บุรีรัมย์ - ตัวแทนกลุ่มวิสาหกิจชุมชน 6 กลุ่ม เทศบาลตำบลคูเมืองกว่า 100 คน บุกเข้าแจ้งความและร้องอำเภอ ให้ตรวจสอบเอาผิดนายกเล็กคูเมืองและทีมผู้บริหาร กล่าวหาโยกงบสาธารณูปโภคมาแจกจ่ายให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนให้กลุ่มพวกพ้องไม่ถูกต้องและเลือกปฏิบัติ ด้านปลัดเทศบาลฯ ปัดไม่เป็นความจริง ยันเบิกจ่ายให้สมาชิกกลุ่มทุกคนไม่ละเว้น
วานนี้ (11 ก.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. ตัวแทนกลุ่มวิสาหกิจชุมชน 6 กลุ่ม ในเขตเทศบาลตำบลคูเมือง อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ กว่า 100 คน ได้นำเอกสารหลักฐานเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คูเมือง ให้ตรวจสอบดำเนินคดีกับ น.ส.นิภาพร เลี้ยงผ่องพันธุ์ นายกเทศมนตรีตำบลคูเมืองและคณะบริหาร โดยกล่าวหาว่า ได้โยกงบประมาณสาธารณูปโภค กว่า 9,700,000 บาท ไปเป็นงบวิสาหกิจชุมชน เพื่อจ่ายให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่เป็นพวกพ้อง และหัวคะแนนตนเอง ไปลงทุนทำการเกษตรและเลี้ยงสัตว์ จำนวน 13 กลุ่ม รวมกว่า 480 ครัวเรือน ๆละ 20,000 บาท
ส่วนชาวบ้านอีก 6 กลุ่มที่เหลือประมาณ 150 ครัวเรือน ทางเทศบาลตำบลคูเมืองกลับไม่ยอมอนุมัติเงินให้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวของผู้บริหารเทศบาลเป็นการเลือกปฎิบัติ ทั้งที่ได้มีการจัดตั้งกลุ่มตามหลักเกณฑ์ทุกอย่าง นอกจากนี้กลุ่มข้าราชการ เช่น ตำรวจ ครู และพยาบาล ยังมีรายชื่อรับเงินดังกล่าวอีกด้วย
ต่อมาชาวบ้านกว่า 100 คน ได้เดินทางไปยังยื่นหนังสือที่ที่ว่าการอำเภอคูเมือง เพื่อให้เข้าไปตรวจสอบเอาผิดกลุ่มผู้บริหารเทศบาลดังกล่าวด้วย
นางอำพร ประวงศ์อานุภาพ อายุ 45 ปี อยู่เลขที่ 249 หมู่ 7 ต.หนองขมาร อาชีพขายอาหารในสถานศึกษา กล่าวว่า หลังจากทราบว่าจะมีการจัดงบประมาณโครงการดังกล่าว ได้จัดตั้งกลุ่มค้าขายขึ้นหวังได้เงินอุดหนุนมาเป็นทุนในการค้าขาย แต่มีแสข่าวว่ากลุ่มที่ไม่เคยเป็นหัวคะแนนในการเลือกตั้งเทศบาลเมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมาจะไม่ได้รับเงินอุดหนุน ซึ่งหลังจากมีการเบิกเงินโครงการดังกล่าวออกมาแล้ว ปรากฏว่าทั้งหมด 6 กลุ่มรวมแล้วกว่า 150 ครัวเรือนไม่ได้รับเงินตามข่าวลือที่เกิดขึ้น ซึ่งการเข้ามาแจ้งความในครั้งนี้เพื่อเอาผิดกับนายกเทศมนตรีและฝ่ายบริหารทั้งหมด เพราะถือว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ ประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรม
ด้านนายบรรจง สีเหม่น สมาชิกเทศบาลตำบลคูเมือง กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวของเทศบาลตำบลคูเมือง ไม่ถูกต้องเพราะนำงบประมาณด้านอื่นมาแจกจ่ายให้กับประชาชนตามสัญญาที่หาเสียงไว้ว่าหากได้รับเลือกจะแจกให้ครอบครัวละ 30,000 บาท สังเกตจากการแบ่งกลุ่มรายชื่อผู้ที่ได้รับการอนุมัติจะชัดเจนว่าจ่ายให้กับพวกพ้องซึ่งเป็นหัวคะแนนทั้งหมด ซึ่งที่ผ่านมาเคยร้องเรียนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กระทั่งจังหวัดได้สั่งให้ชะลอโครงการแล้ว แต่กลับมีการเบิกจ่ายเงินได้อีก โดยหลังจากนี้จะเดินหน้าขอความเป็นธรรมให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจนถึงที่สุด
ขณะที่นายอนุรักษ์ นิตย์กระโทก ปลัดเทศบาลตำบลคูเมือง กล่าวว่า เทศบาลได้จัดหางบประมาณให้ประชาชนที่มีรายได้น้อยนำเงินไปลงทุนเพื่อต่อยอด เช่นการลงทุนเลี้ยงโค การเพราะกล้ายูคา และอื่นๆตามแต่กลุ่มถนัด ซึ่งได้มีการลงทะเบียนที่เทศบาลตามระเบียบ แล้วมีการเบิกจ่ายให้กับสมาชิกกลุ่มทุกคนโดยไม่มีการละเว้นแต่อย่างใด
ส่วนเงินงบประมาณของเทศบาลสามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ นอกจากนี้โครงการดังกล่าวได้มีการอนุมัติผ่านความเห็น ชอบจากสภาเทศบาลและเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดทุกขั้นตอนตามระเบียบ สำหรับชาวบ้านที่เข้าไปแจ้งความที่ สภ.คูเมือง ทางเทศบาลไม่ทราบเรื่องมาก่อน เพราะทั้ง 6 กลุ่มที่กล่าวอ้างว่าไม่ได้รับเงินนั้นทั้งหมดไม่มีรายชื่อการตั้งกลุ่มอยู่ในเทศบาลมาก่อน และไม่เคยทราบว่า 6 กลุ่มได้จัดตั้งมาอย่างไร อย่างไรก็ตามการแจ้งความดังกล่าวหากเทศบาลได้รับความเสียหายก็พร้อมที่จะแจ้งความกลับทันที