สุดโหด!! เชือกผูกรองเท้ารัดคอ มีดแทงอกดับสาวใหญ่เจ้าของปั๊มปิโตรนาสย่านปิ่นเกล้า ฉกเงินกว่าแสนหนี คาดตำรวจคาดผลงานเด็กปั๊ม ทำงานได้เพียง 15 วัน เหตุฉุนถูกต่อว่าชอบเบิกเงินล่วงหน้าไปกินเหล้า เตรียมตรวจสอบกล้องวงจรปิดล่าตัวผู้ก่อเหตุ
วันนี้ (28 เม.ย.) เมื่อเวลา 05.30 น. พ.ต.ท.จุมพล เงินกอบทอง พนักงานสอบสวน สบ.3 สน.บางยี่ขัน รับแจ้งมีเหตุฆ่ากันตายภายในซูเรียมินิมาร์ท ในปั๊มน้ำมันปิโตรนาส ถนนบรมราชชนนี ขาออก ใกล้ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล สาขาปิ่นเกล้า จึงประสานแพทย์นิติเวชศิริราชพยาบาล เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พล.ต.ต.จุตติ ธรรมมโนวนิช รอง ผบช.น. พ.ต.อ.สุธีร์ เนรกัณฐี รอง ผบก.น.7 พ.ต.อ.ถิร์สทัต บูรณะรัช ผกก.สน.บางยี่ขัน
ที่เกิดเหตุภายในร้านมินิมาร์ท ตั้งอยู่เลขที่ 5/129 ถนนบรมราชชนนี แขวงอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร บริเวณหน้าตู้แช่เครื่องดื่ม เจ้าหน้าที่พบรองเท้าแตะสีขาว แว่นตา และต่างหูตกอยู่ ใกล้กันพบกองเลือดและมีรอยลากเป็นทางยาวเข้าไปในสำนักงานภายในร้าน เมื่อเข้าไปดูจึงพบศพ นางชโลธร นิ่มอนงค์ อายุ 48 ปี เจ้าของปั๊มน้ำมันดังกล่าว นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตจมกองเลือดบริเวณพื้นห้องข้างโต๊ะทำงาน สภาพศพสวมเสื้อลายดอกสีแดง กางเกงขาสามส่วนสีแดง บริเวณลำคอถูกรัดด้วยเชือกผูกรองเท้าสีขาวและขมวดปมด้านหลัง ที่เหนือคิ้วซ้ายมีบาดแผลถูกของคมบาดลึกเป็นแผลเหวอะ ที่หน้าอกซ้ายถูกแทงด้วยของมีคม คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 7 ชั่วโมง
จากการสอบสวน นายวิโรจน์ ชำนาญกุล อายุ 28 ปี แคชเชียร์ของร้านมินิมาร์ท ผู้พบศพ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุตนซึ่งพักอาศัยอยู่บริเวณชั้น 2 ของร้าน เข้างานช่วง 05.00 น.ถึง 14.00 น. โดยจะทำหน้าที่เปิดร้านเป็นประจำ ก่อนพบศพได้ลงมาเปิดร้านตามปกติ เมื่อไขกุญแจประตูด้านหลังร้านเข้าไปก็พบรอยเลือดหน้าตู้แช่แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร แต่หลังจากเปิดร้านเสร็จเห็นไฟในสำนักงานเปิดอยู่และกุญแจคาอยู่ที่ลูกบิดประตูจึงผลักประตูเข้าไปดูก็พบพบศพผู้ตายดังกล่าว ตนจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาทำการตรวจสอบ
ด้าน พ.ต.อ.ถิร์สทัต กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าคนงานในปั๊มที่อาศัยอยู่ที่ชั้น 2 ของร้านมินิมาร์ท ชื่อนายปอนด์ ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง อายุประมาณ 22 ปี ชาวจังหวัดหนองบัวลำภู ได้หายตัวไป จึงเข้าตรวจสอบที่ห้องพัก พบมีดปอกผลไม้ และรองเท้าเปื้อนเลือดอยู่ในห้อง จึงเก็บรวบรวมไวเป็นหลักฐาน นอกจากนี้จะได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในร้านอีกครั้งเพื่อระบุตัวคนร้ายอย่างชัดเจน
พ.ต.อ.ถิร์สทัต กล่าวอีกว่า ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะเป็นการฆ่าชิงทรัพย์ เนื่องจากทราบว่านายปอนด์ซึ่งเพิ่งมาทำงานได้เพียง 15 วัน และมักจะขอเบิกเงินล่วงหน้าไปดื่มสุราจนถูกนางชโลธรต่อว่าและตักเตือนอยู่เป็นประจำ อีกทั้งนางชโลธรมักจะอยู่ทำงานเพื่อเคลียร์ยอดเงินจากการน้ำมันและสินค้าในร้านเป็นประจำทุกคืน และก่อนเกิดเหตุนั้นคาดว่านายปอนด์ซึ่งเมาสุราได้เข้ามาขอเบิกเงินแต่นางชโลธรไม่ให้ จึงบันดาลโทสะทำร้ายนางชโลธรจนเสียชีวิต ก่อนที่จะเอาเงินจำนวนหนึ่งประมาณกว่าแสนบาทหนีไป จึงได้สั่งการเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเร่งติดตามตัวคนร้ายรายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
ต่อมาเวลา 13.00 น.พ.ต.ท.อัครวินต์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าของคดีนี้ว่า หลังจากเกิดเหตุได้เรียกสอบปากคำพยาน ซึ่งเป็นคนงานพนักงานไปแล้ว จำนวน 4 ปาก และจากการตรวจสอบกล้องวีดีโอวงจรปิด ก็พบว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงเวลาประมาณ 23.00 น.เศษ ซึ่งกล้องได้บันทึกภาพเหตุการณ์ ขณะคนร้ายลงมือสังหารนางชโลธร ไว้ได้บางส่วน เริ่มจากที่คนร้ายชื่อนายปอนด์ เดินถือกระดาษเขียนยืมเงิน 20,000 บาท เข้าไปส่งให้คนตาย จากนั้นผู้ตายก็ไล่ออกไป พอสักพักคนร้ายก็ถือมีดเดินกลับเข้ามาใหม่อีกครั้ง จากนั้นก็ใช้มีดกระหน่ำแทงและผู้ตายก็ต่อสู้ จึงถูกคนร้ายกระทืบซ้ำ ก่อนลากตัวเข้าไปในห้องทำงาน จากนั้นก็หยิบเงินที่อยู่บนโต๊ะใส่ถุง
"แต่ระหว่างนั้นผู้ตายยังไม่สิ้นใจและพยายามจะลุกขึ้นอีก จึงถูกคนร้ายใช้มีดปาดคอ 1 ครั้ง จากนั้นก็ถอกเสื้อที่ใส่อยู่มารัดคอ ก่อนใช้เชือกที่ร้อยทำเป็นเข็มขัดกางเกงมารัดคอซ้ำจนขาดใจตาย จากนั้นก็เอาเสื้อมาเช็ดมีดและหยิบทรัพย์สินหลบหนีไป ซึ่งขณะนี้ทางฝ่ายสืบสวนของ สน.บางยี่ขัน และ กก.สส.บก.น.7 กำลังเร่งติดตามจับตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย" พ.ต.ท.อัครวินต์ กล่าว