ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – เครือข่ายพันธมิตรฯ-ชุมชนสะพานมัฆวานฯ เริ่มเบ่งบานทั่วภาคเหนือ รวมถึง “เชียงใหม่” บ้านเกิด “แม้ว”
นอกจาก “ภาคีคนฮักเชียงใหม่” ที่ประกาศตัวสนับสนุนการเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พร้อมกับระดมเงินบริจาคสมทบเป็นทุนค่าใช้จ่ายในการชุมนุมที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ กรุงเทพฯ ไปแล้วกว่าแสนบาท ตลอดจนจะระดมบริจาคเพิ่มไม่หยุด รวมถึงเครือข่ายกองทัพธรรม ที่หนุนทั้งกำลังพล-เสบียงอย่างต่อเนื่องแล้ว วันนี้ สมาชิก “ชุมชนเมืองพันธมิตรฯ-สะพานมัฆวานฯ” ในเชียงใหม่ เริ่มเบ่งบานมากขึ้นเรื่อยๆ
1 ในสมาชิกชุมชนเมืองพันธมิตรฯ จากเชียงใหม่ ต้องไม่พลาดที่จะนับ “พงศ์วิทย์ ศรีขจรกิจ” หุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนสามัญฟ้าประทานพร ผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพรวีออน ในตลาดคำเที่ยง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ที่เดินทางเข้าร่วมการชุมนุมของพันธมิตรฯที่กรุงเทพฯ ทุกครั้ง พร้อมกับหอบหิ้วจาน ASTV ขึ้นมาฝากพรรคพวกเพื่อนฝูงในเชียงใหม่ในราคาทุน “ค่าขนส่ง-ค่าแรงหอบหิ้ว” ไม่เคยคิด
“ที่เชียงใหม่ การรวมตัวเป็นกลุ่มก้อนของเครือข่ายพันธมิตรฯ อาจจะยาก และเสี่ยงที่จะเกิดกระทบกระทั่งกันขึ้น แต่ไม่ใช่ว่าคนเชียงใหม่ จะเห็นดีเห็นงามกับรัฐบาลนอมินี-พลพรรค พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไปทั้งหมด ทุกครั้งที่ลงไปร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ ก็มักจะเจอนักธุรกิจ พ่อค้า จากเชียงใหม่ ที่นั่งเครื่อง หรือขับรถส่วนตัวเข้าไปร่วมถึงกรุงเทพฯตลอด และตั้งแต่ 25 พ.ค.จนถึงวันนี้ ก็มีเครือข่ายกองทัพธรรมที่เข้าไปปักหลักที่สะพานมัฆวานฯ ช่วยกันทำอาหารให้กับพี่น้องพันธมิตรฯจากทั่วประเทศเกือบ 100 คน”
พงศ์วิทย์ บอกว่า ส่วนการขยายแนวร่วมในพื้นที่เชียงใหม่ของเขานั้น จะใช้วิธีอธิบายเหตุผลให้พรรคพวก เพื่อนฝูง ญาติพี่น้องฟัง หรือเสนอให้เขาดู ASTV – เปิดอินเทอร์เน็ตให้เขาดู แล้วให้เขาตัดสินใจเอง ไม่ต้องชี้นำ
ส่วนที่จังหวัดแพร่ ที่บ้านแม่พุงหลวง ต.แม่พุง อ.วังชิ้น จ.แพร่ กลุ่มชาวบ้านได้ลงขันกันจัดซื้อจอโปรเจกเตอร์ เปิดโทรทัศน์ ASTV ที่รับสัญญาณจากจานดาวเทียมโดยตรง ติดตั้งที่โรงจอดรถของผู้นำหมู่บ้านเพื่อเปิดดูรายการถ่ายทอดสด การชุมนุมประท้วงของกลุ่มพันธมิตรและเครือข่ายที่สะพานมัฆวานฯ โดยเริ่มติดตั้งตั้งแต่คืนวันที่ 4 มิถุนายน 2551 ที่ผ่านมา โดยกลุ่มชาวบ้านเฝ้าติดตามการแก้ปัญหาบ้านเมือง โดยเฉพาะการปราปรามทุจริตของรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ที่ผ่านมา อย่างต่อเนื่อง
“เกียรติ คำน้อย” แกนนำชาวบ้านแม่พุงหลวง กล่าวว่า ที่ผ่านมา ชาวบ้านได้รับข่าวสารที่มาจากฟรีทีวีในการติดตามข่าวพันธมิตรฯ แต่พบว่ามีแต่กระแสข่าวออกมาโจมตีว่าการจัดชุมนุมผิดกฎหมาย และสร้างความเดือดร้อน โดยสื่อไม่เคยนำเสนอในแง่มุมของการต่อสู้เพื่อแก้ปัญหาการทุจริตของนักการเมือง ซึ่งพันธมิตรฯกำลังกดดันให้มีการนำนักการเมืองที่โกงกินเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอยู่
การนำเสนอข่าวที่ไม่ตรงความเป็นจริงของฟรีทีวี ทำให้ชาวบ้านต้องรวมตัวกันจัดซื้อ โทรทัศน์โปรเจ็คเตอร์ ซึ่งหมู่บ้านมีจานดาวเทียมของเอเอสทีวีอยู่แล้ว นำมาเปิดกลางหมู่บ้านเพื่อติดตามความเคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิด
ขณะที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง วันนี้ กล่าวได้ว่า มีเครือข่ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เบ่งบานอยู่ทุกจังหวัด ไม่ว่าจะเป็นตาก อุตรดิตถ์ พิษณุโลก พิจิตร กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ สุโขทัย นครสวรรค์ อุทัยธานี โดยมีเครือข่ายในจังหวัดพะเยาเข้าร่วมแจมด้วย
ก่อนหน้านี้ เครือข่ายพันธมิตรฯภาคเหนือตอนล่าง ที่อยู่ร่วมเครือข่ายตั้งแต่ปี 2548-2549 เป็นต้นมา ได้ประกาศเปิดตัวเป็น “ชมรมลุ่มน้ำภาคเหนือตอนล่าง” ร่วมเคลื่อนไหวกับพันธมิตรฯ อย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะแปรขบวนเป็นส่วนหนึ่งของ “สปท.หรือสมัชชาประชาชนเพื่อประชาธิปไตยภาคเหนือ” มี “สุวัฒน์ วัฒนศิริ” แกนนำพันธมิตรฯกำแพงเพชร เป็นเลขาธิการ สปท.ภาคเหนือ, พอพันธ์ จินันทุยา แกนนำพันธมิตรฯนครสวรรค์ เป็นกรรมการเลขานุการ และมีแกนนำพันธมิตรฯจังหวัดต่างๆ ร่วมเป็นกรรมการ อาทิ
นิตยา กุระดาน เทพีเวทีกู้ชาติ เมื่อปี 2549 ที่นำพลพรรคในจังหวัดตากออกมาประท้วง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อคราวดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และเดินทางมาทัวร์นกขมิ้นที่จังหวัดตาก ก่อนที่จะถูกกองทัพป่าไม้ของจังหวัดตากไล่ทุบตีหน้าศาลากลางจังหวัดมาแล้ว รวมถึงอนุรักษ์ กล้าหาญ-เทียนไทย ปริญญาวัฒน์-ภูริทัต สุธาพันธ์ แกนนำพันธมิตรฯพิษณุโลก, สมชาย วงศ์เวช-ชื่นศักดิ์ แย้มเจิม แกนนำจากอุทัยธานี, เกษม บุตรขุนทอง จากเพชรบูรณ์, ชูเลห์ สรรพานิช-บรรเลง เอื้อรักสกุล แกนนำจากเมืองกว๊านพะเยา รวมถึง สมเกียรติ โสภณพงศ์พิพัฒน์ ประธานชมรมสหกรณ์จังหวัดพิจิตร ที่ออกหน้าเป็นแกนนำพันธมิตรฯพิจิตร เมืองชาละวัน อยู่ในขณะนี้
สุวัฒน์ วัฒนศิริ แกนนำพันธมิตรฯกำแพงเพชร, เลขา สปท.ภาคเหนือ กล่าวว่า ตั้งแต่ 25 พ.ค.51 จนถึงวันนี้ เครือข่ายพันธมิตรฯ ภาคเหนือตอนล่าง-สปท.ภาคเหนือ ยังคงมีสมาชิกเดินทางไปสมทบการชุมนุมของพันธมิตรฯใหญ่ที่สะพานมัฆวานฯอย่างต่อเนื่อง โดยหมุนเวียนกันเดินทางไปขึ้นกับใครจะว่างจากหน้าที่การงานปกติ ซึ่งมีทั้งเหมารถบัส รถตู้ เดินทางไปเป็นกลุ่ม บางส่วนใช้รถยนต์ส่วนตัวเดินทางเข้าไป
“เครือข่ายทุกจังหวัดฯ ยังยึดมั่นร่วมเคลื่อนไหวกับ 5 แกนนำพันธมิตรฯ ต่อไปจนกว่าจะสามารถไล่รัฐบาลลูกกรอก หรือรัฐบาลนอมินีชุดนี้ออกไปได้ รวมถึงการโค่นล้มระบอบทักษิณ ที่กำลังฟื้นคืนชีพขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ตลอดจนภารกิจในการปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์”
