ศูนย์ข่าวขอนแก่น- นายแพทย์นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ อดีต ส.ว.อุบลราชธานี ชี้ เชื้อชั่วยังไม่ตาย ระบอบทักษิณที่บูชาเงินเท่านั้น คือ สิ่งที่น่ากลัวที่สุด ย้ำประชาชนเห็นด้วยกับพันธมิตรฯ ที่ออกมาปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จึงเกิดปรากฏการณ์คนเรือนแสน ออกมาอดหลับอดนอน กรำแดด กรำฝน ทั้งวันทั้งคืนเช่นนี้ ลั่นสีขาวสีเหลืองคือคนรักชาติเหมือนกัน อย่าจิกตีกันเอง แล้วปล่อยให้คนชั่วหัวเราะเยาะ
เวลา 16.00 น.วันนี้ (4 มิ.ย.) คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดเสวนาเชิงวิชาการ หัวข้อ 76 ปี ประชาธิปไตยไทย ทางเลือกและทางรอด โดยมี นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ อดีต ส.ว.จังหวัดอุบลราชธานี และ นายประวัติ (สมภพ) บุนนาค อดีตประธานคณะกรรมการประสานงานและสนับสนุนการมีส่วนร่วมและรณรงค์รัฐธรรมนูญ ร่วมด้วย นายชัยวัฒน์ ถิระพันธ์ ผอ.สถาบัน Thai civicnet เป็นวิทยากร โดยมี อาจารย์แพทย์ นักศึกษาแพทย์ และประชาชนทั่วไป เข้าร่วมรับฟัง ณ อาคารเรียนรวม คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
นพ.นิรันดร์ กล่าวกับผู้เข้าร่วมเสวนา ว่า ตนมีความหวังอย่างมาก ที่อยากให้สถาบันการศึกษา เป็นหิ่งห้อย หรือแสงเทียน ให้แสงสว่าง ท่ามกลางสังคมที่เหมือนมีทางตัน ตนเคยผ่านการเป็นนักศึกษา เป็นอาจารย์ ตอนนี้มาอยู่ในภาคประชาสังคม จึงเข้าใจถึงพัฒนาการทางการเมือง และมองว่า สภาพปัจจุบัน กับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ใช่การต่อสู้ของ 2 ขั้ว อย่างที่หลายคนเข้าใจ “ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ คือ การต่อสู้ระหว่าง ธรรมะ กับอธรรม”
อดีต ส.ว.อุบลราชธานี เปิดเผยว่า ในการชุมนุมใหญ่ที่สะพานมัฆวานครั้งนี้ ตนยังไม่เคยขึ้นเวที แต่ได้เห็นถึงการเผชิญกับภาวะเคร่งเครียดของประชาชน จึงเห็นว่านี่คือวิกฤต เพราะ “เชื่อชั่ว ยังไม่ตาย” ไม่เช่นนั้น คนเรือนแสนที่ไปร่วมชุมนุมที่สะพานมัฆวานทุกคน คงจะไม่ต้องทนกับการอดหลับ อดนอน กรำแดด กรำฝน ต้องร้องตะโกน ทั้งวัน ทั้งคืน
สิ่งต่างๆ เหล่านี้ เห็นได้ชัดว่า เกิดจากคนชั้นกลางที่ได้รับความรู้ ได้รับข้อมูลความจริง เพราะไม่เช่นนั้น ภาพการชุมนุมนี้จะไม่จำเป็นต้องเกิด
นายแพทย์นิรันดร์ กล่าวอีกว่า ตนอยากบอกว่า สีขาว และ สีเหลือง คือ พวกเดียวกัน คือ คนรักชาติเหมือนกัน อย่าทำร้ายซึ่งกันและกัน ให้คนชั่วมองแล้วหัวเราะ
“ตอนนี้สังคมไทย เหมือนไก่อยู่ในเข่ง แล้วจิกตีกันเอง เพราะความชั่วทำได้ง่าย เมื่อได้โกงกินด้วยกัน ก็จะเป็นพวกเดียวกัน ผมจึงบอกว่า คนที่คิดแบบทักษิณมีอีกเยอะ จึงอยากเตือน อย่าให้ความชั่ว และคนชั่วหัวเราะเยาะเรา”
นายแพทย์นิรันดร์ ย้ำอีกว่า ปรากฏการณ์นี้ไม่ใช่ที่นายจักรภพ ไม่ใช่การไล่นายสมัคร เพราะคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ เกือบ 10 คดี ยังอยู่ ความชั่วร้ายในสังคมไทยยังไม่หมด คนคิดอย่างพ.ต.ท.ทักษิณ ยังไม่หมด จึงเกรงว่าสังคมไทย จะเข้าสู่ “รัฐที่ล้มเหลว” ต้องอยู่ใน ICU
“เมื่อเข้าโรงพยาบาล หมอที่รักษาดี ก็รอด รักษาไม่ดี ก็เข้าวัดไปเลยแต่รักษาไม่หาย และยังไม่ตาย ก็จะช้ำเลือด ช้ำหนอง นี่ล่ะที่น่ากลัว”
อดีต ส.ว.อุบลราชธานี ชี้ให้ผู้ที่มองพันธมิตรฯ ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย กลับไปคิดใหม่ เพราะการเมืองที่ล้มเหลว ผู้คนคาดหวังกับนักการเมืองไม่ได้ เกิดจากวงจรอุบาทและวัฏจักรน้ำเน่าที่แย่งกันโกงกิน แย่งกันเป็นใหญ่เอง การทุจริตเลือกตั้ง ให้ได้เข้าในสภาพยังเหมือนเดิม พรรคฝ่ายค้านออกมาร้องมากก็ไม่ได้ แต่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทำได้
เพราะปัญหาเศรษฐกิจ ราคาน้ำมันที่เกือบ 2 ลิตรร้อย ทำให้คนจะอยู่ไม่ไหวแล้ว บ้านเมืองเกิดปัญหาเยอะ แต่ที่ผ่านมาปัญหาเกิดจากผู้นำ หากจำกันได้ดี อดีตนายกฯ ทักษิณ ชอบพูดว่า “จังหวัดในที่เลือกไทยรักไทยทั้งพรรค จะดูแลจังหวัดนั้น” นี่ไม่ใช่ประชาธิปไตย แต่มันคือมาเฟีย ที่รับปากจะเลี้ยงลูกน้อง ประชาธิปไตยไม่ใช่ผู้นำรัฐบาลจะดูแลคนที่เลือกเข้าไป แต่ต้องดูแลคนทั้ง 60 กว่าล้านคนทั่วประเทศ นั่นคือ ที่มาของความไม่เป็นประชาธิปไตย ความต้องการแบ่งขั้ว แบ่งฝ่ายของผู้นำ
พันธมิตรฯจึงไม่ใช่ผู้ที่ทำให้เกิดความแตกแยก แต่พันธมิตรฯ คือ การเรียกสิทธิทางการเมืองในภาคประชาชน เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนส่วนรวม ไม่ใช่เพื่อแกนนำคนใดคนหนึ่ง
“นี่จึงเป็นปรากฏการณ์ประชาชนเรือนแสน หากคนเรือนแสนไม่เห็นด้วยกับพันธมิตรฯเขาจะไม่ออกมา จะไม่มีทางเห็นภาพแบบนี้ ตรงกันข้ามกับม็อบที่สนามหลวง ที่ทำให้สังคมวิกฤต เพราะใช้เงินเท่านั้น นี่คือ ความน่ากลัวที่สุดของระบอบทักษิณ” นายแพทย์นิรันดร์ กล่าว