ภูมิภาค - "เคเบิลทีวีอำนาจเจริญ"ไม่สนคำพูดดาราดาวร้ายอย่าง "เฉลิม" กลับมาเชื่อมต่อสัญญาณ ASTV ต่อ ยอมรับระหว่างตัดสัญญาณถูกสมาชิกโทรศัพท์เข้ามาด่าเละ "ขรก.ตำรวจชั้นผู้ใหญ่" ปูดแผนชั่วลำดับต่อไปคือสร้างสถานการณ์ให้เครือข่ายต้านพันธมิตรฯเข้าแจ้งความเคเบิลที่แพร่ภาพ ASTV ทั่วประเทศหวังให้ผู้ประกอบการถอดใจ ด้านเคเบิลแม่ฮ่องสอนเผยแค่ครึ่งชั่วโมงมีคนโทร.เข้ากว่า 100 สาย ห้ามตัดสัญญาณถ่ายทอดสดเอเอสทีวี
รายงานข่าวจากผู้ประกอบการเคเบิลทีวีแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรีเผยว่า ในช่วงเช้าวานนี้ (16 มิ.ย.) ตำรวจสายตรวจของโรงพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ศรีราชา ได้เข้ามาขอตรวจสอบใบอนุญาตดำเนินการของบริษัทว่าถูกต้องหรือไม่ พร้อมทั้งขอจดหมายเลขทะเบียนการค้ารวมทั้งรายชื่อผู้บริหารของบริษัทโดยไม่มีจดหมายขอความร่วมมือจากทางราชการ ซึ่งบริษัทฯได้ให้ขอมูลเพียงบางส่วนและยื่นแถลงการณ์ 5 ข้อของสมาคมฯเกี่ยวกับการเป็นสื่อสารมวลชนและยืนยันที่จะแพร่ภาพรายการของ ASTV ต่อไป
ขณะเดียวกัน ยังได้รับรายงานอีกว่าเคเบิลทีวีในพื้นที่บางแสนก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจขอถ่ายสำเนาใบอนุญาตดำเนินการออกไปอีกด้วย
อย่างไรก็ดี ยังมีรายงานเพิ่มเติมว่าในหลายพื้นที่ของจังหวัด ผู้ประกอบการเคเบิลทีวีท้องถิ่นก็ถูกเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบเอกสารในการดำเนินการและขอดูจำนวนสมาชิกของแต่ละแห่งอีกด้วย
**แฉเตรียมแผนขั้นสองบีบอีก
ทั้งนี้ จากการสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงรายหนึ่งของจังหวัดชลบุรี เกี่ยวกับการกระทำดังกล่าวของตำรวจในพื้นที่ ได้รับคำตอบว่าทางกฎหมายแล้วตำรวจไม่มีอำนาจในการตรวจสอบใบอนุญาต แต่อำนาจดังกล่าวเป็นของนายทะเบียนจังหวัด ซึ่งนโยบายนี้คาดว่าเป็นไปตามคำสั่งของ มท.1 แต่ผู้ว่าฯ ไม่อยากเสี่ยงกับมวลชนจึงโยนเรื่องให้ตำรวจเป็นผู้จัดการแทน
“ถามว่าตำรวจอยากทำตามนโยบายหรือไม่ บอกได้เลยว่าไม่อยากทำ แต่หากไม่ทำตามเชื่อได้เลยว่าพรุ่งนี้ถูกย้ายทันที”
เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงรายนี้ยังเผยถึงแผนชั่วขั้นต่อไปของผู้อยู่เบื้องหลัง คือการสร้างสถานการณ์ให้เครือข่ายที่ต่อต้าน ASTV ออกไปแจ้งความร้องทุกข์เกี่ยวกับการแพร่ภาพ ASTV ของผู้ประกอบการแต่ละแห่งเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่เข้าไปดำเนินการ ซึ่งผู้ประกอบการก็สามารถใช้สิทธิทางกฎหมายตอบโต้นโยบายนี้ได้เช่นกัน
“ถ้าถามผมว่า ASTV ควรปิดหรือไม่ บอกได้เลยว่าไม่ควร เราจะไปปิดเขาได้อย่างไร เขาทำอะไรผิด แล้วทำไมไม่ไปปิดช่อง MV ที่เชียร์รัฐบาลบ้าง ทุกวันนี้ตำรวจกลายเป็นเครื่องมือของนักการเมืองไปแล้วก็อยากจะฝากไปถึงตำรวจทั่วประเทศว่าวันนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องปฏิบัติหน้าที่ตามหลักรัฐธรรมนูญและยึดกฎหมายและสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนเป็นหลัก ที่สำคัญขอให้กลุ่มพันธมิตรฯ เข้าใจตำรวจด้วยว่าที่ตำรวจต้องทำตามคำสั่งนักการเมืองไม่ใช่เพราะตำรวจไม่มีสมอง ตำรวจบางคนจบ ดร.เก่งกว่า ดร.บางคนในรัฐบาลอีก”
***คนแม่ฮ่องสอนสั่งห้ามตัดสัญญาณ
นายเวชสุวรรณ ชาติ ผู้จัดการต้นหว่านเคเบิลทีวี ผู้ประกอบการเคเบิลทีวีเขต อ.เมือง อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ที่มีลูกค้ามากกว่า 2-3,000 ราย เปิดเผยว่า หลังจากนายธงชัย วงศ์เหรียญทอง ผู้ว่าราชการจังหวัด เรียกเข้าประชุมและแจ้งให้เคเบิลทีวีหยุดการถ่ายทอดสัญญาณเอเอสทีวี ล่าสุด วานนี้ทางต้นหว่านเคเบิลฯ ได้ขึ้นอักษรตัววิ่งขอความคิดเห็นจากลูกค้าว่าจะตัดสัญญาณถ่ายทอดสดการชุมนุมที่สะพานมัฆวานฯ และยุทธการดาวกระจายของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ถ่ายทอดผ่าน ASTV หรือไม่ ปรากฏว่าเพียงครึ่งชั่วโมงหลังขึ้นตัววิ่งขอความเห็น มีลูกค้าของต้นหว่านฯ โทรศัพท์เข้ามามากกว่า 100 สาย ซึ่งทั้งหมดล้วนแต่ห้ามไม่ให้ทางต้นหว่านฯตัดสัญญาณ ASTV
นายเวชสุวรรณ บอกว่า เราจำเป็นต้องถามลุกค้าก่อน เพราะในกลุ่มลูกค้า 2,000-3,000 รายนั้น กว่า 80-90% เป็นลูกค้าเพราะมีรายการ ASTV อยู่ ส่วนจะตัดสินใจตัดสัญญาณหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังตอบไม่ได้ เพราะทางหนึ่งเป็นลูกค้า แต่อีกทางหนึ่งเป็นผู้ถืออำนาจตามกฎหมายอยู่ในมือ
***เคเบิลอำนาจฯถูกด่าเละหลังตัด ASTV
นายชิราวุฒิ แก้วชิณ หัวหน้าฝ่ายผลิตรายการเคเบิลทีวีท้องถิ่น จ.อำนาจเจริญ ว่า สถานีเคเบิลได้กลับมาเชื่อมต่อสัญญาณการถ่ายทอดของสถานีโทรทัศน์ ASTV อีกครั้งตั้งแต่เวลาประมาณ 17.00 น. ตามมติของสมาคมผู้ประกอบการเคเบิลทีวี ซึ่งต้องการให้ประชาชนรับทราบข้อมูลทุกด้านตามหน้าที่ของสื่อมวลชน โดยไม่เป็นเครื่องมือให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง สถานีเคเบิลทีวีจังหวัดอำนาจเจริญ ซึ่งมีผู้ประกอบการอยู่เพียงรายเดียว จึงตัดสินใจกลับมาเผยแพร่สัญญาณภาพของสถานีโทรทัศน์ ASTV จนกว่าจะมีหนังสือสั่งการเป็นลายลักษณ์อักษรจากทางการอีกครั้ง
นายชิราวุฒิ กล่าวต่อว่า ระหว่างสถานีเคเบิลท้องถิ่นตัดสัญญาณการถ่ายทอดของสถานีโทรทัศน์ ASTV ตามแรงกดดันของข้าราชการผู้ใหญ่ในจังหวัด ปรากฏมีสมาชิกโทรศัพท์เข้ามาต่อว่าต่อขานจนเจ้าหน้าที่ไม่อยากรับสาย เพราะไม่รู้จะชี้แจงให้สมาชิกเข้าใจได้อย่างไร จึงขอความเห็นใจจากสมาชิกที่ต้องตัดสัญญาณไปในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย
***พ่อค้าแม่ค้าตากเกาะติดหน้าจอ ASTV
รายงานข่าวจากจังหวัดตากแจ้งว่า จากการสำรวจบรรยากาศการติดตามความเคลื่อนไหวของพันธมิตรที่ได้กำลังเคลื่อนพลขับไล่ กกต.ผ่านทาง ทางหน้าจอโทรทัศน์ของชาวจังหวัดตาก กันหลายแห่ง โดยเฉพาะร้านค้าต่างๆ ในตัวเมืองตาก ต่างเปิดช่องนิวส์ 1 ของเอเอสทีวี ดูการชุมนุมผ่านเคเบิ้ลทีวี อาทิ ที่ร้านสินสมบัติ ร้านจำหน่ายหนังสือใหญ่ที่สุดในจังหวัดตาก, ร้านเอสพีเซอร์วิส ร้านจำหน่ายเกี่ยวกับเครื่องถ่ายเอกสารใหญ่ของจังหวัดตากเช่นกัน รวมทั้งร้านกาแฟ, ร้านค้าทั่วไป และที่สถานีตำรวจหลาย สภ.มีประชาชนร่วมรับชมความเคลื่อนและให้กำลังใจพันธมิตรฯ รวมถึงมีการพูดคุยถึงพฤติกรรมของ กกต.บางคน ที่ไม่ชอบธรรม
ป้าอำไพ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 65 ปี บอกว่า ตนเองเป็นชาวจังหวัดตากโดยกำเนิด เข้าใจและรู้ว่าพันธมิตรที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ที่กรุงเทพฯ ทำเพื่อชาติ ปกป้องการทะลวงแผ่นดินจากนักการเมืองทรราชบางคน ที่จ้องฮุบแผ่นดินไทย เชื่อว่าคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่รู้ว่าพวกนักการเมืองเหล่านี้ชั่วแค่ไหน แต่ตนเองและชาวตากอีกจำนวนไม่น้อยเช่นกันที่ได้รับชม รับฟังข่าวสารกลุ่มพันธมิตร ผ่านทางเอเอสทีวี นิวส์ 1 ถือเป็นข้อมูลอีกด้านหนึ่งที่ควรได้รับรู้
และแม้ว่าตนเองจะไม่ได้มีโอกาสได้ไปที่กรุงเทพฯ แต่ก็ติดตามความเคลื่อนไหวผ่านทางหน้าจอโทรทัศน์ โดยที่ผ่านมาได้บริจาคเงินเพื่อสนับสนุนพันธมิตร แล้ว 15,000 บาท ซึ่งคิดว่าเงินจำนวนนี้แม้ไม่มาก แต่ตนให้ได้โดยไม่หวังอะไร มีความสุขกับการที่ได้บริจาคเงินสนับสนุนพันธมิตรกู้ชาติให้พ้นจากเงื้อมมือนักการเมืองขี้โกงบางคน ที่จ้องหวังจะกินชาติ
รายงานข่าวจากผู้ประกอบการเคเบิลทีวีแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรีเผยว่า ในช่วงเช้าวานนี้ (16 มิ.ย.) ตำรวจสายตรวจของโรงพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ศรีราชา ได้เข้ามาขอตรวจสอบใบอนุญาตดำเนินการของบริษัทว่าถูกต้องหรือไม่ พร้อมทั้งขอจดหมายเลขทะเบียนการค้ารวมทั้งรายชื่อผู้บริหารของบริษัทโดยไม่มีจดหมายขอความร่วมมือจากทางราชการ ซึ่งบริษัทฯได้ให้ขอมูลเพียงบางส่วนและยื่นแถลงการณ์ 5 ข้อของสมาคมฯเกี่ยวกับการเป็นสื่อสารมวลชนและยืนยันที่จะแพร่ภาพรายการของ ASTV ต่อไป
ขณะเดียวกัน ยังได้รับรายงานอีกว่าเคเบิลทีวีในพื้นที่บางแสนก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจขอถ่ายสำเนาใบอนุญาตดำเนินการออกไปอีกด้วย
อย่างไรก็ดี ยังมีรายงานเพิ่มเติมว่าในหลายพื้นที่ของจังหวัด ผู้ประกอบการเคเบิลทีวีท้องถิ่นก็ถูกเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบเอกสารในการดำเนินการและขอดูจำนวนสมาชิกของแต่ละแห่งอีกด้วย
**แฉเตรียมแผนขั้นสองบีบอีก
ทั้งนี้ จากการสอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงรายหนึ่งของจังหวัดชลบุรี เกี่ยวกับการกระทำดังกล่าวของตำรวจในพื้นที่ ได้รับคำตอบว่าทางกฎหมายแล้วตำรวจไม่มีอำนาจในการตรวจสอบใบอนุญาต แต่อำนาจดังกล่าวเป็นของนายทะเบียนจังหวัด ซึ่งนโยบายนี้คาดว่าเป็นไปตามคำสั่งของ มท.1 แต่ผู้ว่าฯ ไม่อยากเสี่ยงกับมวลชนจึงโยนเรื่องให้ตำรวจเป็นผู้จัดการแทน
“ถามว่าตำรวจอยากทำตามนโยบายหรือไม่ บอกได้เลยว่าไม่อยากทำ แต่หากไม่ทำตามเชื่อได้เลยว่าพรุ่งนี้ถูกย้ายทันที”
เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงรายนี้ยังเผยถึงแผนชั่วขั้นต่อไปของผู้อยู่เบื้องหลัง คือการสร้างสถานการณ์ให้เครือข่ายที่ต่อต้าน ASTV ออกไปแจ้งความร้องทุกข์เกี่ยวกับการแพร่ภาพ ASTV ของผู้ประกอบการแต่ละแห่งเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่เข้าไปดำเนินการ ซึ่งผู้ประกอบการก็สามารถใช้สิทธิทางกฎหมายตอบโต้นโยบายนี้ได้เช่นกัน
“ถ้าถามผมว่า ASTV ควรปิดหรือไม่ บอกได้เลยว่าไม่ควร เราจะไปปิดเขาได้อย่างไร เขาทำอะไรผิด แล้วทำไมไม่ไปปิดช่อง MV ที่เชียร์รัฐบาลบ้าง ทุกวันนี้ตำรวจกลายเป็นเครื่องมือของนักการเมืองไปแล้วก็อยากจะฝากไปถึงตำรวจทั่วประเทศว่าวันนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องปฏิบัติหน้าที่ตามหลักรัฐธรรมนูญและยึดกฎหมายและสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนเป็นหลัก ที่สำคัญขอให้กลุ่มพันธมิตรฯ เข้าใจตำรวจด้วยว่าที่ตำรวจต้องทำตามคำสั่งนักการเมืองไม่ใช่เพราะตำรวจไม่มีสมอง ตำรวจบางคนจบ ดร.เก่งกว่า ดร.บางคนในรัฐบาลอีก”
***คนแม่ฮ่องสอนสั่งห้ามตัดสัญญาณ
นายเวชสุวรรณ ชาติ ผู้จัดการต้นหว่านเคเบิลทีวี ผู้ประกอบการเคเบิลทีวีเขต อ.เมือง อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ที่มีลูกค้ามากกว่า 2-3,000 ราย เปิดเผยว่า หลังจากนายธงชัย วงศ์เหรียญทอง ผู้ว่าราชการจังหวัด เรียกเข้าประชุมและแจ้งให้เคเบิลทีวีหยุดการถ่ายทอดสัญญาณเอเอสทีวี ล่าสุด วานนี้ทางต้นหว่านเคเบิลฯ ได้ขึ้นอักษรตัววิ่งขอความคิดเห็นจากลูกค้าว่าจะตัดสัญญาณถ่ายทอดสดการชุมนุมที่สะพานมัฆวานฯ และยุทธการดาวกระจายของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ถ่ายทอดผ่าน ASTV หรือไม่ ปรากฏว่าเพียงครึ่งชั่วโมงหลังขึ้นตัววิ่งขอความเห็น มีลูกค้าของต้นหว่านฯ โทรศัพท์เข้ามามากกว่า 100 สาย ซึ่งทั้งหมดล้วนแต่ห้ามไม่ให้ทางต้นหว่านฯตัดสัญญาณ ASTV
นายเวชสุวรรณ บอกว่า เราจำเป็นต้องถามลุกค้าก่อน เพราะในกลุ่มลูกค้า 2,000-3,000 รายนั้น กว่า 80-90% เป็นลูกค้าเพราะมีรายการ ASTV อยู่ ส่วนจะตัดสินใจตัดสัญญาณหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังตอบไม่ได้ เพราะทางหนึ่งเป็นลูกค้า แต่อีกทางหนึ่งเป็นผู้ถืออำนาจตามกฎหมายอยู่ในมือ
***เคเบิลอำนาจฯถูกด่าเละหลังตัด ASTV
นายชิราวุฒิ แก้วชิณ หัวหน้าฝ่ายผลิตรายการเคเบิลทีวีท้องถิ่น จ.อำนาจเจริญ ว่า สถานีเคเบิลได้กลับมาเชื่อมต่อสัญญาณการถ่ายทอดของสถานีโทรทัศน์ ASTV อีกครั้งตั้งแต่เวลาประมาณ 17.00 น. ตามมติของสมาคมผู้ประกอบการเคเบิลทีวี ซึ่งต้องการให้ประชาชนรับทราบข้อมูลทุกด้านตามหน้าที่ของสื่อมวลชน โดยไม่เป็นเครื่องมือให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง สถานีเคเบิลทีวีจังหวัดอำนาจเจริญ ซึ่งมีผู้ประกอบการอยู่เพียงรายเดียว จึงตัดสินใจกลับมาเผยแพร่สัญญาณภาพของสถานีโทรทัศน์ ASTV จนกว่าจะมีหนังสือสั่งการเป็นลายลักษณ์อักษรจากทางการอีกครั้ง
นายชิราวุฒิ กล่าวต่อว่า ระหว่างสถานีเคเบิลท้องถิ่นตัดสัญญาณการถ่ายทอดของสถานีโทรทัศน์ ASTV ตามแรงกดดันของข้าราชการผู้ใหญ่ในจังหวัด ปรากฏมีสมาชิกโทรศัพท์เข้ามาต่อว่าต่อขานจนเจ้าหน้าที่ไม่อยากรับสาย เพราะไม่รู้จะชี้แจงให้สมาชิกเข้าใจได้อย่างไร จึงขอความเห็นใจจากสมาชิกที่ต้องตัดสัญญาณไปในช่วงเวลาดังกล่าวด้วย
***พ่อค้าแม่ค้าตากเกาะติดหน้าจอ ASTV
รายงานข่าวจากจังหวัดตากแจ้งว่า จากการสำรวจบรรยากาศการติดตามความเคลื่อนไหวของพันธมิตรที่ได้กำลังเคลื่อนพลขับไล่ กกต.ผ่านทาง ทางหน้าจอโทรทัศน์ของชาวจังหวัดตาก กันหลายแห่ง โดยเฉพาะร้านค้าต่างๆ ในตัวเมืองตาก ต่างเปิดช่องนิวส์ 1 ของเอเอสทีวี ดูการชุมนุมผ่านเคเบิ้ลทีวี อาทิ ที่ร้านสินสมบัติ ร้านจำหน่ายหนังสือใหญ่ที่สุดในจังหวัดตาก, ร้านเอสพีเซอร์วิส ร้านจำหน่ายเกี่ยวกับเครื่องถ่ายเอกสารใหญ่ของจังหวัดตากเช่นกัน รวมทั้งร้านกาแฟ, ร้านค้าทั่วไป และที่สถานีตำรวจหลาย สภ.มีประชาชนร่วมรับชมความเคลื่อนและให้กำลังใจพันธมิตรฯ รวมถึงมีการพูดคุยถึงพฤติกรรมของ กกต.บางคน ที่ไม่ชอบธรรม
ป้าอำไพ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 65 ปี บอกว่า ตนเองเป็นชาวจังหวัดตากโดยกำเนิด เข้าใจและรู้ว่าพันธมิตรที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ที่กรุงเทพฯ ทำเพื่อชาติ ปกป้องการทะลวงแผ่นดินจากนักการเมืองทรราชบางคน ที่จ้องฮุบแผ่นดินไทย เชื่อว่าคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่รู้ว่าพวกนักการเมืองเหล่านี้ชั่วแค่ไหน แต่ตนเองและชาวตากอีกจำนวนไม่น้อยเช่นกันที่ได้รับชม รับฟังข่าวสารกลุ่มพันธมิตร ผ่านทางเอเอสทีวี นิวส์ 1 ถือเป็นข้อมูลอีกด้านหนึ่งที่ควรได้รับรู้
และแม้ว่าตนเองจะไม่ได้มีโอกาสได้ไปที่กรุงเทพฯ แต่ก็ติดตามความเคลื่อนไหวผ่านทางหน้าจอโทรทัศน์ โดยที่ผ่านมาได้บริจาคเงินเพื่อสนับสนุนพันธมิตร แล้ว 15,000 บาท ซึ่งคิดว่าเงินจำนวนนี้แม้ไม่มาก แต่ตนให้ได้โดยไม่หวังอะไร มีความสุขกับการที่ได้บริจาคเงินสนับสนุนพันธมิตรกู้ชาติให้พ้นจากเงื้อมมือนักการเมืองขี้โกงบางคน ที่จ้องหวังจะกินชาติ
