สุรินทร์- ปัญหากรณีเขาพระวิหาร ทำการค้าการท่องเที่ยวชายแดนไทย-กัมพูชา ช่องจอม จ.สุรินทร์ เงียบเหงา ชี้ปชช. 2 ประเทศกังวลเรื่องความปลอดภัย ด้านแม่ค้ากัมพูชาขอให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาเขาพระวิหารให้เรียบร้อยโดยเร็ว เผยชาวกัมพูชาเชิงเขาพระวิหารกำลังเดือดร้อนหนักเหตุปิดด่าน ไม่สามารถเข้ามาซื้ออาหาร-น้ำดื่มจากฝั่งไทยได้ อีกทั้งเกรงไม่ปลอดภัยจากการชุมนุมขับไล่ของชาวไทย ระบุมูลค่าค้าชายแดน ช่องสะงำ-ช่องจอม 5 เดือนรวม 1,300 ล้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากรณีข้อโต้แย้งของประชาชนไทยต่อกัมพูชา ในการขอขึ้นทะเบียนประสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกและปัญหาเรื่องเขตแดนอธิปไตยไทยบริเวณเชิงเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ถึงขั้นรัฐบาลกัมพูชาได้สั่งปิดด่านผ่านแดนทางขึ้นเขาพระวิหารอยู่ในขณะนี้ ได้ส่งผลต่อบรรยากาศการค้าขายและการท่องเที่ยวที่บริเวณด่านผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เงียบเหงากว่าช่วงปกติที่ผ่านมา
ทั้งนี้อาจเกิดจากประชาชนและนักท่องเที่ยว เกิดความกังวล ไม่ค่อยมั่นใจในเรื่องความปลอดภัย ต่อสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างไทยกับพูชาในกรณีปัญหาเขาพระวิหารดังกล่าว ถึงแม้ขณะนี้ด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับชุมนุมโอร์เสม็ด ต.โอร์เสม็ด อ.สำโรง จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ยังคงเปิดทำการให้ประชาชน พ่อค้าแม่ค้าทั้ง 2 ประเทศเดินทางเข้า-ออก ตามปกติก็ตาม
รวมทั้งเจ้าหน้าที่ด่านผ่านแดน ตำรวจ ทหาร ทั้งไทย-กัมพูชา เองก็ยังทำงานปฏิบัติหน้าที่กันตามปกติ โดยหน่วยงานระดับสูงทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่ได้มีคำสั่งเป็นกรณีพิเศษลงมาแต่อย่างใด
ขณะที่บรรดาพ่อค้า แม่ค้า ชาวกัมพูชา ในตลาดชายแดนบริเวณด่านผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชาช่องจอม ส่วนใหญ่ มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่เขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ถึงขั้นต้องปิดด่านผ่านแดน เป็นเรื่องที่รัฐบาลกัมพูชาต้องชี้แจงและเร่งแก้ไขให้สำเร็จเรียบร้อยโดยเร็ว เพื่อให้บรรยากาศการติดต่อค้าขายระหว่างประชาชนทั้ง 2 ประเทศ เป็นไปด้วยดี
โดยเฉพาะชาวกัมพูชา ที่อาศัยอยู่บริเวณเชิงเขาพระวิหาร ตอนนี้กำลังเดือดร้อนมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะต้องพึ่งพาในการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค อาหาร และน้ำดื่มจากฝั่งประเทศไทย แต่เมื่อรัฐบาลทำการปิดประตูทางเข้าเขาพระวิหารแล้ว ทำให้ชาวบ้านเหล่านั้นรวมทั้งเจ้าหน้าที่ของกัมพูชาในพื้นที่ไม่สามารถหาซื้ออาหารและน้ำดื่มได้ เนื่องจากมีอยู่ช่องทางเดียวคือด้านฝั่งไทยเท่านั้น ประกอบกับเกรงว่า จะไม่ได้รับความปลอดภัยเพราะมีชาวไทยไปชุมนุมประท้วงขับไล่อยู่ที่นั่นด้วย
“อย่างไรก็ตาม ล่าสุดรัฐบาลยังได้บอกชาวกัมพูชาที่เชิงเขาพระวิหารว่า จะปิดด่านประตูเข้าเขาพระวิหารต่อไปอย่างไม่มีกำหนด จนกว่าจะแก้ปัญหาสำเร็จ ซึ่งขณะนี้ชาวกัมพูชาที่นั่นเดือดร้อนกันมากแล้ว ” แม่ค้าตลาดชายแดนไทย-กัมพูชา ช่องจอม รายหนึ่งกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำนักงานด่านศุลกากรช่องจอมจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งดูแลรับผิดชอบพื้นที่ด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ และ ด่านผ่านแดนถาวรช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ รายงานมูลค่าการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้ง 2 ด่าน ช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา ระบุว่า มีมูลค่าการค้ารวมกว่า 1,345 ล้านบาท โดยไทยได้เปรียบดุลการค้า แบ่งเป็นการส่งออก กว่า 1,300 ล้านบาท นำเข้ากว่า 45 ล้านบาท
แยกเป็นด่านผ่านแดนช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ มีมูลค่าการส่งออก 430.90 ล้านบาท มูลค่าการนำเข้า 17.79 ล้านบาท ส่วนด่านช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ มีมูลค่าการส่งออก 876.67 ล้านบาท และมูลค่าการนำเข้า 28.89 ล้านบาท
ทั้งนี้สินค้าส่งออกไปยังประเทศกัมพูชาส่วนใหญ่ เป็น น้ำมันเชื้อเพลิง รถยนต์มือสอง รถบรรทุกรถเพื่อการก่อสร้าง เป็นต้น ส่วนสินค้านำเข้าจากประเทศกัมพูชา ส่วนมากเป็น เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม รถจักรยานมือสอง และ สินค้าการเกษตร เป็นต้น