ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้ประกอบการเคเบิลท้องถิ่นชลบุรียังไม่สิ้นรำคาญหลัง มท.1 ออกนโยบายสิ้นคิด สั่งผู้ประกอบการถอดสัญญาณ ASTV แต่ถูกปฏิเสธความร่วมมือ ล่าสุดยังสั่ง ตร.พื้นที่ออกรังควาญขอตรวจสอบใบอนุณาตดำเนินการผู้ประกอบการหลายแห่งว่าถูกต้องหรือไม่ "ข้าราชการตำรวจชั้นผู้ใหญ่" สุดทนเรียกร้องตำรวจทั่วประเทศทำงานภายใต้หลักรัฐธรรมนูญ โดยไม่ยอมเป็นเครื่องเมืองนักการเมืองอีกต่อไป ปูดแผนชั่วลำดับต่อไปคือสร้างสถานการณ์ให้เครือข่ายต้านพันธมิตรฯเข้าแจ้งความเคเบิลที่แพร่ภาพ ASTV ทั่วประเทศหวังให้ผู้ประกอบการถอดใจ
รายงานข่าวจากผู้ประกอบการเคเบิลทีวีแห่งหนึ่งในจังหวัดชลบุรีแจ้งต่อ “ผู้จัดการรายวัน” ศูนย์ข่าวศรีราชาว่า ในช่วงเช้าวันนี้ (16 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจของสถานีตำรวจภูธรแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอศรีราชา ได้เข้ามาขอตรวจสอบใบ อนุญาตดำเนินการของบริษัทว่าถูกต้องหรือไม่ พร้อมทั้งขอจดหมายเลขทะเบียนการค้ารวมทั้งรายชื่อผู้บริหารของบริษัทโดยไม่มีจดหมายขอความร่วมมือจากทางราชการ ซึ่งบริษัทฯได้ให้ขอมูลเพียงบางส่วนและยื่นแถลงการณ์ 5 ข้อของสมาคมฯเกี่ยวกับการเป็นสื่อสารมวลชนและยืนยันที่จะแพร่ภาพรายการของ ASTV ต่อไป
ขณะเดียวกัน ยังได้รับรายงานอีกว่าเคเบิลทีวีในพื้นที่บางแสนก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจขอถ่ายสำเนาใบอนุญาตดำเนินการออกไปอีกด้วย
“ในช่วงเช้าตำรวจโรงพักแห่งนี้โทรศัพท์แจ้งเข้ามาว่าจะเข้ามาตรวจสอบใบอนุญาตดำเนินการของเรา เราก็ยินดีเพราะผู้ประกอบการในจังหวัดทุกรายมีใบอนุญาตถูกต้องอยู่แล้ว ซึ่งเราก็ไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงไม่จบไม่สิ้นเสียทีก็เลยยื่นแถลงการณ์ของสมาคมฯ ให้ตำรวจดู”
อย่างไรก็ดี ยังมีรายงานเพิ่มเติมว่าในหลายพื้นที่ของจังหวัด ผู้ประกอบการเคเบิลทีวีท้องถิ่นก็ถูกเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบเอกสารในการดำเนินการและขอดูจำนวนสมาชิกของแต่ละแห่งอีกด้วย
ปูดแผนชั่วอันดับต่อไป คือสร้างสถานการณ์แจ้งความเคเบิลทั่วประเทศ
ทั้งนี้ จากการสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงรายหนึ่งของจังหวัดชลบุรี เกี่ยวกับการกระทำดังกล่าวของตำรวจในพื้นที่ ได้รับคำตอบว่าทางกฎหมายแล้วตำรวจไม่มีอำนาจในการตรวจสอบใบอนุญาตดำเนินการของผู้ประกอบการเคเบิลทีวีท้องถิ่น แต่อำนาจดังกล่าวเป็นของนายทะเบียนจังหวัด ซึ่งนโยบายนี้คาดว่าเป็นไปตามคำสั่งของ มท.1 ที่สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดหาทางปิดสัญญาณ ASTV ของผู้ประกอบการเคเบิล แต่ผู้ว่าฯ ไม่อยากเสี่ยงกับมวลชนจึงโยนเรื่องให้ตำรวจเป็นผู้จัดการแทน
สุดท้ายตำรวจก็กลายเป็นเครื่องมือของนักการเมือง โดยในช่วงบ่ายวันนี้ มท.1 ยังเรียกประชุมตำรวจระดับผู้กำกับการในทุกพื้นที่ผ่านระบบวีดีทัศน์ทางไกลเพื่อหารือแนวทางปิดสัญญาณ ASTV ต่อไป
“ตามหลักรัฐธรรมนูญ ประชาชนมีสิทธิที่จะได้รับข้อมูลข่าวสารในทุกด้าน ซึ่งเมื่อถามตำรวจว่าอยากทำตามนโยบายหรือไม่ บอกได้เลยว่าไม่อยากทำ แต่หากไม่ทำตามเชื่อได้เลยว่าพรุ่งนี้ถูกย้ายทันที ตอนนี้ก็ได้แต่บอกให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบตามเคเบิลต่างๆ ตามนโยบายที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น แต่เป็นการเข้าไปนั่งคุยเรื่องดิน ฟ้า อากาศมากกว่าเข้าไปตรวจสอบเรื่องเอกสาร เพราะตำรวจเองก็อยากจะทำหน้าที่ดูแลทุกข์ สุขของประชาชนมากกว่าการที่จะเข้าไปสร้างความรำคาญ”
เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงรายนี้ยังเผยถึงแผนชั่วขั้นต่อไปของผู้อยุ่เบื้องหลัง คือการสร้างสถานการณ์ให้เครือข่ายที่ต่อต้าน ASTV ออกไปแจ้งความร้องทุกข์เกี่ยวกับการแพร่ภาพ ASTV ของผู้ประกอบการแต่ละแห่งเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่เข้าไปดำเนินการ ซึ่งผู้ประกอบการก็สามารถใช้สิทธิทางกฎหมายตอบโต้นโยบายนี้ได้เช่นกัน
“ถ้าถามผมว่า ASTV ควรปิดหรือไม่ บอกได้เลยว่าไม่ควร เราจะไปปิดเขาได้อย่างไร เขาทำอะไรผิด แล้วทำไมไม่ไปปิดช่อง MV ที่เชียร์รัฐบาลบ้าง ทุกวันนี้ตำรวจกลายเป็นเครื่องมือของนักการเมืองไปแล้วก็อยากจะฝากไปถึงตำรวจทั่วประเทศว่าวันนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องปฏิบัติหน้าที่ตามหลักรัฐธรรมนูญและยึดกฎหมายและสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนเป็นหลัก ที่สำคัญขอให้กลุ่มพันธมิตรฯ เข้าใจตำรวจด้วยว่าที่ตำรวจต้องทำตามคำสั่งนักการเมืองไม่ใช่เพราะตำรวจไม่มีสมอง ตำรวจบางคนจบ ดร.เก่งกว่า ดร.บางคนในรัฐบาลอีก แต่ที่เขาต้องทำตามเพราะเป็นหน้าที่ แต่นับจากนี้ไปขอเรียกร้องให้ตำรวจทั่วประเทศเลิกเป็นเครื่องมือของนักการเมืองได้แล้ว”