“เผด็จ ภูรีปฏิภาณ” คอลัมนิสต์คนสนิท “แม้ว” แจงผ่าน เอ็นบีที กรณีนายกO คิดทำประชามติถือเป็นเรื่องดีที่แม้ “นายใหญ่” ยังเห็นดีด้วย – เถียงสุดตัว ส.ส.ยื่นแก้ไข รธน.ก่อนเป็นเรื่องที่ดี เพราะ ปชช.จะได้เห็น รธน.ที่แก้ไขแล้ว ก่อนตัดสินใจลงประชามติ
คลิกที่นี่ เพื่อฟังรายการ ข่าวหน้าสี่
วานนี้ (23 พ.ค.)นายเผด็จ ภูรีปฏิภาณ คอมลัมนิสต์หนังสือพิมพ์ ข่าวสด และบางกอกทูเดย์ ให้สัมภาณ์ในรายการ ข่าวหน้าสี่ ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ดำเนินรายการโดยนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ถึงกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีเสนอให้มีการทำประชามติเรื่องแก้ รธน.ว่า การที่จะยอมเสียเงิน 2 พันล้าน เพื่อทำประชามตินั้นถือเป็นเรื่องที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง และแม้จะเสียแพงกว่านี้ก็น่าจะยอม เพราะหากเทียบกับการที่ทุกฝ่ายขัดแย้ง อันจะนำมาซึ่งปัญหาความรุนแรงแล้ว ความเสียหายจะมากกว่านี้เยอะ และที่สำคัญก็คือ รัฐบาลจะได้รู้ว่าประชาชนมีความเห็นแบบไหน หรือต้องการอะไรอย่างแท้จริง ซึ่งต่างจากการลงประชามติครั้งที่แล้วที่ประชาชนไม่สามารถใช้สิทธิ์ได้ เพราะกลุ่ม คมช. และรัฐบาลจัดตั้งควบคุมอยู่ แต่ตอนนี้รัฐบาลของพรรคพลังประชาชนซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเป็นคนจัดทำ หากผลออกมาว่าประชาชนยังอยากใช้ รธน.ปี 50 เหมือนเดิม หรือไม่ควรแก้ รธน. พรรคพลังประชาชนก็คงไม่สามารถตอบโต้อะไรได้อีก และการที่ ส.ส. ยื่นญัตติขอแก้ไข รธน.ไปแล้วนั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ทำถูกแล้ว เพราะประชาชนจะได้รู้ว่า ส.ส.เสนอ รธน.ไปอย่างไรบ้าง เพื่อจะได้มีข้อมูลมากขึ้นในการตัดสินใจในการลงประชามติ
นายเผด็จกล่าวด้วยว่า “การที่จะแก้ไข รธน.นั้น ต้องให้ประชาชนรู้ก่อนว่าแก้อย่างไร ดังนั้นตอนนี้ที่เขายื่นเรื่องเข้าไปอยู่ในสภาแล้ว ว่าแก้ตามนี้นะ ไม่มากหรือน้อยกว่านี้นะ ประชาชนเขาจะได้รู้ว่าที่เค้าจะแก้ยังไง การที่พวกพันธมิตรฯ ออกมาบอกว่าทำไมถึงต้องยื่นก่อน ผมว่าตรงนี้เขาคิดผิด ต้องให้โอกาสประชาชนรู้ด้วยว่าเค้าจะแก้ยังไง ผมว่าคุณสมัครทำถูกในเรื่องนี้ และคุณทักษิณเองก็เห็นด้วย และขณะนี้ผมก็คิดว่าทุกฝ่ายควรเห็นด้วยกับเรื่องนี้ แล้วให้ประชาชนเป็นคนตัดสินแล้วเราก็ต้องยอมรับ ถึงตอนนั้นการเมืองข้างถนนจะได้ลดบทบาทลงไป เอาการเมืองเอาประชาธิปไตยไปเล่นในสภา บ้านเมืองเราจะได้สงบสุขเสียที”
ด้านนายวิทยา ตัณฑสุทธิ์ คอลัมนิสต์ประจำรายการ กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองตอนนี้เริ่มเย็นลงแล้ว หลังจากที่นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ประกาศว่าจะจัดให้มีการทำประชามติถามความคิดเห็นของประชาชนนั้น ซึ่งถือเป็นทางออกที่ดี เพราะในทางประชาธิปไตยเมื่อมีปัญหาหรือความเห็นที่แตกต่างเราก็ควรจะใช้วิธีตามกระบวนการประชาธิปไตยในการแก้ไขกันไป แต่สิ่งที่น่าเป็นวิตกก็คือ หากบางกลุ่มที่มีความคิดเห็นที่แตกต่างไปใช้วิธีนอกระบอบ ก็จะทำให้คนที่อยู่ในระบบอึดอัด
“นาทีนี้รัฐบาลเขาเคลียร์ปัญหานี้ไปได้พอสมควร ส.ส.ร.ไม่เอาเพราะปัญหาเยอะ ก็ทำประชามติ สองพันล้านบาท ถ้าแลกแล้วมันคุ้มผมก็คิดว่าจำเป็นต้องทำ เพราะไม่อย่างนั้นก็เป็นประเด็นให้เถียงกันอยู่อย่างนี้” นายวิทยากล่าว
