ศูนย์ข่าวขอนแก่น - รถบรรทุกอีสานประเดิมหยุดวิ่งให้บริการวันแรกกว่า 200 คัน เผยเป็นเพียงมาตรการเบื้องต้นที่ต้องการกดดันรัฐบาลหันมาให้ความช่วยเหลือ แต่หากยังเฉย 17มิ.ย.พาเหรดเข้ากรุงฯพร้อมหยุดให้บริการกว่า 4,000 คันทั่วอีสาน ระบุรัฐต้องเร่งหาทางต่อชีวิตผู้ประกอบการโดยช่วยติดตั้งถังแก๊ส NGV ราคาถูก และเพิ่มสถานีบริการปตท.ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่
นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานชมรมผู้ประกอบการรถบรรทุกจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยถึงการหยุดวิ่งให้บริการรถบรรทุกสินค้าตามมติของสมาคมฯ ในวันนี้ว่า เป็นเพียงมาตรการเบื้องต้นที่ต้องการให้รัฐบาลหันมาใส่ใจแก้ปัญหาให้โดยมีรถบรรทุกหยุดวิ่งให้บริการเพียงบางส่วนราว 20-30% หรือกว่า 100 คันเท่านั้น ยังไม่ได้หยุดวิ่งทั้งหมด รถบรรทุกกว่า100 คันที่หยุดวิ่งต่างจอดบริเวณด้านหน้าสมาคมฯที่นครราชสีมา
การหยุดวิ่งให้บริการบางส่วนในวันนี้เพื่อต้องการแสดงพลังให้รัฐบาลเห็นว่าเราได้รับความเดือดร้อนจริงๆ จากต้นทุนค่าขนส่งที่เพิ่มสูงขึ้นเกินกว่าจะรับภาระได้ หากรัฐบาลยังไม่มีมาตรการให้ความช่วยเหลือที่เป็นรูปธรรม ผู้ประกอบการรถบรรทุกในภาคอีสานที่ขึ้นทะเบียนกับสมาคมฯกว่า 4,000 คันก็จะหยุดให้บริการและพากันเข้าไปชุมนุมที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 17 มิ.ย.นี้
นายอภิชาต ระบุว่า ผู้ประกอบการขนส่งได้รับผลกระทบจากราค่าน้ำมันมาตั้งแต่ราคาดีเซลแตะระดับ 20 กว่าบาท/ลิตรแล้ว ต้นทุนเพิ่ม รายได้ลดลง หลายรายขาดทุน ซึ่งทางผู้ประกอบการก็พยายามแก้ปัญหาด้วยตนเองมาตลอด เช่น ลดเที่ยววิ่งลง และหาสินค้าจากปลายทางบรรทุกกลับต้นทางเพื่อหารายได้ทดแทนชดเชยต้นทุนน้ำมัน แต่ก็ช่วยได้ไม่มาก ยิ่งราคาดีเซลตอนนี้เกิน 40 บาท/ลิตร ยิ่งขาดทุนกันหนักมากขึ้น
สิ่งที่กลุ่มผู้ประกอบการรถบรรทุกต้องการให้รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือ นอกจากหาทางลดราคาต้นทุนน้ำมันในอัตราพิเศษแล้ว ระยะยาวต้องการให้ช่วยเหลือด้านพลังงานทางเลือกให้ผู้ประกอบการนำมาใช้ในการขนส่ง เช่นพัฒนาระบบเครื่องยนต์ให้สามารถใช้แก๊ซเอ็นจีวี ในราคาถูก ขยายสถานีบริการแก๊สเอ็นจีวีของปตท.ให้มีมากขึ้นกว่าปัจจุบันหรือให้สามารถนำรถบรรทุกเข้าสู่กระบวนการแปลงสินทรัพย์เป็นทุนได้เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถทำธุรกิจต่อไปได้
“มาตรการการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการขนส่งของรัฐบาลต้องมีความชัดเจน จะทำอย่างไรให้ผู้ประกอบการอยู่ได้ หากยังนิ่งเฉย เราจะหยุดวิ่งและจะไปประท้วงถึงกรุงเทพฯ รถบรรทุกในภาคอีสานที่ขึ้นทะเบียนกับสมาคมฯไม่ได้มีแค่ 4,000 กว่าคันเท่านั้น ยังมีรถบรรทุกที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นสมาชิกสมาคมอีกจำนวนมากที่พร้อมจะเข้าร่วมประท้วงกับเรา ”นายอภิชาติกล่าว
ด้าน นายชัยพร วิลัยศักดิ์ เจ้าของผู้ประกอบการขนส่งสินค้า เนี้ยว ส.บริการ จังหวัดขอนแก่น กล่าวว่าสำหรับตนในฐานะผู้ประกอบการรถบรรทุกรายย่อยยังไม่ได้หยุดวิ่งให้บริการแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นรายย่อย ผลกระทบจึงไม่มาก ในขณะที่คนงานแบกหามก็เป็นคนงานที่ไม่ได้มาประจำ เพราะหลายคนมีอาชีพหลักทำนา แต่เพียงมาหารำไพ่พิเศษ ส่วนผู้ประกอบการขนส่งสินค้ารายใหญ่ ที่มีรถ 8 พ่วง หรือ 10 พ่วง จะกระทบหนัก เนื่องจากต้นทุนทุกอย่างสูงหมด ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำมัน แรงงาน ค่าผ่อนรถ ก็ทำให้อยู่ไม่ได้
“ปัญหาโดยภาพรวมของผู้ประกอบการรถบรรทุกนั้น คือให้รัฐบาลเข้ามาให้ความช่วยเหลือ โดยเฉพาะการติดตั้ง แก๊ส NGV ที่มีความจำเป็นมากในช่วงที่ราคาน้ำมันมีการขึ้นราคา ซึ่ง 10 ล้อ 1 คัน จะต้องใช้เงินติดตั้ง 4 แสนบาทในการติดตั้งถังแก๊สเอ็นจีวี”
นายชัยพร กล่าวอีกว่า สาเหตุที่ผู้ประกอบการไม่ติดตั้งเองเนื่องจากว่าไม่มีเงินทุนมากพอ เท่าที่ผ่านมาน้ำมันขึ้นราคา ผู้ประกอบการก็ขาดทุนอยู่แล้ว รถไม่ได้วิ่งสาเหตุจากราคาน้ำมันก็ไม่มีเงิน แล้วของที่จะล่องไปก็ไม่มี เนื่องจากต้องแข่งขันกันเองเพื่อหางานเข้า โดยเฉพาะบางรายต้องพยายามหาสินค้าบรรทุกกลับที่มีมูลค่าเพื่อที่จะเพิ่มเปอร์เซ็นต์ในการขนส่ง แต่สินค้าก็มีน้อย
จึงต้องรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเข้ามาให้ความช่วยเหลือ สำหรับการหยุดวิ่งรถบรรทุกจะเพิ่มมากขึ้นหรือไม่นั้นต้องดูก่อนว่ารัฐบาลจะเข้ามาให้ความช่วยเหลือหรือไม่อย่างไร