เชียงราย - มท.1 สั่งจี้ผู้ว่าฯ เชียงรายคนใหม่ให้เร่งรัดดำเนินคดีต่อผู้กระทำความผิดคดีรุกป่าสบกก ทุกคนให้ได้และให้ขยายผลทางลับว่ามีกลุ่มข้าราชการหรือนักการเมืองรายใดอยู่เบื้องหลังให้ส่งข้อมูลลับมาที่กระทรวงมหาดไทย เพื่อส่งทีมชุดเฉพาะกิจลงพื้นที่ดำเนินการขั้นพิเศษตามมา หลังคดีครบ 1 ปี เผยสภาพพื้นที่ป่าสบกกในปัจจุบันแตกต่างจากสภาพในอดีตโดยสิ้นเชิง มีหญ้า และต้นไม้ขึ้นปกคลุม
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดเชียงรายว่า ในที่ประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย จี้นายไตรสิทธิ์ สินสมบูรณ์ทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายคนใหม่ให้เร่งรัดดำเนินคดีต่อผู้กระทำความผิดคดีรุกป่าสบกกทุกคนให้ได้และให้ขยายผลทางลับว่ามีกลุ่มข้าราชการหรือนักการเมืองรายใดอยู่เบื้องหลัง ให้ส่งข้อมูลลับมาที่กระทรวงมหาดไทย เพื่อส่งทีมชุดเฉพาะกิจลงพื้นที่ดำเนินการขั้นพิเศษตามมา
ขณะที่แหล่งข่าวระดับสูงกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า คณะสอบสวนดีเอสไอ ชุดใหม่ที่ได้รับคำสั่งแต่งตั้งเข้ามาดูแลคดีป่าสบกก แทนชุดเดิม ได้เซ็นต์คำสั่งฟ้องกลุ่มผู้กระทำความผิดเพิ่มเติมแล้ว ประกอบด้วยกลุ่มนายหน้าเจ้าของที่ดิน กลุ่มผู้ร่วมกระทำความผิดในการบุกรุกแผ้วถางป่าสบกก ซึ่งการสั่งฟ้องครั้งนี้ รวมไปถึงกลุ่มผู้บริหารบริษัทนายทุนที่ถูกออกหมายจับ 7 รายก่อนหน้านี้ด้วย ซึ่งทั้งหมดจะถูกส่งฟ้องไปที่ศาลอาญารัชดา กรุงเทพฯ ในเร็วๆ นี้
อย่างไรก็ตาม จากคดีการสอบสวนเอาผิดกลุ่มขบวนการนายทุน ที่มีเส้นสายโยงใยกลุ่มข้าราชการ บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ป่าสบกกฝั่งขวา บ้านห้วยข่อยหร่อย ม.12 ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เสียหายเป็นเนื้อที่ 916 ไร่หรือมูลค่ากว่า 62 ล้านบาท โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ที่มีนางวันดี อินทร อดีตปลัดอาวุโสอำเภอเชียงแสน เจ้าหน้าที่ป่าไม้เชียงราย เจ้าหน้าที่ทหาร เข้าตรวจยึดพื้นที่คืนจากกลุ่มนายทุน เมื่อวันที่ 7 ก.ค.50 จนถึงปัจจุบันเวลาผ่านมาครบ 1 ปี ยังไม่มีชัดเจนในการลงโทษกลุ่มผู้กระทำความผิด ซึ่งเป็นระดับผู้บริหารของบริษัทเอกชนชื่อดัง
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า สภาพพื้นที่ป่าสบกก ในปัจจุบันแตกต่างจากสภาพในอดีตโดยสิ้นเชิง ถนนที่เคยถูกตัดขวักไขว่สลับไปมาคล้ายใยแมงมุม ขณะนี้พบว่ามีหญ้าและต้นไม้ขึ้นปกคลุมจนมองไม่เห็นผิวถนนคอนกรีตแล้ว ส่วนพื้นที่ป่ารอบบริเวณแนวถนนกว่า 9 กิโลเมตรที่ถูกปรับแต่งเพื่อทำเป็นพื้นที่ปลูกยางพารานับล้านกล้า พบว่ามีการเติบโตของป่าไม้ขึ้นมาปกคลุมบริเวณส่วนที่โล้นเตียน คืนความเป็นธรรมชาติกลับมาจนเต็มพื้นที่ ที่ถูกบุกรุกลงไป
ด้าน นายทนงศักดิ์ ธรรมโม ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นชุดจับกุมในครั้งแรกกล่าวว่า จากการติดตามความคืบหน้าในพื้นที่ ก็ไม่พบว่ามีการเข้ามาของกลุ่มนายทุนรายอื่น เพื่อกระทำการรุกป่าสบกก แม้แต่รายเดียว ส่วนแผนการฟื้นฟูนั้นจะต้องรอดูผลทางคดีก่อน แต่ได้มีการหารือสำนักอนุรักษ์ที่ 15 กรมป่าไม้ไว้แล้วเตรียมเข้าฟื้นฟูสภาพป่าสบกก ให้คืนความชุ่มชื้นมากที่สุด โดยเฉพาะการปลูกต้นไม้ใหญ่โดยรอบ ที่ได้รับความเสียหายจากการถูกโค่นลงไป
ด้าน นางวันดี อินทร ปลัดหญิงเหล็ก ที่เป็นผู้จับคดีป่าสบกกตั้งแต่แรก ปัจจุบันปฏิบัติหน้าที่ปลัดอาวุโสอำเภอเวียงชัย จ.เชียงราย กล่าวว่า ป่าสบกก เป็นผืนป่าใหญ่มีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติสูง อยากให้คณะชุดทำงานดีเอสไอชุดใหม่ เร่งทำคดีอย่างถึงที่สุด เพราะอำนาจสอบสวนอยู่ในมือดีเอสไอแล้ว ผู้กระทำความผิดควรจะต้องได้รับการลงโทษได้แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดเชียงรายว่า ในที่ประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย จี้นายไตรสิทธิ์ สินสมบูรณ์ทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายคนใหม่ให้เร่งรัดดำเนินคดีต่อผู้กระทำความผิดคดีรุกป่าสบกกทุกคนให้ได้และให้ขยายผลทางลับว่ามีกลุ่มข้าราชการหรือนักการเมืองรายใดอยู่เบื้องหลัง ให้ส่งข้อมูลลับมาที่กระทรวงมหาดไทย เพื่อส่งทีมชุดเฉพาะกิจลงพื้นที่ดำเนินการขั้นพิเศษตามมา
ขณะที่แหล่งข่าวระดับสูงกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยว่า คณะสอบสวนดีเอสไอ ชุดใหม่ที่ได้รับคำสั่งแต่งตั้งเข้ามาดูแลคดีป่าสบกก แทนชุดเดิม ได้เซ็นต์คำสั่งฟ้องกลุ่มผู้กระทำความผิดเพิ่มเติมแล้ว ประกอบด้วยกลุ่มนายหน้าเจ้าของที่ดิน กลุ่มผู้ร่วมกระทำความผิดในการบุกรุกแผ้วถางป่าสบกก ซึ่งการสั่งฟ้องครั้งนี้ รวมไปถึงกลุ่มผู้บริหารบริษัทนายทุนที่ถูกออกหมายจับ 7 รายก่อนหน้านี้ด้วย ซึ่งทั้งหมดจะถูกส่งฟ้องไปที่ศาลอาญารัชดา กรุงเทพฯ ในเร็วๆ นี้
อย่างไรก็ตาม จากคดีการสอบสวนเอาผิดกลุ่มขบวนการนายทุน ที่มีเส้นสายโยงใยกลุ่มข้าราชการ บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ป่าสบกกฝั่งขวา บ้านห้วยข่อยหร่อย ม.12 ต.บ้านแซว อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เสียหายเป็นเนื้อที่ 916 ไร่หรือมูลค่ากว่า 62 ล้านบาท โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ที่มีนางวันดี อินทร อดีตปลัดอาวุโสอำเภอเชียงแสน เจ้าหน้าที่ป่าไม้เชียงราย เจ้าหน้าที่ทหาร เข้าตรวจยึดพื้นที่คืนจากกลุ่มนายทุน เมื่อวันที่ 7 ก.ค.50 จนถึงปัจจุบันเวลาผ่านมาครบ 1 ปี ยังไม่มีชัดเจนในการลงโทษกลุ่มผู้กระทำความผิด ซึ่งเป็นระดับผู้บริหารของบริษัทเอกชนชื่อดัง
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า สภาพพื้นที่ป่าสบกก ในปัจจุบันแตกต่างจากสภาพในอดีตโดยสิ้นเชิง ถนนที่เคยถูกตัดขวักไขว่สลับไปมาคล้ายใยแมงมุม ขณะนี้พบว่ามีหญ้าและต้นไม้ขึ้นปกคลุมจนมองไม่เห็นผิวถนนคอนกรีตแล้ว ส่วนพื้นที่ป่ารอบบริเวณแนวถนนกว่า 9 กิโลเมตรที่ถูกปรับแต่งเพื่อทำเป็นพื้นที่ปลูกยางพารานับล้านกล้า พบว่ามีการเติบโตของป่าไม้ขึ้นมาปกคลุมบริเวณส่วนที่โล้นเตียน คืนความเป็นธรรมชาติกลับมาจนเต็มพื้นที่ ที่ถูกบุกรุกลงไป
ด้าน นายทนงศักดิ์ ธรรมโม ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นชุดจับกุมในครั้งแรกกล่าวว่า จากการติดตามความคืบหน้าในพื้นที่ ก็ไม่พบว่ามีการเข้ามาของกลุ่มนายทุนรายอื่น เพื่อกระทำการรุกป่าสบกก แม้แต่รายเดียว ส่วนแผนการฟื้นฟูนั้นจะต้องรอดูผลทางคดีก่อน แต่ได้มีการหารือสำนักอนุรักษ์ที่ 15 กรมป่าไม้ไว้แล้วเตรียมเข้าฟื้นฟูสภาพป่าสบกก ให้คืนความชุ่มชื้นมากที่สุด โดยเฉพาะการปลูกต้นไม้ใหญ่โดยรอบ ที่ได้รับความเสียหายจากการถูกโค่นลงไป
ด้าน นางวันดี อินทร ปลัดหญิงเหล็ก ที่เป็นผู้จับคดีป่าสบกกตั้งแต่แรก ปัจจุบันปฏิบัติหน้าที่ปลัดอาวุโสอำเภอเวียงชัย จ.เชียงราย กล่าวว่า ป่าสบกก เป็นผืนป่าใหญ่มีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติสูง อยากให้คณะชุดทำงานดีเอสไอชุดใหม่ เร่งทำคดีอย่างถึงที่สุด เพราะอำนาจสอบสวนอยู่ในมือดีเอสไอแล้ว ผู้กระทำความผิดควรจะต้องได้รับการลงโทษได้แล้ว