเข้าไปในเขตประเทศกัมพูชา ขณะที่จะเดินทางกลับซึ่งเป็นช่วงเช้าวันที่ 12 ก.ค. ก็ถูกเจ้าหน้าที่กัมพูชาควบคุมตัวไปสอบปากคำ ขณะที่ถูกควบคุมตัวก็ได้รับการดูแลจากฝ่ายกัมพูชาเป็นอย่างดี จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ไทยได้ติดต่อขอรับตัวกลับดังกล่าว

ขณะที่ พ.อ.นิเวศน์ ฉายากุล หัวหน้าชุดประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ 2 อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่กัมพูชาทุกฝ่ายที่ให้การดูแลชาวไทยทั้ง 2 คน ที่พลัดหลงเข้าไปในเขตประเทศกัมพูชาขณะเข้าไปล่าหมู่ป่า ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ไทยทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ได้กำชับให้ประชาชนที่มีบ้านเรือนใกล้ชายแดนไทย-กัมพูชา ระมัดระวังในการเข้าไปในพื้นที่ชายแดน เพื่อป้องกันปัญหาที่จะตามมา แต่ยอมรับว่าชาวบ้านมีวิถีชีวิตการหาของป่าเลี้ยงชีพ ซึ่งเราต้องสร้างสำนึกที่ถูกต้องกันต่อไป

“ส่วนปัญหาที่ทางกัมพูชาร้องขอให้ฝ่ายไทยแก้ไขปัญหากรณีต่างๆ นั้น จะรายงานไปยังผู้บังคับบัญชาและหน่วยงานอื่นๆ เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกันต่อไป” พ.อ.นิเวศน์ กล่าว
เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยเข้ารับตัวชาวสุรินทร์ 2 คน
ชาวสุรินทร์ 2 คน ที่ถูกทหารกัมพูชาจับกุม
กำลังโหลดความคิดเห็น