ศูนย์ข่าวศรีราชา - พันธมิตรพัทยา-ชลบุรีโห่ไล่ “สมชาย” ขณะเดินทางไปเปิดงานสัมมนาโรงเรียนในฝันรุ่น 2 ขยายฐาน โรงเรียนคุณภาพเพิ่มอีก 867 โรงทั่วประเทศ
วันนี้ (11 ก.ค.) นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีปิดการประชุมสัมมนาผู้บริหารโรงเรียนในฝันรุ่นที่ 1 และรุ่นที่ 2 ที่มีบุคลากรทางการศึกษาจากทั่วประเทศกว่า 2,000 คนเข้าร่วม พร้อมทำพิธีเปิดโรงเรียนในฝันรุ่นที่ 2 ณ.โรงแรมแอมบาสเดอร์ ซิตี้ จอมเทียน พัทยา
โดย นายสมชาย ได้กล่าวถึงมิติการพัฒนาเด็กไทย ว่า จากการสรุปผลการดำเนินงานโครงการโรงเรียนในฝันรุ่นที่ 1 ซึ่งมีกระจายอยู่ทุกอำเภอทั่วประเทศ 921 โรง โดยดำเนินตามกลยุทธ์หลักที่สำคัญ คือ การสร้างพลังขับเคลื่อนให้โรงเรียนมีระบบการบริหารจัดการที่ดี มีความคล่องตัว มีประสิทธิภาพ และให้โรงเรียนพัฒนาหลักสูตร พัฒนากระบวนการเรียนรู้เชิงบูรณาการ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาความรู้ ความสามารถ ตลอดจนคุณลักษณะอันพึงประสงค์ นักเรียนมีทักษะในการดำรงชีวิตที่ดี ทำให้กระบวนการเรียนรู้และการบริหารจัดการเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้เรียน
อีกทั้งระดมสรรพกำลังสนับสนุนจากภาคีเครือข่ายจากชุมชน จากองค์กรทั้งภาครัฐ เอกชน ในรูปแบบการร่วมพัฒนา ซึ่งผลการดำเนินงานดังกล่าวทำให้โรงเรียนเป็นที่ยอมรับของผู้ปกครอง และชุมชนมากขึ้น ดังจะเห็นได้จากมีนักเรียนเพิ่มขึ้นทุกปี ในกลุ่มโรงเรียนในฝันเหล่านี้ ทั้งนี้ในปีการศึกษา 2550 ทาง สพฐ.จึงได้ขยายผลกลุ่มเป้าหมายเพิ่มเป็นอำเภอละ 1 โรงให้เป็นโรงเรียนในฝันรุ่นที่ 2 รวม 867 โรงเรียน เมื่อรวมกับโรงเรียนรุ่นที่ 1 ก็จะทำให้มีโรงเรียนในฝันทั้งระดับประถมและมัธยม
ศึกษาในแต่ละอำเภอรวมทั้งสิ้น 1,788 โรงเรียน เพื่อให้มาตรฐานการศึกษาและโรงเรียนมีคุณภาพทัดเทียมกันทั่วประเทศ ทั้งนี้นายสมชาย ยังได้มอบโล่ประกาศเกียรติแก่ผู้อุปถัมภ์ 16 รายอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้าก่อนที่จะมีพิธีเปิดการประชุมอย่างเป็นทางการ ได้มีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยภาคตะวันออกกว่า 20 คน ได้ร่วมขบวนถือป้ายประท้วง โห่ไล่ และตำหนิการทำงานของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมต.ศึกษาธิการ บริเวณหน้าสถานที่จัดประชุม จนกระทั่ง นายสมชาย ได้เดินทางด้วยรถยนต์ บีเอ็มดับเบิลยู สีดำ ทะเบียน 9995 กทม.มาถึงก็ต้องพบกับกลุ่มของพันธมิตรฯ แต่ก็ได้ปลีกตัวไปโดยไม่ให้ความสนใจ ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.สัตหีบ จำนวนกว่า 10 นาย และพนักงานของโรงแรม ทำการปิดกั้นไม่ให้กลุ่มผู้ชุมชนเดินทางเข้าด้านใน จนเกิดมีปากเสียงและกระทบกระทั่งกันเล็กน้อย ก่อนที่กลุ่มพันธมิตรฯ จะทำการสลายตัวไปในที่สุด