รวบอดีตพนักงานส่งเอกสารหันเอาดีมาส่งยา ขณะกำลังโอนเงินให้กับผู้ว่าจ้างบริเวณหน้าธนาคาร พร้อมของกลางยาบ้า 200 เม็ด ก่อนขยายผลเข้าตรวจค้นห้องพักพบอีกกว่า 3,600 เม็ด เงินสด 150,000 บาท อาวุธปืนเครื่องกระสุนพร้อมใช้งาน สารภาพทำมาแล้ว 2 ครั้ง รับยามาจากโจ๋วัย 18 ปี ได้กำไรครั้งละ 1 หมื่น เงินที่ได้นำไปเลี้ยงลูก 2 คน พบประวัติถูกดำเนินคดีครอบครองยาเสพติดแต่รอลงอาญา ก่อนจะมาก่อเหตุอีกครั้ง
วันนี้ (21 พ.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. พ.ต.อ.สุธีร์ เณรกัณฐี รอง ผบก.น.7 และ พ.ต.อ.สมชาย มุสิกเจริญ รอง ผบก.น.7 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางยี่ขัน ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายมาโนช หรือบี ชุบขึ้น อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 303 ซอยสมเด็จพระเจ้าตากสิน 34 แขวงดาวคะนอง เขตธนบุรี กทม. ผู้ต้องหาค้ายาเสพติด พร้อมด้วยของกลางยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) จำนวน 3,800 เม็ด ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาอี) จำนวน 50 เม็ด เงินสดจำนวน 150,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง อาวุธปืนแบบออโตเมติกยี่ห้อสตาร์ ขนาด 7.65 มม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืนขนาด 7.65 มม. จำนวน 7 นัดบรรจุอยู่ในแมกกาซีนพร้อมใช้งาน อยู่ในซองพกผ้าสีดำ และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีขาวน้ำตาล หมายเลขทะเบียน ลพย-621 กทม. โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณหน้าธนาคารกสิกรไทย สาขาบางยี่ขัน ปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 40 แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กทม.
พ.ต.อ.สุธีร์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้มงวดและเร่งลงมือปราบปรามยาเสพติดตามนโยบายของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบทราบว่าผู้ต้องหารายนี้มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและจะมีการลักลอบจำหน่ายยาบ้า จึงได้ทำการสืบสวนและติดตามผู้ต้องหารายนี้พร้อมทั้งวางแผนเพื่อเข้าจับกุม จนกระทั่งสามารถจับกุมได้ขณะที่ผู้ต้องหากำลังจะโอนเงินไปให้ผู้ว่าจ้างให้จำหน่ายยาบ้าบริเวณหน้าธนาคาร ซึ่งขณะที่ทำการจับกุมได้ตรวจพบยาบ้าอยู่ภายในตัวผู้ต้องหา จำนวน 200 เม็ด จากนั้นได้ขยายผลการจับกุมโดยไปตรวจค้นที่ห้องพักของผู้ต้องหาที่สุณีรัตน์อพาร์ทเม้นท์ ซอยจรัญสนิทวงศ์ 40 พบของกลางยาบ้าอีกจำนวนมาก
จากการสอบปากคำนายมาโนช ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ตนทำงานส่งเอกสารให้กับธนาคาร แต่ออกจากงานมาได้ 2 ปีแล้ว และไปรู้จักกับนายแบงค์ อายุ 18 ปีที่ผับบาหลี ย่านรัชดา โดยนายแบงค์ได้ว่าจ้างให้ตนส่งยาเสพติดให้ ตนรับยาเสพติดทั้งหมดมาในราคามัดละ 195,000 บาท และนำมาปล่อยในราคา มัดละ250,000 บาท ตนจะได้กำไรประมาณ 10,000 บาท โดยได้นำไปส่งให้กับนายเอ อายุ 18 ปี ย่านพระประแดง โดยทำมา 2 ครั้งแล้ว ซึ่งตนจะนำเงินทั้งหมดส่งให้ลูก 2 คน ส่วนปืนไม่ใช่ของตนมีเพื่อนนำมาฝากไว้ที่ห้อง และก่อนหน้านี้เคยถูกดำเนินคดีในข้อหาครอบครองยาเสพติดในท้องที่บางบัวทองมาแล้วแต่อยู่ระหว่างรอลงอาญา
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายและมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาอี) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในความครอบครองโยไม่ได้รับอนุญาต และควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดี ส่วนนายแบงค์ผู้ว่าจ้างเจ้าหน้าที่ตำรวจจะส่งเรื่องไปให้กับ บช.ปส. เพื่อสืบสวนและติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป