ตำรวจปราบปรามยาเสพติด แถลงข่าวจับกุมนักค้ายาเสพติด รวม 3 ราย พร้อมของกลางจำนวนหลายรายการ
วันนี้ (6 มิ.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น.พล.ต.ต.อุดม รักศิลธรรม รอง ผบช.ปส.แถลงข่าวจับกุม นายวัชชิระ หรือ อ๊อฟ กาญจนเกตุ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 128/9 ต.ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี และ นายวิทวัส หรือ บุ๊ค บุญเลี้ยง อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 134 หมู่ 2 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาค้ายาเสพติด พร้อมของกลางยาบ้า 12,933 เม็ด ยาไอซ์ 25.51 กรัม ยาอี 1,249 เม็ด ยาเคตามีนชนิดนำ 160 ขวด อาวุธปืนขนาด .38 มม.จำนวน 2 กระบอก อาวุธปืนออโตเมติกขนาด 7.65 มม.จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 6 นัด และสมุดบัญชีเงินฝากของธนาคารต่างๆ อีกจำนวนหนึ่ง
พล.ต.ต.อุดม กล่าวเปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ นปส.พัทยา ได้รับแจ้งจากสายลับ ว่า นายอ๊อฟ ลักลอบค้ายาเสพติดในพื้นที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่จึงได้สืบสวนจนสามารถจับกุม นายอ๊อฟ ได้พร้อมของกลางยาบ้า 933 เม็ด โดย นายอ๊อฟ ได้รับสารภาพว่า รับยาบ้ามาจาก นายวิทวัส โดยที่ นายวิทวัส จะมารับเงินค่ายาบ้าจากตนที่บริเวณรินถนนหน้าร้านญานี สปา เลขที่ 45/34 หมู่ 3 ถนนเก้ากิโล ซอย 18 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการวางแผนจับกุมโดยชุ่มอยู่บริเวณใกล้เคียง เมื่อ นายวิทวัส มาถึงเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม จากการตรวจค้นพบยาบ้าในกระเป๋ากางเกงจำนวน 5,000 เม็ด หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้นำตัว นายวิทวัส ไปตรวจค้นห้องพัก ลินดาอพาร์ทเม้นท์ ชั้นที่ 5 ห้อง D2 เลขที่ 377/180 หมู่ 2 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งเช่าไว้โดย น.ส.ปริยาสินี หรืออิ๋ว กาญจนเกตุ เพื่อเก็บยาเสพติด ขณะที่เจ้าหน้าที่ไปถึงห้องพัก น.ส.ปริยาสินี ได้หลบหนีไปก่อนหน้านี้แล้ว
จากการตรวจค้นภายในห้องพัก พบยาบ้าจำนวน 7,000 เม็ด และยาเสพติดของกลางดังกล่าวซุกซ่อนอยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดไว้เป็นของกลาง พร้อมควบคุมตัวส่งดำเนินคดี พร้อมแจ้งข้อหา นายอ๊อฟ มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ใว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ส่วน นายวิทวัส เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา ร่วมกันกับพวกที่หลบหนีมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า ยาอี ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันกับพวกที่หลบหนีมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (ยาเค) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันกับพวกที่หลบหนีมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่องส่งตัวดำเนินคดีต่อไป รายที่ 2 แถลงข่าวจับกุม นายสมร ริปันโน อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 411 หมู่ 8 ต.เมืองเดช อ.อุดมเดช จ.อุลบราชธานี นางบังทอง ชานัย อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 149 หมู่ 6 ต.โคกสะอาด อ.น้ำขุ่น จ.อุลบราชธานี และ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี สัญชาติลาว พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 10,000 เม็ด และโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง
พล.ต.ต.อุดม กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่สืบทราบได้ว่า นายสมร กับพวก ซึ่งเคยต้องโทษในคดียาเสพติด มีพฤติกรรมนำยาบ้าจากประเทศลาว เข้ามาจำหน่ายให้กับลูกค้าใน จ.นครราชสีมา จากการสอบสวนทราบว่า นายสมร และ นางบัวทอง จะสั่งยาบ้าจาก นางกอง ชาวลาว โดยนัดหมายให้ผู้ซื้อมารับของกลางที่ โรงแรมไทยโฮเต็ล ถนนมิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา เมื่อถึงเวลานัดหมาย จึงได้นำยาบ้ามาส่งตามนัด กลุ่มผุ้ต้องหานำยาบ้ามาส่ง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมพร้อมของกลางดังกล่าว ก่อนแจ้งข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยไม่ได้อนุญาต ส่วน น.ส.เอ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมว่าเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนส่งตัวทั้งหมดดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
รายที่ 3 แถลงข่าวจับกุม นายประดิษฐ์ ดอนหัวรอ อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นสมาชิก อบต.วังดล จ.ปราจีนบุรี อยู่บ้านเลขที่ 52/2 หมู่ 12 ต.วีงตาล อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี นายออมจิตร สุภจิตร์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 134 หมู่ 1 ต.วังตาล อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี และ นายอรุณ แนวอินทร์ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/1 หมู่ 2 ต.วังตาล อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี พร้อมของกลาง ยาบ้าจำนวน 720 เม็ด รถเก๋ง 1 คัน รถ จยย.จำนวน 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง
พล.ต.ต.อุดม กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่สืบทราบได้ว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐมีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาบ้า จึงได้สืบสวนจนทราบว่า กลุ่ม นายประดิษฐ์ จะนำยาบ้ามาส่งให้กับลูกค้าที่บริเวณลานจอดรถหน้าห้องน้ำภายในปั๊มน้ำมัน ปตท.เลขที่ 35 หมู่ 6 ถนนสุวรรณศร ต.ดงบัง อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี เมื่อถึงเวลานัดหมายกลุ่มของ นายประดิษฐ์ ได้นำยาบ้ามาส่งให้ลูกค้าตามนัด เจ้าหน้าที่ที่ดักซุ่มอยู่บริเวณใกล้เคียงจึงแสดงตัวเข้าจับกุมพร้อมของกลางยาบ้าจำนวนดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดใหโทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนนำตัวส่งดเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ (6 มิ.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น.พล.ต.ต.อุดม รักศิลธรรม รอง ผบช.ปส.แถลงข่าวจับกุม นายวัชชิระ หรือ อ๊อฟ กาญจนเกตุ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 128/9 ต.ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี และ นายวิทวัส หรือ บุ๊ค บุญเลี้ยง อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 134 หมู่ 2 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาค้ายาเสพติด พร้อมของกลางยาบ้า 12,933 เม็ด ยาไอซ์ 25.51 กรัม ยาอี 1,249 เม็ด ยาเคตามีนชนิดนำ 160 ขวด อาวุธปืนขนาด .38 มม.จำนวน 2 กระบอก อาวุธปืนออโตเมติกขนาด 7.65 มม.จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 6 นัด และสมุดบัญชีเงินฝากของธนาคารต่างๆ อีกจำนวนหนึ่ง
พล.ต.ต.อุดม กล่าวเปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ นปส.พัทยา ได้รับแจ้งจากสายลับ ว่า นายอ๊อฟ ลักลอบค้ายาเสพติดในพื้นที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่จึงได้สืบสวนจนสามารถจับกุม นายอ๊อฟ ได้พร้อมของกลางยาบ้า 933 เม็ด โดย นายอ๊อฟ ได้รับสารภาพว่า รับยาบ้ามาจาก นายวิทวัส โดยที่ นายวิทวัส จะมารับเงินค่ายาบ้าจากตนที่บริเวณรินถนนหน้าร้านญานี สปา เลขที่ 45/34 หมู่ 3 ถนนเก้ากิโล ซอย 18 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการวางแผนจับกุมโดยชุ่มอยู่บริเวณใกล้เคียง เมื่อ นายวิทวัส มาถึงเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม จากการตรวจค้นพบยาบ้าในกระเป๋ากางเกงจำนวน 5,000 เม็ด หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้นำตัว นายวิทวัส ไปตรวจค้นห้องพัก ลินดาอพาร์ทเม้นท์ ชั้นที่ 5 ห้อง D2 เลขที่ 377/180 หมู่ 2 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งเช่าไว้โดย น.ส.ปริยาสินี หรืออิ๋ว กาญจนเกตุ เพื่อเก็บยาเสพติด ขณะที่เจ้าหน้าที่ไปถึงห้องพัก น.ส.ปริยาสินี ได้หลบหนีไปก่อนหน้านี้แล้ว
จากการตรวจค้นภายในห้องพัก พบยาบ้าจำนวน 7,000 เม็ด และยาเสพติดของกลางดังกล่าวซุกซ่อนอยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดไว้เป็นของกลาง พร้อมควบคุมตัวส่งดำเนินคดี พร้อมแจ้งข้อหา นายอ๊อฟ มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ใว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ส่วน นายวิทวัส เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา ร่วมกันกับพวกที่หลบหนีมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า ยาอี ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันกับพวกที่หลบหนีมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (ยาเค) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันกับพวกที่หลบหนีมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่องส่งตัวดำเนินคดีต่อไป รายที่ 2 แถลงข่าวจับกุม นายสมร ริปันโน อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 411 หมู่ 8 ต.เมืองเดช อ.อุดมเดช จ.อุลบราชธานี นางบังทอง ชานัย อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 149 หมู่ 6 ต.โคกสะอาด อ.น้ำขุ่น จ.อุลบราชธานี และ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี สัญชาติลาว พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 10,000 เม็ด และโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง
พล.ต.ต.อุดม กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่สืบทราบได้ว่า นายสมร กับพวก ซึ่งเคยต้องโทษในคดียาเสพติด มีพฤติกรรมนำยาบ้าจากประเทศลาว เข้ามาจำหน่ายให้กับลูกค้าใน จ.นครราชสีมา จากการสอบสวนทราบว่า นายสมร และ นางบัวทอง จะสั่งยาบ้าจาก นางกอง ชาวลาว โดยนัดหมายให้ผู้ซื้อมารับของกลางที่ โรงแรมไทยโฮเต็ล ถนนมิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา เมื่อถึงเวลานัดหมาย จึงได้นำยาบ้ามาส่งตามนัด กลุ่มผุ้ต้องหานำยาบ้ามาส่ง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุมพร้อมของกลางดังกล่าว ก่อนแจ้งข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยไม่ได้อนุญาต ส่วน น.ส.เอ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมว่าเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนส่งตัวทั้งหมดดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
รายที่ 3 แถลงข่าวจับกุม นายประดิษฐ์ ดอนหัวรอ อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นสมาชิก อบต.วังดล จ.ปราจีนบุรี อยู่บ้านเลขที่ 52/2 หมู่ 12 ต.วีงตาล อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี นายออมจิตร สุภจิตร์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 134 หมู่ 1 ต.วังตาล อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี และ นายอรุณ แนวอินทร์ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/1 หมู่ 2 ต.วังตาล อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี พร้อมของกลาง ยาบ้าจำนวน 720 เม็ด รถเก๋ง 1 คัน รถ จยย.จำนวน 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง
พล.ต.ต.อุดม กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่สืบทราบได้ว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐมีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาบ้า จึงได้สืบสวนจนทราบว่า กลุ่ม นายประดิษฐ์ จะนำยาบ้ามาส่งให้กับลูกค้าที่บริเวณลานจอดรถหน้าห้องน้ำภายในปั๊มน้ำมัน ปตท.เลขที่ 35 หมู่ 6 ถนนสุวรรณศร ต.ดงบัง อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี เมื่อถึงเวลานัดหมายกลุ่มของ นายประดิษฐ์ ได้นำยาบ้ามาส่งให้ลูกค้าตามนัด เจ้าหน้าที่ที่ดักซุ่มอยู่บริเวณใกล้เคียงจึงแสดงตัวเข้าจับกุมพร้อมของกลางยาบ้าจำนวนดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดใหโทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนนำตัวส่งดเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
