ศูนย์ข่าวศรีราชา - สมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย ประกาศจุดยืนจะไม่หยุดแพร่ภาพสัญญาณจาก ASTV จนกว่าจะมีหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษร เผยจันทร์นี้คณะกรรมการสมาคมฯ เตรียมเข้าพบ มท.1 รับทราบแนวทางที่ชัดเจน
นายเกษม อินทร์แก้ว นายกสมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศ เผยว่า ในระหว่างการประชุมคณะกรรมการสมาคมฯ จากทั่วประเทศ ที่สวนนงนุช ระหว่างวันที่ 13-14 มิถุนายน 2551 เกี่ยวกับเรื่องที่มีกระแสข่าวว่ารัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยได้ออกมาประกาศว่าจะให้ทางเคเบิลทีวีหยุดแพร่ภาพสัญญาณของ ASTV ซึ่งในความจริงเป็นอย่างไร เรายังทราบแน่ชัด
พวกเราคงยังทำตามไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าจะตอบคำถามประชาชนอย่างไร เนื่องจากสมาชิกส่วนใหญ่ ต้องการที่จะชมช่องสัญญาณของ ASTV หากปิดไป สมาชิกคงจะไม่ยอมและทางเราไม่มีคำตอบที่ชัดเจนให้
ดังนั้น หากทางรัฐมนตรีมหาดไทยจะให้กำหนดแพร่ภาพจริงๆ จะต้องทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรมาใช้ชัดเจน เพื่อที่เราจะได้ตอบคำถามกับประชาชนได้ว่า หยุดแพร่ภาพเพราะอะไร ซึ่งในวันจันทร์ 16 มิถุนายน คณะกรรมการสมาคมฯ เดินทางไปพบกับรัฐมนตรี มหาดไทย เพื่อสอบถามความชัดเจนในเรื่องการดังกล่าว
แหล่งข่าวในวงการผู้ประกอบการเคเบิลทีวีในพื้นที่ภาคตะวันออก เผยว่า ขณะนี้เราจะยังไม่หยุดแพร่ภาพสัญญาณของ ASTV อย่างแน่นอนจนกว่าจะมีหนังสือออกมาจากกระทรวงมหาดไทย หรือคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัด ว่าให้หยุดแพร่ภาพอย่างชัดเจน
ทั้งนี้ เพราะที่ผ่านมาแค่สัญญาณ ASTV ไม่ชัดเจน สมาชิกจะโทรศัพท์มาต่อจำนวนมาก และประกาศว่า หากเคเบิลทีวีเข้าข้างรัฐบาลพร้อมจะเลิกเป็นสมาชิก ทั้งที่เราก็เป็นเพียงสื่อกลางเผยแพร่ข่าวสารในทั้ง 2 ด้าน ดังนั้น หากจะให้หยุดแพร่ภาพจริงๆ คงต้องมีคำตอบที่ชัดเจน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อพิจารณาตามข้อกฎหมายแล้ว ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 46 วรรคสาม การกระทำใดๆ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมื่อ เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือเจ้าของกิจการ อันเป็นการขัดขวางหรือแทรกแซงการเสนอข่าวหรือแสดงความคิดเห็นในประเด็นสาธารณะของบุคคลตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง ให้ถือว่าเป็นการจงใจใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบและไม่มีผลบังคับ เว้นแต่เป็นการกระทำไปเพื่อเป็นไปตามกฎหมายหรือจริยธรรมแห่งการประกอบวิชาชีพ
1. การดำเนินการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 85 ต้องดำเนินการตามกระบวนการโดยผู้เสียหายต้องแจ้งความก่อนเพื่อเอาผิดกับผู้ประกาศ ไม่ใช่เคเบิลทีวีท้องถิ่น
2. การถ่ายทอดสดการชุมนุมของพันธมิตรฯ ถือว่ามีความผิดตามมาตรา 215 และ 216 ไม่ได้เพราะเป็นการชุมนุมโดยสงบ ไม่ได้ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง เพราะบุคคลย่อมมีสิทธิและเสรีภาพส่วนบุคคล
กฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 37 บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการสื่อสารถึงกันโดยทางที่ชอบด้วยกฎหมาย สั่งปิดไม่ได้เว้นแต่จะมีกฎหมายเฉพาะเพื่อรักษาความมั่นคงของรัฐ
3. หน่วยงานราชการการสั่งปิดสื่อกระทำไม่ได้เพราะ
ผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 43 บุคคลย่อมมีสิทธิและเสรีภาพในการประกอบอาชีพ
ผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 45 เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของบุคคลและสื่อมวลชน ผู้สั่งปิดคือองค์กรอิสระที่ยังไม่มีการแต่งตั้ง
ผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 46 วรรคสาม การกระทำใดๆ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมื่อ เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือเจ้าของกิจการ อันเป็นการขัดขวางหรือแทรกแซงการเสนอข่าวหรือแสดงความคิดเห็นในประเด็นสาธารณะของบุคคลตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง ให้ถือว่าเป็นการจงใจใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบและไม่มีผลบังคับ เว้นแต่เป็นการกระทำไปเพื่อเป็นไปตามกฎหมายหรือจริยธรรมแห่งการประกอบวิชาชีพ
ดังนั้น ผู้ที่จะสั่งปิดสื่อต้องกล้าที่จะสั่งเป็นลายลักษณ์อักษร
นายเกษม อินทร์แก้ว นายกสมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศ เผยว่า ในระหว่างการประชุมคณะกรรมการสมาคมฯ จากทั่วประเทศ ที่สวนนงนุช ระหว่างวันที่ 13-14 มิถุนายน 2551 เกี่ยวกับเรื่องที่มีกระแสข่าวว่ารัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยได้ออกมาประกาศว่าจะให้ทางเคเบิลทีวีหยุดแพร่ภาพสัญญาณของ ASTV ซึ่งในความจริงเป็นอย่างไร เรายังทราบแน่ชัด
พวกเราคงยังทำตามไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าจะตอบคำถามประชาชนอย่างไร เนื่องจากสมาชิกส่วนใหญ่ ต้องการที่จะชมช่องสัญญาณของ ASTV หากปิดไป สมาชิกคงจะไม่ยอมและทางเราไม่มีคำตอบที่ชัดเจนให้
ดังนั้น หากทางรัฐมนตรีมหาดไทยจะให้กำหนดแพร่ภาพจริงๆ จะต้องทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรมาใช้ชัดเจน เพื่อที่เราจะได้ตอบคำถามกับประชาชนได้ว่า หยุดแพร่ภาพเพราะอะไร ซึ่งในวันจันทร์ 16 มิถุนายน คณะกรรมการสมาคมฯ เดินทางไปพบกับรัฐมนตรี มหาดไทย เพื่อสอบถามความชัดเจนในเรื่องการดังกล่าว
แหล่งข่าวในวงการผู้ประกอบการเคเบิลทีวีในพื้นที่ภาคตะวันออก เผยว่า ขณะนี้เราจะยังไม่หยุดแพร่ภาพสัญญาณของ ASTV อย่างแน่นอนจนกว่าจะมีหนังสือออกมาจากกระทรวงมหาดไทย หรือคำสั่งผู้ว่าราชการจังหวัด ว่าให้หยุดแพร่ภาพอย่างชัดเจน
ทั้งนี้ เพราะที่ผ่านมาแค่สัญญาณ ASTV ไม่ชัดเจน สมาชิกจะโทรศัพท์มาต่อจำนวนมาก และประกาศว่า หากเคเบิลทีวีเข้าข้างรัฐบาลพร้อมจะเลิกเป็นสมาชิก ทั้งที่เราก็เป็นเพียงสื่อกลางเผยแพร่ข่าวสารในทั้ง 2 ด้าน ดังนั้น หากจะให้หยุดแพร่ภาพจริงๆ คงต้องมีคำตอบที่ชัดเจน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อพิจารณาตามข้อกฎหมายแล้ว ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 46 วรรคสาม การกระทำใดๆ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมื่อ เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือเจ้าของกิจการ อันเป็นการขัดขวางหรือแทรกแซงการเสนอข่าวหรือแสดงความคิดเห็นในประเด็นสาธารณะของบุคคลตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง ให้ถือว่าเป็นการจงใจใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบและไม่มีผลบังคับ เว้นแต่เป็นการกระทำไปเพื่อเป็นไปตามกฎหมายหรือจริยธรรมแห่งการประกอบวิชาชีพ
1. การดำเนินการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 85 ต้องดำเนินการตามกระบวนการโดยผู้เสียหายต้องแจ้งความก่อนเพื่อเอาผิดกับผู้ประกาศ ไม่ใช่เคเบิลทีวีท้องถิ่น
2. การถ่ายทอดสดการชุมนุมของพันธมิตรฯ ถือว่ามีความผิดตามมาตรา 215 และ 216 ไม่ได้เพราะเป็นการชุมนุมโดยสงบ ไม่ได้ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง เพราะบุคคลย่อมมีสิทธิและเสรีภาพส่วนบุคคล
กฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 37 บุคคลย่อมมีเสรีภาพในการสื่อสารถึงกันโดยทางที่ชอบด้วยกฎหมาย สั่งปิดไม่ได้เว้นแต่จะมีกฎหมายเฉพาะเพื่อรักษาความมั่นคงของรัฐ
3. หน่วยงานราชการการสั่งปิดสื่อกระทำไม่ได้เพราะ
ผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 43 บุคคลย่อมมีสิทธิและเสรีภาพในการประกอบอาชีพ
ผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 45 เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของบุคคลและสื่อมวลชน ผู้สั่งปิดคือองค์กรอิสระที่ยังไม่มีการแต่งตั้ง
ผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญมาตรา 46 วรรคสาม การกระทำใดๆ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมื่อ เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือเจ้าของกิจการ อันเป็นการขัดขวางหรือแทรกแซงการเสนอข่าวหรือแสดงความคิดเห็นในประเด็นสาธารณะของบุคคลตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง ให้ถือว่าเป็นการจงใจใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบและไม่มีผลบังคับ เว้นแต่เป็นการกระทำไปเพื่อเป็นไปตามกฎหมายหรือจริยธรรมแห่งการประกอบวิชาชีพ
ดังนั้น ผู้ที่จะสั่งปิดสื่อต้องกล้าที่จะสั่งเป็นลายลักษณ์อักษร