xs
xsm
sm
md
lg

“เติ้ง” หลั่งน้ำตาคลี่ผ้าดำคลุมป้ายพรรค-ลั่นพ้นโทษกลับมาลุยการเมืองอีก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ลูกปลาไหลน้ำตาท่วม หลังทำพิธีคลุมผ้าดำปิดป้ายพรรคถาวร “เติ้ง” ประกาศสู้ อีก 5 ปี หลังพ้นโทษ อายุ 81 ยังพร้อมกลับมาเล่นการเมืองต่อ อ้างยอมรับชะตากรรม หากยุบพรรคเพื่อแลกกับพันธมิตรฯ สลายการชุมนุม พ้อขอรับผิดเพียงผู้เดียวไม่สามารถรักษาพรรคไว้ได้

เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 3 ธ.ค.นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตหัวหน้าพรรคชาติไทย พร้อมด้วยสมาชิกพรรค ได้ร่วมกันทำพิธีปิดป้ายพรรคชาติไทย ที่หน้าสำนักงานพรรคชาติไทย ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า ได้มีสมาชิกจากพรรคชาติไทยพัฒนา รวมทั้ง นายชุมพล ศิลปอาชา ซึ่งคาดว่าจะมาเป็นหัวหน้าพรรคมาร่วมพิธีครั้งนี้ด้วย

นายบรรหาร ได้กล่าวเปิดใจว่า ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยไม่ได้นึกไม่ได้ฝัน ว่า ปลายทางของพรรคจะมาสิ้นสุดเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.โดยไม่ได้สิ้นสุดด้วยตัวเอง แต่มาสิ้นสุดเพราะคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นวันที่ศาลรัฐธรรมนูญได้เปิดโอกาสให้แถลงปิดคดียุบพรรคชาติไทย เรื่องนี้ นายมณเฑียร สงฆ์ประชา ผู้สมัคร ส.ส.ชัยนาท พรรคชาติไทย ได้รับใบแดง ทั้งที่ไม่ได้กระทำผิดและผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ที่ซื้อเสียง นายมณเฑียร ก็ไม่รู้จัก ทั้งที่ กกต.จังหวัดก็สอบสวนว่าเรื่องนี้ไม่มีหลักฐานข้อมูล จึงได้ยุติเรื่องไป แต่เมื่อถึง กกต.กลาง กลับไม่เชื่อ ตั้งอนุกรรมการกลางขึ้นมา ซึ่งก็สอบว่าผิด ซึ่งก็ถือว่ามีความขัดแย้งกันเมื่อเรื่องเข้าสู่ กกต.กลางอีกครั้ง ก็ได้ตั้งอนุกรรมการขึ้นมา โดยมี นายบุญทัน ดอกไธสง เป็นประธาน ซึ่งได้สรุปว่าไม่มีหลักฐาน จึงได้ยุติเรื่อง แต่ กกต.กลาง ก็ไม่เชื่อไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร แต่ก็ได้ให้ที่ปรึกษากฎหมายซึ่งเป็นคนร่างมาตรา 237 ของรัฐธรรมนูญ 2550 มาพิจารณา แต่ไม่สามารถชี้ชัดว่าจะลงโทษอย่างไร จึงได้ส่งเรื่องให้อัยการส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา

นายบรรหาร กล่าวว่า น่าสังเกตว่า หนึ่งในผู้ต้องหาคดีซื้อเสียง ถูกยกฟ้อง เพราะอัยการจังหวัดเห็นว่าหลักฐานไม่เพียงพอที่จะฟ้องคดีอาญา แต่ปรากฏว่า กกต.กลาง ก็ให้ใบแดงไปแล้ว และที่น่าผิดสังเกต คือ รีบเร่งเกินไป แล้วเมื่อส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเราก็คาดหวังว่าจะได้รับความเป็นธรรม เพราะขณะนี้ฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติก็ง่อนแง่น เหลือเพียงฝ่ายตุลาการเท่านั้น แต่ปรากฏว่า ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีการเปิดโอกาสให้นำพยาน 19 ปาก มาชี้แจงแต่กลับบอกว่าเอกสารหลักฐานเพียงพอแล้ว งดการไต่สวน และให้หัวหน้าพรรคมาแถลงปิดคดีในวันที่ 2 ธ.ค.ซึ่งหากให้พรรคชาติไทยได้นำพยาน 19 ปากมาชี้แจง เชื่อว่า จะได้ความเห็นที่แตกต่างกว่าการอ่านเอกสาร เพราะฟังด้วยวาจา แต่ในที่สุดก็บอกว่าให้ฟังการตัดสิน ซึ่งหัวใจเราถึงตาตุ่ม ตนฟันธงว่า ไปแน่ๆ แม้พยายามจะชี้แจงกับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 9 ท่าน ก็ไม่ทราบว่าท่านจะฟังหรือไม่ว่าพรรคชาติไทยไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ แต่เราเป็นสถาบันการเมือง ที่ตั้งมาถึง 34 ปี ผ่านวิกฤตทางการเมืองมาหลายครั้ง จะโดนยุบถึง 2 ครั้ง แต่ก็ไม่เสียใจ เพราะคนละรูปแบบกับวันนี้

“ผมหัวใจแทบวายเมื่อประธานศาลรัฐธรรมนูญบอกว่าสักครู่ให้รอฟังคำตัดสิน ทำไมไม่ใช้ดุลพินิจ ไม่รอสัก 4-5 วัน แบบนี้ตรงกับที่พันธมิตรฯ พูดว่า รัฐบาลชุดนี้จะไม่ได้เข้าเฝ้าฯในวันที่ 4 ธ.ค.แบบนี้ความศรัทธาในกระบวนการยุติธรรมในประเทศไทยจะหาไม่ได้ก็ลำบาก ประเทศชาติก็จะสิ้นเนื้อประดาตัว ขณะนี้ก็เหมือนล้มละลายอยู่แล้ว สนามบินก็ถูกยึดไปแล้ว ผมไม่สามารถที่จะรักษาพรรคไว้ได้ ต้องขอโทษเพื่อนสมาชิกที่ท่านไม่ได้ทำอะไรผิด แต่พรรคถูกยุบ แต่เขาบอกว่าเราผิด เขาบอกว่า กรรมการคนอื่นๆ ก็ต้องรับรู้ด้วย กฎหมายแบบนี้เขียนได้อย่างไร ต้องขอโทษทุกคน หัวหน้าพรรคยอมรับผิดเพียงผู้เดียว ที่ไม่สามารถนำพรรคชาติไทยไปได้ตลอดรอดฝั่ง ไม่สามารถจัดงานครบรอบปีที่ 35 36 และ 37 ได้” นายบรรหาร กล่าวด้วยเสียงสั่นเครือ

นายบรรหาร กล่าวต่อว่า การเมืองขณะนี้พรรคการเมืองถือว่ามีความสำคัญ หากเราไม่สร้างพรรคการเมืองให้เข้มแข็ง ก็คงไม่สามารถผ่านมาได้ง่ายๆ ยิ่งมาเจอกระบวนการแบบนี้ ประเทศชาติจะไปได้อย่างไร ดังนั้น ถึงบอกว่าต้องแก้รัฐธรรมนูญ

“หากตัดสินพรรคชาติไทยอย่างนี้ เพื่อให้พันธมิตรฯ ออกจากสนามบินทุกแห่ง ทำเนียบ รวมถึงทุกจุด พรรคชาติไทยก็ยอมรับชะตากรรมอันนี้เพื่อแลกให้ทางโน้นเขาออก ผมพูดด้วยหัวใจไม่มีอะไรจะพูดอีกแล้ว ผมทำดีที่สุดแล้ว ทำงานเพื่อประเทศชาติและรักษาสถาบัน ใครจะมาก้าวล่วงไม่ได้ ผมสู้ตาย บางคนที่บอกว่าสู้ตายนั้นสู้แต่ปาก แม้ผมจะถูกเพิกถอนสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี อีก 5 ปี อายุ 81 ผมก็จะเล่นการเมืองต่อไปอีก และผมขอขอบคุณตุลาการท่านหนึ่งที่บอกว่าพรรคชาติไทยไม่ผิด ขอคารวะไว้ด้วย แม้ผมจะไม่ทราบว่าเป็นใคร แต่อีก 8 ท่านไม่ขอขอบคุณ พบหน้าจะรู้จักหรือไม่ ตอบไม่ได้ แต่ผมไม่ทัก” นายบรรหาร กล่าว

เมื่อถามว่า เหมือนเป็นการถูกรังแกหรือไม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ตนคงตอบไม่ได้ว่าถูกรังแกหรือไม่ แต่เขามีอำนาจตัดสิน แต่สงสัยว่าทำไมถึงรีบ เขียนชื่อตำแหน่ง นายมณเฑียร ยังผิดไม่รู้ว่าจะรีบร้อนไปไหน

เมื่อถามถึงการตั้งพรรคใหม่ นายบรรหาร กล่าวว่า ตนไม่เคยคิดจะตั้ง แต่พรรคพวกได้เตรียมจดทะเบียนเอาไว้แล้ว คือ พรรคชาติไทยพัฒนา ส่วนจากนี้ไปจะทำอะไรยังไม่ได้คิด ซึ่งเมื่อเช้าตนได้ไปนั่งสมาธิอยู่ในโบสถ์อยู่ครึ่งวัน ก็เห็นเมฆหมอกปกคลุม มืดครึ้ม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.25 น.นายบรรหาร ได้ทำพิธีปิดป้ายพรรคชาติไทย โดยได้มีการนำผ้าดำมาปิดชื่อพรรคไว้ทั้งหมด โดย นายบรรหาร กล่าวด้วยเสียงสั่นเครือ น้ำตาคลอเบ้าว่า ต้องขอขอบคุณ พล.ต.อ.ประมาณ อดิเรกสาร ดวงวิญญาณของ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ พล.ต.ศิริ สิริโยธิน ที่ก่อตั้งพรรคชาติไทย เมื่อวันที่ 19 พ.ย.2517 แต่วันนี้ตนไม่สามารถสืบทอดตำแหน่งหัวหน้าพรรคตามที่ได้รับมอบหมาย และไม่สามารถรักษาพรรคให้ท่านได้ วันนี้จำเป็นต้องปิดพรรคชาติไทยตามคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้ผู้ก่อตั้งพรรคได้ให้อภัยกับ ตนขอรับผิดแต่เพียงผู้เดียว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในการทำพิธีปิดป้ายพรรค เป็นไปอย่างโศกเศร้า โดยระหว่างที่นายบรรหาร ทำพิธีปิดป้ายพรรค ปรากฏว่า นางสาวกัญจนา ศิลปอาชา ลูกสาว นายบรรหาร รวมถึงอดีตกรรมการบริหารพรรค และสมาชิกพรรคที่มาร่วมพิธีต่างเก็บอาการไม่อยู่ บางคนถึงกับหลั่งน้ำตาออกมา โดยเฉพาะ ส.ส.ที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี ต่างกอดคอกันร้องไห้ด้วยความเศร้าเสียใจ










กำลังโหลดความคิดเห็น