ระยอง - มติ ครม.ไฟเขียวช่วยผู้รับเหมาภาครัฐ ทำให้ หจก.วิศิษฎ์ชัย หลังทิ้งงานสร้างถนนเลียบชายหาดระยอง ไม่โดนแบล็กลิสต์ ไม่เสียค่าปรับ
นายจิรโชติ ปัญญาประดิษฐ์ ผอ.สำนักงานทางหลวงชนบท จ.ระยอง เปิดเผยกรณี หจก.วิศิษฎ์ชัย ผู้รับเหมาก่อสร้างถนนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว สายเลียบชายทะเล หาดสุชาดา – หาดตากวน อ.เมืองระยอง ระยะทาง 2.778 กิโลเมตร ถนนคอนกรีต กว้าง 8.00 เมตร ไหล่ทางกว้างข้างละ 2.00 เมตร สัญญาเลขที่ 240/2548 ลงวันที่ 8 สิงหาคม 2548 สิ้นสุดสัญญาวันที่ 19 มกราคม 2551 งบประมาณก่อสร้างจำนวนเงิน 59,800,000 บาท ดำเนินการโดยกรมทางหลวงชนบท งบประมาณปี 2547
ปัจจุบันหยุดการก่อสร้างมานานนับปี มีการก่อสร้างงานไปประมาณ 60% เบิกเงินไปแล้วกว่า 30 ล้านบาท สาเหตุมาจากเกิดปัญหาสภาพคล่อง ขณะนี้กรมทางหลวงชนบทบอกเลิกสัญญาไปแล้ว และเข้าแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ทรัพย์สินที่มีอยู่หน้างานต้องตกเป็นของกรมฯทั้งหมดห้ามเคลื่อนย้าย ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจเนื้องานเพื่อนำมาสรุปว่าวงเงินที่เหลืออยู่ 30 ล้านบาท สามารถว่าจ้างผู้รับเหมารายใหม่เพียงพอหรือไม่ คาดว่าจะใช้เวลา 3 เดือน ก่อนที่จะประกาศประกวดราคาหาผู้รับเหมารายใหม่ได้
นายจิรโชติ กล่าวว่า หจก.วิศิษฎ์ชัย ทิ้งงานก่อนหมดสัญญาวันที่ 19 มกราคม 2551 แต่ไม่ต้องเสียค่าปรับและถูกแบล็กลิสต์ เนื่องจากมติ ครม.วันที่ 17 มิถุนายน 2551 ที่ผ่านมางานก่อสร้างที่ทำสัญญากับราชการ และได้รับผลกระทบจากการปรับราคาวัสดุก่อสร้างและราคาน้ำมันที่สูงขึ้น เห็นชอบให้ยกเว้นหรือลดหย่อนหรือให้คืนค่าปรับไม่ว่า ด้วยเหตุใดๆให้แก่ผู้ประกอบอาชีพงานก่อสร้างที่ถูกปรับ เนื่องจากก่อสร้างงานล่าช้า ไม่ทันตามกำหนดไว้ในสัญญา โดยจะมีผลย้อนหลังแก่ผู้ประกอบอาชีพงานก่อสร้างที่ถูกหน่วยงานของรัฐปรับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2550 ถึง 30 กันยายน 2551
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ถนนสายดังกล่าวยังคงเป็นถนนลูกรังเหมือนเดิม มีการก่อสร้างเขื่อนกั้นริมถนนเลียบชายหาด แต่ปัจจุบันถูกคลื่นกัดเซาะพังทลายลงหลายจุด ส่วนเครื่องจักรที่ใช้ในการก่อสร้างถูกขนย้ายไปหมดนานแล้วก่อนจะทิ้งงาน สำหรับค่าปรับวันละ 59,800 บาท ก็ไม่สามารถดำเนินการได้โดยอ้าง ครม.มีมติผ่อนผันให้ผู้รับเหมาเนื่องจากราคาอุปกรณ์ก่อสร้างขึ้นราคา และ หจก.วิศิษฎ์ชัย ยังเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างถนนราชชุมพล (สาย ค.2) ถนนเลี่ยงเมืองระยอง
ปัจจุบันมีการรับมอบงานไปเรียบร้อยแล้วเมื่อเร็วๆ นี้ แต่ปรากฏว่าโคมไฟส่องสว่างริมถนนและบริเวณเกาะกลางถนนใช้การไม่ได้ไม่มีแสงสว่าง สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้ใช้รถใช้ถนนยามค่ำคืน จนกลายเป็นเส้นทางหลบหนีของแก๊งโจรกรรม จี้ชิงทรัพย์อย่างต่อเนื่อง