"เอเชีย กรีน" คาดพร้อมเข้าเทรดเดือนกรกฎาคม หวังระดมทุนไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท ส่วนราคาขายขอดูงบการเงินไตรมาส 1/51 ก่อน ผู้บริหารเล็งสร้างโรงงานเพิ่มอีก1 แห่ง แย้มปีนี้รายได้จะโต 30-40% จากปี 50 ที่มีรายได้ 950 ล้านบาท ตามการขยายตัวของการใช้ถ่านหิน
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทโปรแมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ได้นับหนึ่งไฟลิ่ง บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี เมื่อ 23 เม.ย.51 นั้น คาดว่าน่าจะได้รับอนุมัติจาก ก.ล.ต. และพร้อมเข้าเทรดในตลาด mai กลางเดือนก.ค.นี้
โดยเบื้องต้นทาง บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี จะจัดโรดโชว์ใน 8 จังหวัดใหญ่ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไปรู้จักบริษัทและรายละเอียดในการประกอบธุรกิจของบริษัท ตลอดจนนโยบาย ทิศทางการดำเนินธุรกิจ ส่วนการกำหนดช่วงราคา IPO ยังไม่สามารถสรุปได้ เพราะต้องพิจารณาจากงลบการเงินQ1 ปีนี้ก่อน
นายพนม ควรสถาพร กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี กล่าวว่า บริษัทคาดจะระดมทุนจากการขายหุ้น IPO ได้ประมาณ 200-300 ล้านบาท โดยจะนำที่ได้ไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายกิจการ เพื่อรองรับความต้องการใช้ถ่านหินที่เพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทจะเพิ่มกำลังการผลิตอีก 1 แห่ง คาดอยู่ที่ภาคตะวันออก เพราะเชื่อว่าความต้องการใช้สูง ปัจจุบันบริษัทมีโรงงาน 2 แห่งที่เพชรบุรีและสมุทรสาคร
ทั้งนี้ ในปี 51 บริษัทคาดว่ารายได้จะเติบโต 30-40% จากปี 50 ที่มีรายได้ 950 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 63 ล้านบาท เนื่องจากความต้องการถ่านหินที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากราคาน้ำมันปรับสูงขึ้น และที่ผ่านมาบริษัทมีการเติบโตในระดับ 30-40% โดยตลอด
โดย บริษัทได้เซ็นสัญญาซื้อถ่านหินจาก บริษัท ซี.ไอ.เอฟ.เทรดดิ้ง(CIF) ของอินโดนีเซีย 3 ล้านตัน วงเงิน 7 พันล้านบาท ซึ่งจะสามารถรองรับการขายถ่านหินได้ในระยะเวลา 3 ปี (ปี 51-53) โดยจะทยอยขายปีละ 1 ล้านตัน
นายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทโปรแมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ได้นับหนึ่งไฟลิ่ง บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี เมื่อ 23 เม.ย.51 นั้น คาดว่าน่าจะได้รับอนุมัติจาก ก.ล.ต. และพร้อมเข้าเทรดในตลาด mai กลางเดือนก.ค.นี้
โดยเบื้องต้นทาง บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี จะจัดโรดโชว์ใน 8 จังหวัดใหญ่ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไปรู้จักบริษัทและรายละเอียดในการประกอบธุรกิจของบริษัท ตลอดจนนโยบาย ทิศทางการดำเนินธุรกิจ ส่วนการกำหนดช่วงราคา IPO ยังไม่สามารถสรุปได้ เพราะต้องพิจารณาจากงลบการเงินQ1 ปีนี้ก่อน
นายพนม ควรสถาพร กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี กล่าวว่า บริษัทคาดจะระดมทุนจากการขายหุ้น IPO ได้ประมาณ 200-300 ล้านบาท โดยจะนำที่ได้ไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายกิจการ เพื่อรองรับความต้องการใช้ถ่านหินที่เพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทจะเพิ่มกำลังการผลิตอีก 1 แห่ง คาดอยู่ที่ภาคตะวันออก เพราะเชื่อว่าความต้องการใช้สูง ปัจจุบันบริษัทมีโรงงาน 2 แห่งที่เพชรบุรีและสมุทรสาคร
ทั้งนี้ ในปี 51 บริษัทคาดว่ารายได้จะเติบโต 30-40% จากปี 50 ที่มีรายได้ 950 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 63 ล้านบาท เนื่องจากความต้องการถ่านหินที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากราคาน้ำมันปรับสูงขึ้น และที่ผ่านมาบริษัทมีการเติบโตในระดับ 30-40% โดยตลอด
โดย บริษัทได้เซ็นสัญญาซื้อถ่านหินจาก บริษัท ซี.ไอ.เอฟ.เทรดดิ้ง(CIF) ของอินโดนีเซีย 3 ล้านตัน วงเงิน 7 พันล้านบาท ซึ่งจะสามารถรองรับการขายถ่านหินได้ในระยะเวลา 3 ปี (ปี 51-53) โดยจะทยอยขายปีละ 1 ล้านตัน
