xs
xsm
sm
md
lg

ส.ว.ชลบุรีจี้รัฐเปิดเสรีเหล็กหลังพบวัตถุดิบสูงเกินจริงถึง 30%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดชลบุรีในฐานะรองประธานคณะกรรมธิการเศรษฐกิจการพาณิชย์และอุตสาหกรรมวุฒิสภา เตรียมยื่นหนังสือถึงรัฐบาลให้พิจารณาเปิดค้าเหล็กแบบเสรีภายใน 3 เดือน หลังพบนโยบายอุ้มผู้ประกอบการรายใหญ่ที่สืบเนื่องจากวิกฤตปี 2540 กำลังทำให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและย่อม โดยเฉพาะกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้างและภาคอุตสาหกรรมที่ต้องใช้เหล็กเป็นวัตถุดิบซื้อสินค้าในราคาเกินจริงถึง 30% เผยปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาเหล็กพุ่งสูงจากกิโลกรัมละ 20 บาทเป็น 42 บาทในปัจจุบันเกิดจากการกักตุนสินค้าและการดำเนินธุรกิจแบบผูกขาดของผู้ประกอบการที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล

นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดชลบุรี ในฐานะรองประธานคณะ กรรมธิการเศรษฐกิจการพาณิชย์และอุตสาหกรรม วุฒิสภา เผยถึงการเติบโตทางเศรษฐ กิจในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยเฉพาะจังหวัดที่มีการขยายตัวของนิคมอุตสาหกรรมทั้ง ชลบุรี ระยอง ปราจีนบุรี นครนายกและสระแก้วว่า ยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง แม้ปัจจุบันประเทศไทยจะประสบปัญหาความไม่แน่นอนทางการเมืองและการทรุดตัวของเศรษฐกิจ แต่ในพื้นที่จังหวัดระยอง ชลบุรี จันทบุรีและตราด ก็ยังคงมีตัวเลขผลผลิตมวลรวมที่สูงถึง 16.1%

ส่วนในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม ก็มีการขยายการลงทุนของภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับชิ้นส่วนยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์และปิโตรเคมี ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดนักลง ทุนได้ดีคือวัฒนธรรมและประเพณีทางการเมืองของไทยที่ไม่ส่อเค้ารุนแรง

“แม้ในช่วงนี้ตัวเลขการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติในภาคตะวันออกของบีโอไอ อาจไม่เข้าเป้า แต่ก็ยังสบายใจได้ว่านักลงทุนจากประเทศญีปุ่นซึ่งเป็นกลุ่มลงทุนใหญ่ ยังคงมั่นใจในศักยภาพและความปลอดภัยในการเข้ามาลงทุน และยังเห็นว่าไทยเหมาะที่จะเป็นฐานการลงทุนในระยะยาวได้ดีกว่าประเทศอื่นๆ โดยปัจจัยที่ทำให้ตัวเลขผลผลิตมวลรวมของภาคตะวันออกยังดี เป็นเพราะการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมและการส่งออก รวมทั้งการขยายการลงทุนของกลุ่มทุนเดิม”

แต่สิ่งที่กำลังฉุดรั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจในขณะนี้คือ นโยบายอุ้มผู้ประกอบ การรายใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นโรงกลั่นน้ำมันและภาคอุตสาหกรรมเหล็กที่เคยได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2540 จนรัฐบาลต้องออกมาตรการช่วยเหลือเพื่อให้อยู่รอด แต่ในปี 2551 มาตรการดังกล่าวกำลังส่งผลต่อผู้ประกอบการรายย่อย ทั้งเรื่องราคาน้ำมันที่แพงเกินไปจนทำให้ต้นทุนการผลิตและสินค้าพุ่งสูง ส่วนผู้รับเหมาก่อสร้างที่ต้องใช้เหล็กเป็นวัตถุดิบ ในวันนี้ต้องซื้อเหล็กในราคาเกินจริงถึง 30% ซึ่งเป็นผลมาจากระบบผู้ขาดและการกักตุนของผุ้ค้าเหล็กรายใหญ่ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล

ทั้งนี้ รัฐบาลต้องดำเนินนโยบายที่สนับสนุนเศรษฐกิจแบบเสรีและเป็นธรรม โดยอาศัยกลไกตลาด เพราะในขณะที่รัฐบาลอุ้มผู้ประกอบการเหล็ก แต่ภาคอุตสาหกรรมรายย่อยที่ใช้เหล็กเป็นวัตถุดิบต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ซ้ำยังต้องเจอกับราคาเหล็กที่ปรับจาก 20 บาทต่อกิโลกรัม เป็น 42 บาท จากการกักตุนและระบบผู้ขาด และหากรัฐ บาลไม่สามารถปลดล็อกระบบผูกขาดการค้าเหล็กและไม่เปิดเสรีให้มีการนำเข้าเหล็กจากต่างประเทศ ภาคเศรษฐกิจอื่นก็จะต้องล่มสลายแน่นอน

“ที่เห็นได้ชัดในวันนี้คือกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้างที่จะต้องเซ็นสัญญาทำงานในระยะยาว 2-3 ปี ซึ่งการทำสัญญาจะยึดราคาเหล็ก ณ วันนั้น แต่ในวันนี้มันเกิดการกักตุนเหล็กจนปั่นราคาให้พุ่งสูงขึ้นและไม่เพียงแต่ผู้รับเหมาเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบภาคอุตสาหกรรมที่ต้องใช้เหล็กก็ต้องประสบปัญหานี้เช่นกัน และที่เห็นชัดอีกธุรกิจคือการติดตั้งถังแก๊ส NGV และ LPG ที่ในวันนี้ประชาชนต้องได้รับความเดือดร้อนจากการกักตุนถึงเพื่อปั่นราคา ทำให้ราคาการติดตั้งสูงขึ้นเรื่อยๆ”

โดยข้อเรียกร้องที่สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดชลบุรี ในฐานะรองประธานคณะกรรมธิการเศรษฐกิจการพาณิชย์และอุตสาหกรรมวุฒิสภา ต้องการให้รัฐบาลแก้ไขเป็นการด่วนก็คือ

1.การขอให้ รมว.อุตสาหกรรม ทบทวนนโยบายที่จะเลิกมาตรฐานบังคับ (มอก.) เหล็ก 19 รายการ ตามมาตรา 20 กับ 21 ทวิ เพื่อให้นำเหล็กเข้าได้อย่างสะดวก ลดความตื่นตัว มีการแข่งขันเสรีและราคาเป็นธรรม แม้หากไม่ยกเลิกมาตรการดังกล่าวก็ขอให้ รมต.อุตสาหกรรม สั่งการให้สำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรมดูแลมาตรฐานและอนุมัติให้ผู้นำเข้าเหล็ก โดยมีกรอบเวลาไม่เกิน 2 สัปดาห์ ซึ่งข้อเท็จจริงใช้เวลาอนุมัติเฉลี่ย 3 เดือน

2.ขอให้ รมว.คมนาคม ให้ความสำคัญกับผู้ประกอบการขนส่งกว่า 1 แสนรายที่มีความเดือดร้อนด้านต้นทุนน้ำมันที่สูงขึ้น โดยขอให้รัฐบาลลดราคาน้ำมันดีเซลลิตรละ 3 บาท โดยใช้โควตาหน้าโรงกลั่น ตั้งสถานีจำหน่ายก๊าซ NGV ให้ครอบคลุมทั่วพื้นที่ และตั้งกองทุนน้ำมันเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อช่วยเหลือในการเปลี่ยนเครื่องยนต์ NGV
กำลังโหลดความคิดเห็น