ตร.โคราชรับใช้ “หุ่นเชิด” สุดชีวิต - ระดมตั้งด่านสกัดพันธมิตรฯอีสานเข้ากรุง

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “หมอศุภผล” แฉตำรวจรับใช้ “หุ่นเชิด” สุดชีวิตทุ่มกำลังสกัดกั้นป่วนการเดินทางเข้ากรุงของชาวอีสานเพื่อร่วมพันธมิตรฯ ชุมนุมใหญ่ปิดล้อมทำเนียบรัฐบาลตลอดทั้งวัน เผยกลุ่มสมัชชาจังหวัดต่างๆในภาคอีสาน กว่า 1,000 คน ต้องกระจายกันเดินทางเข้ากรุงแทนเช่าเหมารถบัส ด้านสหภาพ “กฟภ.” หลานย่าโมเดินทางเช้าพรุ่งนี้ ขณะที่รองผบก.โคราชยอมรับตั้งด่านตรวจสกัดทุกเส้นทางหลักจากภาคอีสานมุ่งสู่กรุง อ้างทำตามนโยบายสตช.เพื่อปราบปรามยาเสพติดและอาชญากรรมพร้อมเจรจาปชช.ไม่ให้ไปชุมนุม

ช่วงบ่ายวันนี้ ( 19 มิ.ย.) ทพ.ศุภผล เอี่ยมเมธาวี เลขาธิการสมัชชาประชาชนภาคอีสาน 19 จังหวัด และ ประธานกลุ่มภาคีมวลชนคนโคราชรักประชาธิปไตย เปิดเผย ว่า วันนี้ได้รับการประสานงานจากประชาชนกลุ่มสมัชชาประชาชนจังหวัดต่างๆ ในภาคอีสานที่พากันเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเข้าร่วมชุมนุมใหญ่ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล กับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในวันพรุ่งนี้ ( 20 มิ.ย.)ตลอดทั้งว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านตรวจสกัดกั้นการเดินทางเป็นจำนวนมาก ในรูปแบบต่างๆ ทั้งการเรียกตรวจค้นรถที่คนร่วมเดินทางเป็นกลุ่ม กลั่นแกล้ง ข่มขู่จะเอาผิดกับคนขับหรือเจ้าของรถ และ พยายามถ่วงเวลาการเดินทางทุกวิถีทาง

ทางสมัชชาประชาชนฯ จึงได้เปลี่ยนแผนการเดินทางใหม่เกือบทั้งหมด เพราะการสกัดกั้นของเจ้าหน้าที่ทำให้ไม่สามารถเดินทางรวมกันมาเป็นกลุ่มใหญ่ด้วยรถบัสได้ ต้องใช้วิธีการกระจายตัวกันเดินทางเข้าสู่กรุงเทพฯ แทน เช่น ทางรถโดยสารประจำทาง ,รถไฟ,เช่าเหมารถตู้ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ประชาชนส่วนใหญ่ในจังหวัดภาคอีสาน เช่น นครราชสีมา,เลย,ชัยภูมิ,อุดรธานี,ขอนแก่น,ศรีสะเกษ,สุรินทร์ ,บุรีรัมย์ ได้เดินทางถึงกรุงเทพฯ เกือบหมดแล้ว เฉพาะในกลุ่มของสมัชชาประชาชนภาคอีสานรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 1,000 คน อย่างแน่นอน

นายจำรักษ์ ศรีสวัสดิ์ แกนนำสหภาพรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขานครราชสีมา เปิดเผยว่า ในเช้าวันพรุ่งนี้ (20 มิ.ย.) สหภาพรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สาขานครราชสีมา จะส่งตัวแทนมากกว่า 20 คน เดินทางโดยรถตู้เข้าร่วมสมทบชุมนุมร่วมกับกลุ่มพันธมิตรฯ ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล

ทั้งนี้ เนื่องทางสหภาพฯ เห็นว่าที่ผ่านมาเกือบ 5 เดือนรัฐบาลไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้นได้ ประกอบกับสินค้าทุกประเภทและค่าครองชีพแพงขึ้นทุกวันในขณะที่รายได้ของประชาชนไม่เพิ่มขึ้น ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ไปทุกหย่อมหญ้า ฉะนั้นถ้าปล่อยให้รัฐบาลบริหารประเทศต่อไปยิ่งจะสร้างปัญหาให้กับประชาชนและประเทศชาติมากยิ่งขึ้น

ในส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นภายกับ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) หลังจากรัฐบาลชุดนี้เข้ามาบริหารได้ส่งคนที่เป็นนอมินีของตัวเองที่ไม่มีความรู้ความสามารถเข้ามาบริหารบอร์ดของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

นอกจากนี้การประมูลหรือรับเหมางานต่างๆ ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคส่วนใหญ่เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับนักการเมืองและพรรคการเมืองทั้งสิ้น สหภาพฯ จึงตัดสินใจเข้าร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ เพื่อขับไล่รัฐบาลหุ่นเชิด

ขณะที่ พ.ต.อ.วณัฐ อรรถกวิน รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (รองผบก.ภ.) นครราชสีมา กล่าวว่า การที่ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมาได้ตั้งจุดสกัดตามเส้นทางหลักต่างๆ ที่มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ เป็นจำนวนมากในขณะนี้ นั้น เป็นการตั้งจุดตรวจ จุดสกัดเกี่ยวกับยาเสพติดและอาชญากรรมทุกประเภทตามนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เป็นปกติอยู่แล้ว

โดยมีการตั้งจุดตรวจตามเส้นทางหลักจากภาคอีสานเข้าสู่กรุงเทพฯ เช่น ถนนมิตรภาพ ได้ตั้งจุดตรวจ ที่ อ.สีดา อ.โนนแดง อ. พิมาย อ.สูงเนิน และ อ.ปากช่อง , ถนนทางหลวงหมายเลข 304 สายราชสีมา-กบินทร์บุรี ตั้งจุดตรวจที่ อ.วังน้ำเขียว , ถนนทางหลวงหมายเลข 24 สายเดชอุดม-โชคชัย ตั้งจุดตรวจที่ อ.หนองบุญมาก และเส้นทางด้านด่านขุนทด-ลำณารายณ์ ตั้งจุดที่ อ.ด่านขุนทด เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม หากพบว่ามีการเดินทางของประชาชนในลักษณะเป็นกลุ่มก้อนจำนวนมากเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสอบถามข้อมูลที่มาและจุดประสงค์ของการเดินทาง หากเป็นกลุ่มที่จะเดินทางเข้าไปร่วมชุมนุมที่ใด ในปัญหาความเดือดร้อนเรื่องใด ตำรวจก็จะแจ้งให้ทางจังหวัดนั้นๆ ทราบเพื่อส่งเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบมาเจรจาดำเนินการแก้ไขปัญหาให้หรือแนะนำกลับบ้านไปเจรจาหาทางแก้ไขปัญหาที่ต้นตอดีกว่าการเดินทางไปกรุงเทพฯ

“แต่หากกลุ่มประชาชนยังยืนยันจะเดินทางต่อ ตำรวจก็คงจะห้ามไม่ได้” พ.ต.อ.วณัฐ กล่าว