ประมวลภาพเวทีโคราชสุดคึก-ก่อนเข้ากรุงหนุนพันธมิตรฯไล่ รบ.โจร

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - บรรยากาศเวทีคู่ขนานหนุนพันธมิตรฯ “ชาวโคราชรวมพลังคัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อฟอกความผิดพวกของตน และสร้างกติกาใหม่ให้โจร” ที่ลานย่าโมสุดคึกก่อนยกทัพเข้ากรุงร่วมชุมนุมใหญ่ไล่รัฐบาลโจรวันนี้เผย “สมเกียรติ” 1 ใน 5 แกนนำพันธมิตรฯ เดินสายมาขึ้นเวทีรับฉันทามติหลานย่าโมเดินหน้าไล่ รบ.โจร แฉ ส.ส.พลังแม้วเล่นวิชามารถอนญัตติแก้รธน.-ตะเพิด“เจ๊เพ็ญ” ลาออกหวังสลายม็อบพันธมิตรฯ ด้านแกนนำภาคีโคราชและสมัชชาฯ หนุนเดินหน้าขับไล่รัฐบาลชิงชังแห่งชาติ “นอมินีแม้ว” ถึงที่สุด

วันนี้ (30 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาตั้งแต่เวลา 18.00-22.30 น.ที่บริเวณลานด้านข้างอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) ถ.ชุมพล อ.เมือง จ.นครราชสีมา สมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทยร่วมกับกลุ่มภาคีมวลชนคนโคราชรักประชาธิปไตย นำโดย ทพ.ศุภผล เอี่ยมเมธาวี ประธานกลุ่มภาคีฯ ได้จัดเวทีเปิดปราศรัย “ชาวโคราชรวมพลังคัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อฟอกความผิดพวกของตน และสร้างกติกาใหม่ให้โจร” เป็นวันที่ 2 ซึ่งเป็นเวทีคู่ขนานสนับสนุนการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ ถ.ราชดำเนิน เชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ กรุงเทพฯ

โดยมี ประชาชนชาวโคราชให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟังการปราศรัย และร่วมลงชื่อถอดถอน ส.ส.และ ส.ว.ที่เข้าชื่อยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ พร้อมบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือสถานโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม และ เป็นทุนจัดกรรมกิจของภาคีมวลชนคนโคราชฯ กันอย่างคึกคัก

พร้อมกันนี้ ได้มีการติดตั้งจอโปรเจคเตอร์ขนาดใหญ่ ถ่ายทอดสดการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่กรุงเทพฯ ผ่าน เอเอสทีวี นิวส์ 1 ให้ประชาชนที่มาร่วมฟังปราศัยได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอดเวลาด้วย

สำหรับการปราศรัยบนเวทีในครั้ง นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ 1 ใน 5 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้เดินทางด่วนจากการชุมนุมที่กรุงเทพฯ มาพบปะปราศรัยกับพี่น้องประชาชนชาวโคราชด้วยตัวเองด้วย

นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ กล่าวว่า ตนตั้งใจเดินทางตรงจากกรุงเทพฯ มาปราศรัยพบปะกับพี่น้องด้วยความรักและศรัทธาพี่น้องชาวโคราชอย่างแท้จริง และต้องการมาสอบถามเป็นเสียงประชามติจากชาวโคราชว่าเราจะเดินหน้าสู้ต่อไปจนถึงที่สุดหรือไม่ ทั้งนี้ เนื่องจากมีรายงานข่าวออกมาชัดเจนว่าบรรดาส.ส.ไม่มีสมองทั้งหลายได้ถูกนายใหญ่สั่งให้ถอนชื่อการยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว พร้อมให้รัฐมนตรีบางคนที่มีปัญหาหมิ่นเบื้องสูงลาออก เพื่อลดกระแสและกดดันให้กลุ่มพันธมิตรฯ สลายการชุมนุม

แต่อย่างไรก็ตาม ต้องบอกกับประชาชนว่า วันนี้ประเทศชาติได้เผชิญกับวิกฤตในทุกด้านแบบไม่มีทางออก และรัฐบาลชิงชังแห่งชาติชุดนี้เป็นหุ่นเชิดไร้ความชอบธรรมที่จะบริหารประเทศอีกต่อไปเพราะไม่คิดที่จะแก้ปัญหาความเดือดร้อนโดยเฉพาะเรื่องปากท้องของพี่น้องประชาชนได้ ประการสำคัญสถาบันหลักของชาติถูกจ้องล้มล้างเพื่อเปลี่ยนไปเป็นระบอบสาธารณรัฐ และเจ้ากระทรวงหลายคนมีผลประโยชน์กับนโยบายการแก้ปัญหาราคาสินค้า เช่น เงินสะพัด 3,000 ล้านบาท ในการขึ้นราคาน้ำตาลเอื้อนายทุน เป็นต้น

ดังนั้น ต้องขอเสียงประชามติจากชาวโคราช ว่า เราจะยุติการชุมนุมหากรัฐบาลถอนญัตติแก้ไข รธน.หรือจะเดินหน้าขับไล่รัฐบาลชิงชังแห่งชาติชุดนี้จนถึงที่สุด ...ใครเห็นว่าควรยุติให้ยกมือขึ้น (ไม่มีใครยกมือแม้แต่คนเดียว) ใครเห็นว่าควรขับไล่รัฐบาลชิงชังแห่งชาติให้ออกไป (ผู้ชมนุมร่วมฟังปราศรัยยกมือทุกคนพร้อมส่งเสียงร้องสนับสนุนดังกึกก้อง”

“ฉะนั้น ผมจะนำประชามติของชาวโคราชไปบอกให้แกนนำพันธมิตรฯ ได้รับรู้ ซึ่งแกนนำพันธมิตรฯ จะประชุมกำหนดท่าทีอย่างชัดเจนภายในวันนี้ (30 พ.ค.)” นายสมเกียรติ กล่าว

ทพ.ศุภผล เอี่ยมเมธาวี กล่าวว่า ประชาชนชาวโคราช ทั้งกลุ่มภาคีมวลชนคนโคราชฯ และ สมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย พร้อมทั้งองค์กรเครือข่าย ได้ระดมสมาชิกเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อร่วมชมนุมใหญ่เผด็จศึกครั้งสุดท้าย ร่วมกับกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ถ.ราชดำเนิน บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ แบ่งออกเป็น 2 ชุด โดยชุดแรกได้เดินทางด้วยรถบัสไปถึงกรุงเทพฯ แล้วตั้งแต่เย็นวานนี้ (29 พ.ค.) และ ชุดที่ 2 ได้พร้อมใจกันเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ในวันนี้ (30 พ.ค.) รวมทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 1,000 คน

“กลุ่มภาคีมวลชนคนโคราชและ สมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทยเห็นด้วยและพร้อมสนุบสนุน กลุ่มพันธมิตรฯอย่างเต็มที่ในแนวทางเดินหน้าชุมนุมขับไล่รัฐบาลนอมนีของระบอบทักษิณ จนถึงที่สุด” ทพ.ศุภผล กล่าว