อุดรธานี - มติที่ประชุมหอการค้า 19 จังหวัดภาคอีสานประท้วงไม่เห็นด้วย "ห้างโลตัส" ฟ้องคนไทยเรียกค้าเสียหายนับพันล้านบาท ประกาศตอบโต้ทุกรูปแบบ ไม่ร่วมกิจกรรมใดๆ กับ "โลตัส" วารสารหอไม่รับโฆษณา พร้อมทำหนังสือประท้วงไปยังสถานทูตอังกฤษและยูเอ็น
นายสมชัย ไกรครุฑรี ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจ พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หอการค้าไทย เปิดเผยถึงการประชุมหอการค้าภาคอีสาน 19 จังหวัดที่ จ.บุรีรัมย์เมื่อเร็วๆ นี้ในที่ประชุมได้มีการหยิบยกกรณีห้างโลตัส ฟ้องร้องดำเนินคดี ว่าที่ ร.อ.จิตร์ ศิรธรานนท์ กรรมการรองเลขาธิการหอการค้าไทย เรียกค่าเสียหาย 1,000 ล้านบาท, นายกมล กมลตระกูล นักวิชาการอิสระ และนางนงนาถ ห่านตระกูล บรรณาธิการข่าว นสพ.กรุงเทพธุรกิจ เรียกค่าเสียหายคนละ 100 ล้านบาท ขึ้นมาหารือกันอย่างกว้างขวาง
โดยที่ประชุมมีมติร่วมกัน 4 ข้อ คือ 1.ไม่เห็นด้วยกับการที่ทางห้างโลตัส ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากคนไทย, 2.จะยื่นหนังสือประท้วงห้างโลตัส ที่ฟ้องคนไทยไปยังสถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทย และองค์การสหประชาชาติประจำประเทศไทย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการร่างหนังสือ ก่อนจะมีการลงนามร่วมกัน ,3.งดร่วมกิจกรรมทุกชนิดกับทางห้างโลตัส จนกว่าจะมีการถอนฟ้องคนไทย โดยมาตรการตอบโต้ห้างโลตัสครั้งนี้สามารถเริ่มได้ทันที คือ ปฏิเสธรับเงินสนับสนุน ในการจัดทำวารสารหรืออื่นๆ และ 4.จัดตั้งมูลนิธิส่งเสริมอาชีพอิสระของคนไทยในภาคอีสาน เพื่อให้เป็นศูนย์กลางในการให้ความรู้ และช่วยเหลือปกป้องธุรกิจรายย่อยของคนไทย
นายสมชัย กล่าวว่า ขณะนี้ได้ส่งสำเนาเอกสารมติที่ประชุม ของหอการค้าภาคอีสาน ไปยังหอการค้าทั่วทุกภาค เพราะเราไม่สบายใจกับนโยบาย การขยายกิจการของห้างโลตัสทั่วประเทศ มีการขยายสาขาอย่างรวดเร็วออกไปลงสู่พื้นที่ชนบทในรูปแบบต่างๆ ด้วยการหลีกเลี่ยงข้อกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการเช่าซื้ออาคาร ลดขนาดของธุรกิจ ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ลงไประดับตำบล หมู่บ้าน จนไปถึงรถเข็น เกรงว่าในอนาคตอีกไม่นาน ห้างโลตัสจะเข้าไปทำลายวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ของคนไทยในชนบท จนถึงขั้นสูญหายไปได้
นายสมชัย กล่าวต่อว่า หอการค้าจังหวัดพร้อมส่งเสริม ให้ความช่วยเหลือธุรกิจการค้า การลงทุน ที่อยู่ภายใต้กฎหมาย และต้องมีจรรยาบรรณ ธรรมมาภิบาล ทุกอย่างในสังคมต้องควบคู่กันไป การเข้ามาลงทุนของห้างต่างๆ ในระดับจังหวัดการต่อต้านค่อนข้างยาก ยกตัวอย่างในเทศบาลนครอุดรธานี ร้านค้ารายย่อยในพื้นที่จำนวนมาก ค่อยๆหดหายไปเรื่อยๆ นักธุรกิจในพื้นที่มีทั้งที่ให้การสนับสนุน และต่อต้านคัดค้าน
อย่างไรก็ตาม การมีห้างใหญ่มาตั้งในพื้นที่ มีทั้งผลบวกและผลลบ อย่างที่อุดรธานีหากว่าไม่มีห้างใหญ่ ก็จะไม่สามารถเป็นเมืองศูนย์กลางได้ แต่จะทำอย่างไรให้การทำการค้าเหล่านี้อยู่ภายใต้กรอบคุณธรรม มีธรรมาภิบาลที่สามารถอยู่ร่วมกันได้ โดยห้างใหญ่ไม่เอาเปรียบร้านค้าย่อยท้องถิ่น
นายสมชัย ไกรครุฑรี ประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจ พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หอการค้าไทย เปิดเผยถึงการประชุมหอการค้าภาคอีสาน 19 จังหวัดที่ จ.บุรีรัมย์เมื่อเร็วๆ นี้ในที่ประชุมได้มีการหยิบยกกรณีห้างโลตัส ฟ้องร้องดำเนินคดี ว่าที่ ร.อ.จิตร์ ศิรธรานนท์ กรรมการรองเลขาธิการหอการค้าไทย เรียกค่าเสียหาย 1,000 ล้านบาท, นายกมล กมลตระกูล นักวิชาการอิสระ และนางนงนาถ ห่านตระกูล บรรณาธิการข่าว นสพ.กรุงเทพธุรกิจ เรียกค่าเสียหายคนละ 100 ล้านบาท ขึ้นมาหารือกันอย่างกว้างขวาง
โดยที่ประชุมมีมติร่วมกัน 4 ข้อ คือ 1.ไม่เห็นด้วยกับการที่ทางห้างโลตัส ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากคนไทย, 2.จะยื่นหนังสือประท้วงห้างโลตัส ที่ฟ้องคนไทยไปยังสถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทย และองค์การสหประชาชาติประจำประเทศไทย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการร่างหนังสือ ก่อนจะมีการลงนามร่วมกัน ,3.งดร่วมกิจกรรมทุกชนิดกับทางห้างโลตัส จนกว่าจะมีการถอนฟ้องคนไทย โดยมาตรการตอบโต้ห้างโลตัสครั้งนี้สามารถเริ่มได้ทันที คือ ปฏิเสธรับเงินสนับสนุน ในการจัดทำวารสารหรืออื่นๆ และ 4.จัดตั้งมูลนิธิส่งเสริมอาชีพอิสระของคนไทยในภาคอีสาน เพื่อให้เป็นศูนย์กลางในการให้ความรู้ และช่วยเหลือปกป้องธุรกิจรายย่อยของคนไทย
นายสมชัย กล่าวว่า ขณะนี้ได้ส่งสำเนาเอกสารมติที่ประชุม ของหอการค้าภาคอีสาน ไปยังหอการค้าทั่วทุกภาค เพราะเราไม่สบายใจกับนโยบาย การขยายกิจการของห้างโลตัสทั่วประเทศ มีการขยายสาขาอย่างรวดเร็วออกไปลงสู่พื้นที่ชนบทในรูปแบบต่างๆ ด้วยการหลีกเลี่ยงข้อกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการเช่าซื้ออาคาร ลดขนาดของธุรกิจ ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ ลงไประดับตำบล หมู่บ้าน จนไปถึงรถเข็น เกรงว่าในอนาคตอีกไม่นาน ห้างโลตัสจะเข้าไปทำลายวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ของคนไทยในชนบท จนถึงขั้นสูญหายไปได้
นายสมชัย กล่าวต่อว่า หอการค้าจังหวัดพร้อมส่งเสริม ให้ความช่วยเหลือธุรกิจการค้า การลงทุน ที่อยู่ภายใต้กฎหมาย และต้องมีจรรยาบรรณ ธรรมมาภิบาล ทุกอย่างในสังคมต้องควบคู่กันไป การเข้ามาลงทุนของห้างต่างๆ ในระดับจังหวัดการต่อต้านค่อนข้างยาก ยกตัวอย่างในเทศบาลนครอุดรธานี ร้านค้ารายย่อยในพื้นที่จำนวนมาก ค่อยๆหดหายไปเรื่อยๆ นักธุรกิจในพื้นที่มีทั้งที่ให้การสนับสนุน และต่อต้านคัดค้าน
อย่างไรก็ตาม การมีห้างใหญ่มาตั้งในพื้นที่ มีทั้งผลบวกและผลลบ อย่างที่อุดรธานีหากว่าไม่มีห้างใหญ่ ก็จะไม่สามารถเป็นเมืองศูนย์กลางได้ แต่จะทำอย่างไรให้การทำการค้าเหล่านี้อยู่ภายใต้กรอบคุณธรรม มีธรรมาภิบาลที่สามารถอยู่ร่วมกันได้ โดยห้างใหญ่ไม่เอาเปรียบร้านค้าย่อยท้องถิ่น