เผยพลังพันธมิตรฯ ต่างจังหวัดแห่สมทบแน่นสะพานมัฆวานฯ ผลัดเปลี่ยนกันเข้ากรุงร่วมพันธมิตรฯส่วนกลางขับไล่รัฐบาล"สมัคร" นอมินีระบอบแม้ว-ต้านฉีกรัฐธรรมนูญ วันละเฉียดหมื่นคน ระบุบางคนถึงกับยอมปิดร้านค้ามาร่วมต่อสู้ด้วย พร้อมประกาศจะยืนหยัดเคียงข้างพันธมิตรฯชุมนุมยืดเยื้อจนกว่าจะได้รับชัยชนะ และจะส่งกำลัง ปชช.มาเสริมทัพสับเปลี่ยนต่อเนื่อง ขณะเดียวกันเรียกร้องประชาชนที่อยู่ทางบ้านร่วมกันออกมาสมทบ"กู้ชาติ"ด้วยกัน ก่อนที่จะถูกขบวนการ "ระบอบแม้ว" กลืนประเทศ
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจากจังหวัดต่างๆ ทั่วทุกภาคของประเทศไทยที่มาร่วมชุมนุมขับไล่รัฐบาลนอมินี "ระบอบทักษิณ" และต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 กับพันธมิตรฯภาคกลางที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่คืนวันที่ 25 พ.ค.เป็นต้นมายังคงปักหลักร่วมชุมนุมกันอย่างเหนี่ยวแน่น แม้บางช่วงจะมีฝนตกลงมาอย่างหนักก็ตาม ทั้งนี้ มีการประเมินกันว่า ในส่วนของพันธมิตรฯจังหวัดต่างที่ผลัดเปลี่ยนหมุ่นเวียนกันมาร่วมชุมนุมในแต่ละวันนั้นมีประมาณ 7,000-10,000 คน แต่สำหรับวันศุกร์และเสาร์นี้ในเบื้องต้นคาดว่าน่าจะมีมากกว่า 30,000 คนขึ้นไป
จากการสำรวจรอบๆ บริเวณการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯจากจังหวัดต่างๆ ที่มาร่วมชุมนุมในครั้งนี้พบว่า ผู้ที่มาร่วมชุมนุมส่วนใหญ่จะอยู่กันเป้นกลุ่ม โดยบางกลุ่มจะมีป้ายชื่อเขียนบอกไว้อย่างชัดเจนว่ามาจากจังหวัดใด ส่วนกลุ่มที่ไม่ได้มีป้ายเขียนบอกไว้ก็จะเป็นที่รู้กันเองว่าเป็นคนในกลุ่มเดียวกันหรือไม่ นอกจากนั้นก็จะกระจัดกระจ่ายกันออกไปเป็นกลุ่มๆ โดยแต่ละกลุ่มจะมีการดูแลความปลอดภัยให้กันและกันอย่างเข้มงวด
สอบถามแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯรายหนึ่งที่นำคณะมา เปิดเผยว่า "ที่พวกเราต้องอยู่กันเป็นกลุ่มก็เพื่อป้องกันบุคคลภายนอกที่อาจจะแฝงตัวเข้ามาป่วนในระหว่างที่มีการชุมนุม ซึ่งถ้ามีบุคคลภายนอกหลงเข้ามาพวกเราก็จะช่วยกันสังเกตว่า เป็นคนของกลุ่มหรือไม่ หรือเป็นคนของกลุ่มอื่นที่อาจจะมาประสานงานกันหรือไม่ ซึ่งทุกคนที่มาร่วมชุมนุมในครั้งนี้มาด้วยใจกันทั้งนั้นและทุกคนก็มีอุปกรณ์ติดตัวมากันอย่างพร้อมเพรียง โดยเฉพาะร่มและเสื้อกันฝน เป็นต้น"
กลุ่มสระแก้วลั่น "ไม่ออกไม่เลิก"
นายสุทธิ อัฌชาสัย แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯระยอง เผยว่า การชุมนุมในครั้งนี้ยังประเมินไม่ได้ว่าจะยาวนานแค่ไหน แต่สำหรับประชาชนใน จ.ระยอง ที่หมุนเวียนกันมาร่วมชุมนุมนั้นในแต่ละวันมีประมาณ 300-400 คน โดยจะอยู่กันเป็นกลุ่ม โดยในแต่ละกลุ่มจะมีการ์ดคอยดูแลรักษาความปลอดภัยให้กันและกัน แต่เวลาที่ฝนตกทุกคนก็จะเข้าไปหลบฝนในบริเวณเต็นท์ที่มีการจัดเตรียมกันไว้ให้
นายอัมรินทร์ ยี่เฮง แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯสระแก้ว เปิดเผยว่า พันธมิตรฯสระแก้ว โดยเฉพาะตนตนได้ปักหลักชุมนุมอยู่ที่บริเวณสะพานมัฆวานฯ มาตั้งแต่วันแรก และวันนี้กลุ่มพันธมิตรฯสระแก้วประมาณ 200-300 คนก็ได้เดินทางมาร่วมสมทบอีก และที่ผ่านมาได้มีพันธมิตรฯในกลุ่มเดินทางเข้า-ออก ไป-กลับสลับกันอยู่ทุกวันอยู่ทุกวัน
พันธมิตรฯ ชลบุรี-พัทยาปิดร้านร่วมสู้
นายชินณภัทร แสงรังสี กลุ่มพันธมิตรฯชลบุรี ที่มาร่วมชุมนุมในครั้งนี้ด้วย เปิดเผยว่า การชุมนุมใหญ่วันนี้(30) มีประชาชนและกลุ่มพันธมิตรฯทางภาคตะวันออก พร้อมญาติพี่น้องเดินทางเข้ามาร่วมชุมนุมกับแกนนำพันธมิตรฯเป็นจำนวนมาก เพราะวันนี้ถือว่าเป็นภารกิจสำคัญที่คนไทยทั่วประเทศจะได้ร่วมกันกู้ชาติ หลังถูกยี่ยำจากกลุ่มทำลายประเทศชาติมานาน
นายอภิชาติ เกตุวิจิตร กลุ่มพันธมิตรฯพัทยา กล่าวว่า ตนได้เข้าไปร่วมชุมนุมมาหลายวันแล้วและวันนี้ (30) ก็ได้เข้าร่วมชุมนุมด้วย นอกจากนี้ยังได้นำญาติพี่น้องเดินทางมาร่วมชุมนุมในครั้งนี้ด้วย โดยยอมปิดร้านจำหน่ายสินค้าเพื่อไปร่วมชุมนุมขับไล่พวกทำลายประเทศชาติให้หมดไป
"แม้ต้องปิดร้านและขาดรายได้ ทางครอบครัวก็ไม่หวั่น เพียงขอให้ขับไล่พวกเหล่านี้ให้หมดไปจากประเทศชาติเพราะหากปล่อยไว้เช่นนี้ ประชาชนก็คงจะไม่มีที่อยู่อย่างแน่นอน และพวกเราจะอยู่กันได้อย่างไร ดังนั้นจึงต้องรวมตัวต่อกันสู้เพื่อให้ได้รับชัยชนะอย่างเดียวและต้องชนะอย่างแน่นอน เมื่อมีประชาชนรวมตัวกันมากขนาดนี้"
ชาวสงขลาลั่นปักหลักที่กรุงเทพฯ
นายอติวัณณ์ ปานเพชร แกนนำพันธมิตรฯสงขลา เปิดเผยว่า การเดินทางมาร่วมชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพฯ ของเหล่าทัพพันธมิตรฯสงขลานั้น เป็นไปด้วยความราบรื่นและได้ร่วมปักหลักชุมนุมกับพี่น้องทั่วประเทศ ท่ามกลางบรรยากาศที่คึกคัก โดยการใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางการชุมนุมนั้นมีไม่น่าเป็นห่วง เพราะมีการเตรียมความพร้อมในทุกๆ ด้าน ทั้งอาหารการกิน ที่พัก การรักษาความปลอดภัยรับมือกับข่าวลือต่างๆ ซึ่งมีอาสามัครเข้ามาเกินกว่าจำนวนที่รับ จึงมอบหมายให้ดูแลความปลอดภัยในแต่ละกลุ่มในระดับเข้มข้น พี่น้องและญาติทางบ้านจึงไม่ต้องเป็นห่วง
ส่วนการร่วมกิจกรรมชุมนุมนั้น ทางพันธมิตรฯสงขลาได้เตรียมธงสัญลักษณ์สีส้ม 20 ผืน หมวกแก๊ปสีขาว ผ้าโพกศีรษะ ตัวหนังตะลุง เพื่อเพิ่มสีสันในการชุมนุมให้มีความคึกคัก โดยจับกลุ่มปักหลักร่วมกับพี่น้องพันธมิตรภาคใต้ อาทิ ภูเก็ต นครศรีธรรมราช ชุมพร เป็นต้น รวมถึงการทำความรู้จักกับเพื่อนอุดมการณ์เดียวกันในภูมิภาคอื่นๆ ของประเทศไทย ทั้งปราจีน ราชบุรี สิงค์บุรี เป็นต้น
"แม้ว่าพันธมิตรทั่วประเทศจะปักหลักกันเกือบสัปดาห์แล้ว แต่รับรองว่ายังไม่มีความอ่อนล้าแต่อย่างใด เพราะรับแรงสนับสนุนจากประชาชนอีกทั่วประเทศ และประชาชนจากทั่วสารทิศก็เดินทางมาร่วมชุมนุมสับเปลี่ยนกำลัง ทำให้หลายคนที่อยู่ต่างจังหวัดร่วมชุมนุมเป็นครั้งที่ 2 ในรอบสัปดาห์นี้แล้ว"
ภูเก็ตลั่นร่วมพันธมิตรฯ จนจะชนะ
นายณัชจรงค์ เอกเพิ่มทรัพย์ ประธานกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต เปิดเผยถึงจุดยืนและเจตนารมณ์ในการต่อสู้ร่วมกับพันธมิตรฯในครั้งนี้ว่า ในส่วนของกลุ่มยามฯภูเก็ต มีแนวทางที่ชัดเจนในการเข้าร่วมต่อสู้ในครั้งนี้ภายใต้ธงแห่งสันติ สงบ และอหิงสา ซึ่งยืนยันว่า เครือข่ายยามเฝ้าแผ่นดิน-พันธมิตรฯภูเก็ตจะไม่ยอมให้พันธมิตรฯต้องต่อสู้เพียงลำพังอย่างแน่นอน โดยมีจุดยืนและเจตนารมณ์ที่แน่วแน่มุ่งมั่น คือ มีเจตนาจะให้เกิดการเผชิญหน้าและทำร้ายซึ่งกันและกัน แม้จะมีขั้วข้างอย่างชัดเจน
เมื่อมีความพยายามทำร้ายพี่น้องพันธมิตรฯ และก่อให้เกิดการจลาจล เราจำต้องเข้าร่วมชุมนุม เพื่อปกป้องดูแลพี่น้องพันธมิตร ขอเรียกร้องให้ประชาชนชาวไทยผู้รักชาติ รักแผ่นดิน ทั้งประเทศ ออกมาร่วมแสดงพลังบริสุทธิ์ในการขับไล่ระบอบทักษิณ ระบอบที่กินชาติบ้านเมือง และแนวทางการต่อสู้ของกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ตอีก 1 หัวใจหลัก ก็คือ จะขอยืนหยัดต่อสู้กับแกนนำพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย ทั้ง 5 คน จนกว่าการต่อสู้จะสิ้นสุด ซึ่งนั่นก็คือ ต้องได้รับชัยชนะ
"ขอให้รัฐบาลทั้งคณะพิจารณาตนเองด้วยว่า ที่ผ่านมาทำอะไรเพื่อชาติบ้านเมืองบ้าง หรือสิ่งที่กระทำมาทั้งหมดตั้งแต่ได้รับเลือกตั้ง ทำเพื่อคนเพียงคนเดียว โดยไม่สนใจว่า ชาติบ้านเมืองจะเป็นอย่างไร หรือจะสนใจเพียงเพื่อผลประโยชน์ของตนเองเท่านั้น เชื่อว่า ประชาชนชาวไทยทั้งประเทศ คงจะเห็นแล้วว่า รัฐบาลชุดนี้เป็นอย่างไร อยู่ภายใต้การควบคุมของใคร"
ฮึ่ม! รับไม่ได้ "จักรภพ" จาบจ้วง
ด้าน น.ส.อาภารัตน์ ชาติชุติกำจร อีก 1 แกนนำกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต กล่าวว่า ยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต จะยืนหยัดต่อสู้กับพันธมิตรฯต่อไปจนกว่าจะได้รับชัยชนะ จะไม่ยอมให้พี่น้องพันธมิตรฯ ต้องต่อสู้เพียงลำพัง ขณะนี้มีเครือข่ายยามเฝ้าแผ่นดิน-เครือข่ายพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย ภูเก็ต เดินทางไปสมทบกับพี่น้องพันธมิตรส่วนกลางแล้ว 4 ชุด และวันนี้ (30) พวกเราได้เดินทางมาร่วมอีกจำนวนหนึ่งเพื่อให้พลังบริสุทธิ์ของประชาชนเข้มแข็ง
ส่วนการต่อสู้ของพวกเราจะปักหลักยืดเยื้อมากน้อยแค่ไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่า รัฐบาลจะดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่เชื่อว่า หากรัฐบาลคิดได้ก่อนที่จะสายเกินไปกว่านี้ ยุติบทบาทความเสื่อมทรามของตนเอง และพวกพ้องลง ความสงบก็จะกลับมาอีกครั้งอย่างแน่นอน สำคัญที่สุด ที่พวกเรารับไม่ได้ คือ การที่นายจักรภพ เพ็ญแข กล่าวดูหมิ่นเบื้องสูง ดึงสถาบันพระมหากษัตริย์ลงมาเกลือกกลั้ว โดยไม่เกรงกลัวต่อบาปกรรม ทำเหมือนตนเองเป็นคนใหญ่คนโตมากจากไหน ที่มาทำตนสูงส่งขนาดนี้
"จุดยืนและเจตนารมณ์ของกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต มีหัวใจหลักอยู่ 1 ข้อ คือ เราจะยืนเคียงข้าง 5 แกนนำพันธมิตรฯไปทุกย่างก้าว ไม่กลัว ไม่เกรง อำนาจเถื่อนใด ๆ ทั้งสิ้น ขอให้ประชาชนชาวไทยทั่วประเทศที่รับรู้ข่าวสาร์นี้ออกมารวมตัวแสดงพลังบริสุทธิ์กันให้มาก ๆ เพื่อให้รัฐบาลเถื่อนชุดนี้ได้รับรู้ว่า ชาวไทยจะไม่ยอมอีกต่อไปแล้ว ขอให้ทุกคนคิดว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของส่วนรวม ไม่ใช่เรื่องของใครคนใด คนหนึ่ง แต่หากใครที่คิดว่า ไม่ใช่เรื่องของตนเอง ก็ขอให้ไปยื่นใบลาออกจากความเป็นคนไทยเสีย"
พันธมิตรฯ เหนือล่างประกาศสู้ตาย
นายสุวัฒน์ วัฒนศิริ เลขาธิการสมัชชาประชาชนฯภาคเหนือ แกนนำพันธมิตรฯกำแพงเพชร เปิดเผยว่า ในส่วนของพันธมิตรฯกำแพงเพชร ได้ร่วมกันลงขันและเช่าเหมารถตู้-รถบัสเดินทางมาร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯส่วนกลางเพื่อขับไล่รัฐบาล-ต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พร้อมกับสกัดกั้นการฟื้นคืนชีพของ "ระบอบทักษิณ" อย่างเต็มกำลัง โดยมีผู้ร่วมเดินทางมาร่วมชุมนุมในวันนี้ด้วยกว่า 100 คน ส่วนในวันเสาร์ก็คงจะมีผู้เดินทางมาเพิ่ม ซึ่งขณะนี้ได้มีผู้แจงความประสงค์เข้ามาแล้วกว่า 50 คน
นายภูริทัต สุธาธรรม แกนนำพันธมิตรฯพิษณุโลก เปิดเผยว่า ในส่วนของพิษณุโลกวันนี้ (30) มีทีมงานกลุ่มพันธมิตรฯพิษณุโลกยังคงถ่ายทอดสด ASTV จาก 5 แกนนำพันธมิตรชุมนุมที่ปราศรัยอยู่ที่สะพานมัฆวาน ณ วนชมน่าน จ.พิษณุโลกเหมือนเดิม ไม่มีวันหยุด เพื่อให้คนพิษณุโลกได้รับข้อมูลข่าวสาร
นายพอพันธุ์ จินันทุยา กรรมการ/เลขานุการ สปท.ภาคเหนือ เปิดเผยว่า การชุมนุมใหญ่วันนี้ (30) พันธมิตรฯปากน้ำโพได้จัดพ่อครัว เครื่องครัว เสบียงอาหาร นำมาตั้งเต็นท์ประกอบอาหารเลี้ยงผู้เข้าร่วมชุมนุมด้วย 2 คันรถ ส่วนกำลังคนนั้นได้เดินทางเข้าร่วมจำนวนมากเช่นกัน โดยมีทั้งใช้รถยนต์ส่วนตัวเดินทางเข้ามาเอง เดินทางร่วมกันเป็นกลุ่มก่อนและเดินทางเข้าไปพร้อมกับสมาชิก สรส.นครสวรรค์
เช่นเดียวกับพันธมิตรฯภาคเหนือตอนล่างจังหวัดอื่นๆ ทั้ง จ.พิจิตร ตาก สุโขทัย อุทัยธานี ฯลฯ ก็ได้มีมติร่วมกันระดมกำลังคนเข้าร่วมการชุมนุมใหญ่ของพันธมิตรฯครั้งนี้ให้มากที่สุดเช่นกัน
เผยพันธมิตรฯ ใต้ร่วมหมื่น ร่วมชุมนุม
ด้านนายสุนทร รักษ์รงค์ หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯชุมพร และผู้ประสานงานพันธมิตรฯภาคใต้ กล่าวว่า พันธมิตรฯจาก 14 จังหวัดภาคใต้ได้เดินทางมาสบทบร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯที่กรุงเทพฯจนถึงวันนี้ (30) มีหลายหมื่นคนแล้ว และก็ยังทยอยเดินทางเข้าไปร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯส่วนกลางอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะได้รับชัยชนะ
นายไกรศักดิ์ ใหญ่จริง พันธมิตรฯตรัง บอกว่า ถึงแม้ว่าตนจะไม่ได้เดินทางไปร่วมกับพี่น้องพันธมิตรฯที่กรุงเทพฯ แต่ก็ได้ส่งแรงใจเอาใจช่วยพันธมิตรทุกคน ซึ่งประชาชนที่เดินทางไปจาก จ.ตรังมีกว่า 500 คน ตอนนี้ก็ถึงปลายทางเรียบร้อยแล้ว ส่วนที่อยู่ในพื้นที่ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันเรื่องข้าวยาก หมากแพง รัฐบาลไม่แก้ปัญหาปากท้องชาวบ้านก่อน มัวแต่นึกถึงผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง
"ตอนนี้พันธมิตรฯตรังกำลังดำเนินการขออนุญาตใช้สถานที่หน้าศาลากลางจังหวัดตรัง เพื่อนำจอโปรเจกเตอร์มารับสัญญาณถ่ายทอดสด ให้พี่น้องประชาชนได้มาร่วมชุมนุมควบคู่ไปกับเวทีใหญ่อีกด้วย"
คนโคราชกว่าพันร่วมขับรัฐบาล
ทพ.ศุภผล เอี่ยมเมธาวี ประธานกลุ่มภาคีมวลชนคนโคราชรักประชาธิปไตย กล่าวว่า วันนี้(30)ประชาชนชาวโคราช ทั้งกลุ่มภาคีมวลชนคนโคราชฯ และสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย พร้อมทั้งองค์กรเครือข่าย ได้ระดมสมาชิกเดินทางเข้ากรุงเทพฯร่วมชมนุมใหญ่เผด็จศึกครั้งสุดท้ายกับกลุ่มพันธมิตรฯไม่ต่ำกว่า 1,000 คน โดยชุดแรกได้เดินทางด้วยรถบัสถึงกรุงเทพฯ แล้วตั้งแต่เย็นวันที่ 29 พ.ค.และชุดที่ 2 ได้พร้อมใจกันเดินทางเข้ากรุงเทพฯในเช้าวันนี้
"กลุ่มภาคีมวลชนคนโคราชและสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทยเห็นด้วยและพร้อมสนุนสนุน กลุ่มพันธมิตรฯอย่างเต็มที่ในแนวทางเดินหน้าชุมนุมขับไล่รัฐบาลนอมนีของระบอบทักษิณจนถึงที่สุด"
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจากจังหวัดต่างๆ ทั่วทุกภาคของประเทศไทยที่มาร่วมชุมนุมขับไล่รัฐบาลนอมินี "ระบอบทักษิณ" และต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 กับพันธมิตรฯภาคกลางที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ กรุงเทพมหานคร ตั้งแต่คืนวันที่ 25 พ.ค.เป็นต้นมายังคงปักหลักร่วมชุมนุมกันอย่างเหนี่ยวแน่น แม้บางช่วงจะมีฝนตกลงมาอย่างหนักก็ตาม ทั้งนี้ มีการประเมินกันว่า ในส่วนของพันธมิตรฯจังหวัดต่างที่ผลัดเปลี่ยนหมุ่นเวียนกันมาร่วมชุมนุมในแต่ละวันนั้นมีประมาณ 7,000-10,000 คน แต่สำหรับวันศุกร์และเสาร์นี้ในเบื้องต้นคาดว่าน่าจะมีมากกว่า 30,000 คนขึ้นไป
จากการสำรวจรอบๆ บริเวณการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯจากจังหวัดต่างๆ ที่มาร่วมชุมนุมในครั้งนี้พบว่า ผู้ที่มาร่วมชุมนุมส่วนใหญ่จะอยู่กันเป้นกลุ่ม โดยบางกลุ่มจะมีป้ายชื่อเขียนบอกไว้อย่างชัดเจนว่ามาจากจังหวัดใด ส่วนกลุ่มที่ไม่ได้มีป้ายเขียนบอกไว้ก็จะเป็นที่รู้กันเองว่าเป็นคนในกลุ่มเดียวกันหรือไม่ นอกจากนั้นก็จะกระจัดกระจ่ายกันออกไปเป็นกลุ่มๆ โดยแต่ละกลุ่มจะมีการดูแลความปลอดภัยให้กันและกันอย่างเข้มงวด
สอบถามแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯรายหนึ่งที่นำคณะมา เปิดเผยว่า "ที่พวกเราต้องอยู่กันเป็นกลุ่มก็เพื่อป้องกันบุคคลภายนอกที่อาจจะแฝงตัวเข้ามาป่วนในระหว่างที่มีการชุมนุม ซึ่งถ้ามีบุคคลภายนอกหลงเข้ามาพวกเราก็จะช่วยกันสังเกตว่า เป็นคนของกลุ่มหรือไม่ หรือเป็นคนของกลุ่มอื่นที่อาจจะมาประสานงานกันหรือไม่ ซึ่งทุกคนที่มาร่วมชุมนุมในครั้งนี้มาด้วยใจกันทั้งนั้นและทุกคนก็มีอุปกรณ์ติดตัวมากันอย่างพร้อมเพรียง โดยเฉพาะร่มและเสื้อกันฝน เป็นต้น"
กลุ่มสระแก้วลั่น "ไม่ออกไม่เลิก"
นายสุทธิ อัฌชาสัย แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯระยอง เผยว่า การชุมนุมในครั้งนี้ยังประเมินไม่ได้ว่าจะยาวนานแค่ไหน แต่สำหรับประชาชนใน จ.ระยอง ที่หมุนเวียนกันมาร่วมชุมนุมนั้นในแต่ละวันมีประมาณ 300-400 คน โดยจะอยู่กันเป็นกลุ่ม โดยในแต่ละกลุ่มจะมีการ์ดคอยดูแลรักษาความปลอดภัยให้กันและกัน แต่เวลาที่ฝนตกทุกคนก็จะเข้าไปหลบฝนในบริเวณเต็นท์ที่มีการจัดเตรียมกันไว้ให้
นายอัมรินทร์ ยี่เฮง แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯสระแก้ว เปิดเผยว่า พันธมิตรฯสระแก้ว โดยเฉพาะตนตนได้ปักหลักชุมนุมอยู่ที่บริเวณสะพานมัฆวานฯ มาตั้งแต่วันแรก และวันนี้กลุ่มพันธมิตรฯสระแก้วประมาณ 200-300 คนก็ได้เดินทางมาร่วมสมทบอีก และที่ผ่านมาได้มีพันธมิตรฯในกลุ่มเดินทางเข้า-ออก ไป-กลับสลับกันอยู่ทุกวันอยู่ทุกวัน
พันธมิตรฯ ชลบุรี-พัทยาปิดร้านร่วมสู้
นายชินณภัทร แสงรังสี กลุ่มพันธมิตรฯชลบุรี ที่มาร่วมชุมนุมในครั้งนี้ด้วย เปิดเผยว่า การชุมนุมใหญ่วันนี้(30) มีประชาชนและกลุ่มพันธมิตรฯทางภาคตะวันออก พร้อมญาติพี่น้องเดินทางเข้ามาร่วมชุมนุมกับแกนนำพันธมิตรฯเป็นจำนวนมาก เพราะวันนี้ถือว่าเป็นภารกิจสำคัญที่คนไทยทั่วประเทศจะได้ร่วมกันกู้ชาติ หลังถูกยี่ยำจากกลุ่มทำลายประเทศชาติมานาน
นายอภิชาติ เกตุวิจิตร กลุ่มพันธมิตรฯพัทยา กล่าวว่า ตนได้เข้าไปร่วมชุมนุมมาหลายวันแล้วและวันนี้ (30) ก็ได้เข้าร่วมชุมนุมด้วย นอกจากนี้ยังได้นำญาติพี่น้องเดินทางมาร่วมชุมนุมในครั้งนี้ด้วย โดยยอมปิดร้านจำหน่ายสินค้าเพื่อไปร่วมชุมนุมขับไล่พวกทำลายประเทศชาติให้หมดไป
"แม้ต้องปิดร้านและขาดรายได้ ทางครอบครัวก็ไม่หวั่น เพียงขอให้ขับไล่พวกเหล่านี้ให้หมดไปจากประเทศชาติเพราะหากปล่อยไว้เช่นนี้ ประชาชนก็คงจะไม่มีที่อยู่อย่างแน่นอน และพวกเราจะอยู่กันได้อย่างไร ดังนั้นจึงต้องรวมตัวต่อกันสู้เพื่อให้ได้รับชัยชนะอย่างเดียวและต้องชนะอย่างแน่นอน เมื่อมีประชาชนรวมตัวกันมากขนาดนี้"
ชาวสงขลาลั่นปักหลักที่กรุงเทพฯ
นายอติวัณณ์ ปานเพชร แกนนำพันธมิตรฯสงขลา เปิดเผยว่า การเดินทางมาร่วมชุมนุมใหญ่ที่กรุงเทพฯ ของเหล่าทัพพันธมิตรฯสงขลานั้น เป็นไปด้วยความราบรื่นและได้ร่วมปักหลักชุมนุมกับพี่น้องทั่วประเทศ ท่ามกลางบรรยากาศที่คึกคัก โดยการใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางการชุมนุมนั้นมีไม่น่าเป็นห่วง เพราะมีการเตรียมความพร้อมในทุกๆ ด้าน ทั้งอาหารการกิน ที่พัก การรักษาความปลอดภัยรับมือกับข่าวลือต่างๆ ซึ่งมีอาสามัครเข้ามาเกินกว่าจำนวนที่รับ จึงมอบหมายให้ดูแลความปลอดภัยในแต่ละกลุ่มในระดับเข้มข้น พี่น้องและญาติทางบ้านจึงไม่ต้องเป็นห่วง
ส่วนการร่วมกิจกรรมชุมนุมนั้น ทางพันธมิตรฯสงขลาได้เตรียมธงสัญลักษณ์สีส้ม 20 ผืน หมวกแก๊ปสีขาว ผ้าโพกศีรษะ ตัวหนังตะลุง เพื่อเพิ่มสีสันในการชุมนุมให้มีความคึกคัก โดยจับกลุ่มปักหลักร่วมกับพี่น้องพันธมิตรภาคใต้ อาทิ ภูเก็ต นครศรีธรรมราช ชุมพร เป็นต้น รวมถึงการทำความรู้จักกับเพื่อนอุดมการณ์เดียวกันในภูมิภาคอื่นๆ ของประเทศไทย ทั้งปราจีน ราชบุรี สิงค์บุรี เป็นต้น
"แม้ว่าพันธมิตรทั่วประเทศจะปักหลักกันเกือบสัปดาห์แล้ว แต่รับรองว่ายังไม่มีความอ่อนล้าแต่อย่างใด เพราะรับแรงสนับสนุนจากประชาชนอีกทั่วประเทศ และประชาชนจากทั่วสารทิศก็เดินทางมาร่วมชุมนุมสับเปลี่ยนกำลัง ทำให้หลายคนที่อยู่ต่างจังหวัดร่วมชุมนุมเป็นครั้งที่ 2 ในรอบสัปดาห์นี้แล้ว"
ภูเก็ตลั่นร่วมพันธมิตรฯ จนจะชนะ
นายณัชจรงค์ เอกเพิ่มทรัพย์ ประธานกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต เปิดเผยถึงจุดยืนและเจตนารมณ์ในการต่อสู้ร่วมกับพันธมิตรฯในครั้งนี้ว่า ในส่วนของกลุ่มยามฯภูเก็ต มีแนวทางที่ชัดเจนในการเข้าร่วมต่อสู้ในครั้งนี้ภายใต้ธงแห่งสันติ สงบ และอหิงสา ซึ่งยืนยันว่า เครือข่ายยามเฝ้าแผ่นดิน-พันธมิตรฯภูเก็ตจะไม่ยอมให้พันธมิตรฯต้องต่อสู้เพียงลำพังอย่างแน่นอน โดยมีจุดยืนและเจตนารมณ์ที่แน่วแน่มุ่งมั่น คือ มีเจตนาจะให้เกิดการเผชิญหน้าและทำร้ายซึ่งกันและกัน แม้จะมีขั้วข้างอย่างชัดเจน
เมื่อมีความพยายามทำร้ายพี่น้องพันธมิตรฯ และก่อให้เกิดการจลาจล เราจำต้องเข้าร่วมชุมนุม เพื่อปกป้องดูแลพี่น้องพันธมิตร ขอเรียกร้องให้ประชาชนชาวไทยผู้รักชาติ รักแผ่นดิน ทั้งประเทศ ออกมาร่วมแสดงพลังบริสุทธิ์ในการขับไล่ระบอบทักษิณ ระบอบที่กินชาติบ้านเมือง และแนวทางการต่อสู้ของกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ตอีก 1 หัวใจหลัก ก็คือ จะขอยืนหยัดต่อสู้กับแกนนำพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย ทั้ง 5 คน จนกว่าการต่อสู้จะสิ้นสุด ซึ่งนั่นก็คือ ต้องได้รับชัยชนะ
"ขอให้รัฐบาลทั้งคณะพิจารณาตนเองด้วยว่า ที่ผ่านมาทำอะไรเพื่อชาติบ้านเมืองบ้าง หรือสิ่งที่กระทำมาทั้งหมดตั้งแต่ได้รับเลือกตั้ง ทำเพื่อคนเพียงคนเดียว โดยไม่สนใจว่า ชาติบ้านเมืองจะเป็นอย่างไร หรือจะสนใจเพียงเพื่อผลประโยชน์ของตนเองเท่านั้น เชื่อว่า ประชาชนชาวไทยทั้งประเทศ คงจะเห็นแล้วว่า รัฐบาลชุดนี้เป็นอย่างไร อยู่ภายใต้การควบคุมของใคร"
ฮึ่ม! รับไม่ได้ "จักรภพ" จาบจ้วง
ด้าน น.ส.อาภารัตน์ ชาติชุติกำจร อีก 1 แกนนำกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต กล่าวว่า ยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต จะยืนหยัดต่อสู้กับพันธมิตรฯต่อไปจนกว่าจะได้รับชัยชนะ จะไม่ยอมให้พี่น้องพันธมิตรฯ ต้องต่อสู้เพียงลำพัง ขณะนี้มีเครือข่ายยามเฝ้าแผ่นดิน-เครือข่ายพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย ภูเก็ต เดินทางไปสมทบกับพี่น้องพันธมิตรส่วนกลางแล้ว 4 ชุด และวันนี้ (30) พวกเราได้เดินทางมาร่วมอีกจำนวนหนึ่งเพื่อให้พลังบริสุทธิ์ของประชาชนเข้มแข็ง
ส่วนการต่อสู้ของพวกเราจะปักหลักยืดเยื้อมากน้อยแค่ไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่า รัฐบาลจะดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่เชื่อว่า หากรัฐบาลคิดได้ก่อนที่จะสายเกินไปกว่านี้ ยุติบทบาทความเสื่อมทรามของตนเอง และพวกพ้องลง ความสงบก็จะกลับมาอีกครั้งอย่างแน่นอน สำคัญที่สุด ที่พวกเรารับไม่ได้ คือ การที่นายจักรภพ เพ็ญแข กล่าวดูหมิ่นเบื้องสูง ดึงสถาบันพระมหากษัตริย์ลงมาเกลือกกลั้ว โดยไม่เกรงกลัวต่อบาปกรรม ทำเหมือนตนเองเป็นคนใหญ่คนโตมากจากไหน ที่มาทำตนสูงส่งขนาดนี้
"จุดยืนและเจตนารมณ์ของกลุ่มยามเฝ้าแผ่นดินภูเก็ต มีหัวใจหลักอยู่ 1 ข้อ คือ เราจะยืนเคียงข้าง 5 แกนนำพันธมิตรฯไปทุกย่างก้าว ไม่กลัว ไม่เกรง อำนาจเถื่อนใด ๆ ทั้งสิ้น ขอให้ประชาชนชาวไทยทั่วประเทศที่รับรู้ข่าวสาร์นี้ออกมารวมตัวแสดงพลังบริสุทธิ์กันให้มาก ๆ เพื่อให้รัฐบาลเถื่อนชุดนี้ได้รับรู้ว่า ชาวไทยจะไม่ยอมอีกต่อไปแล้ว ขอให้ทุกคนคิดว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของส่วนรวม ไม่ใช่เรื่องของใครคนใด คนหนึ่ง แต่หากใครที่คิดว่า ไม่ใช่เรื่องของตนเอง ก็ขอให้ไปยื่นใบลาออกจากความเป็นคนไทยเสีย"
พันธมิตรฯ เหนือล่างประกาศสู้ตาย
นายสุวัฒน์ วัฒนศิริ เลขาธิการสมัชชาประชาชนฯภาคเหนือ แกนนำพันธมิตรฯกำแพงเพชร เปิดเผยว่า ในส่วนของพันธมิตรฯกำแพงเพชร ได้ร่วมกันลงขันและเช่าเหมารถตู้-รถบัสเดินทางมาร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯส่วนกลางเพื่อขับไล่รัฐบาล-ต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พร้อมกับสกัดกั้นการฟื้นคืนชีพของ "ระบอบทักษิณ" อย่างเต็มกำลัง โดยมีผู้ร่วมเดินทางมาร่วมชุมนุมในวันนี้ด้วยกว่า 100 คน ส่วนในวันเสาร์ก็คงจะมีผู้เดินทางมาเพิ่ม ซึ่งขณะนี้ได้มีผู้แจงความประสงค์เข้ามาแล้วกว่า 50 คน
นายภูริทัต สุธาธรรม แกนนำพันธมิตรฯพิษณุโลก เปิดเผยว่า ในส่วนของพิษณุโลกวันนี้ (30) มีทีมงานกลุ่มพันธมิตรฯพิษณุโลกยังคงถ่ายทอดสด ASTV จาก 5 แกนนำพันธมิตรชุมนุมที่ปราศรัยอยู่ที่สะพานมัฆวาน ณ วนชมน่าน จ.พิษณุโลกเหมือนเดิม ไม่มีวันหยุด เพื่อให้คนพิษณุโลกได้รับข้อมูลข่าวสาร
นายพอพันธุ์ จินันทุยา กรรมการ/เลขานุการ สปท.ภาคเหนือ เปิดเผยว่า การชุมนุมใหญ่วันนี้ (30) พันธมิตรฯปากน้ำโพได้จัดพ่อครัว เครื่องครัว เสบียงอาหาร นำมาตั้งเต็นท์ประกอบอาหารเลี้ยงผู้เข้าร่วมชุมนุมด้วย 2 คันรถ ส่วนกำลังคนนั้นได้เดินทางเข้าร่วมจำนวนมากเช่นกัน โดยมีทั้งใช้รถยนต์ส่วนตัวเดินทางเข้ามาเอง เดินทางร่วมกันเป็นกลุ่มก่อนและเดินทางเข้าไปพร้อมกับสมาชิก สรส.นครสวรรค์
เช่นเดียวกับพันธมิตรฯภาคเหนือตอนล่างจังหวัดอื่นๆ ทั้ง จ.พิจิตร ตาก สุโขทัย อุทัยธานี ฯลฯ ก็ได้มีมติร่วมกันระดมกำลังคนเข้าร่วมการชุมนุมใหญ่ของพันธมิตรฯครั้งนี้ให้มากที่สุดเช่นกัน
เผยพันธมิตรฯ ใต้ร่วมหมื่น ร่วมชุมนุม
ด้านนายสุนทร รักษ์รงค์ หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯชุมพร และผู้ประสานงานพันธมิตรฯภาคใต้ กล่าวว่า พันธมิตรฯจาก 14 จังหวัดภาคใต้ได้เดินทางมาสบทบร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯที่กรุงเทพฯจนถึงวันนี้ (30) มีหลายหมื่นคนแล้ว และก็ยังทยอยเดินทางเข้าไปร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯส่วนกลางอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะได้รับชัยชนะ
นายไกรศักดิ์ ใหญ่จริง พันธมิตรฯตรัง บอกว่า ถึงแม้ว่าตนจะไม่ได้เดินทางไปร่วมกับพี่น้องพันธมิตรฯที่กรุงเทพฯ แต่ก็ได้ส่งแรงใจเอาใจช่วยพันธมิตรทุกคน ซึ่งประชาชนที่เดินทางไปจาก จ.ตรังมีกว่า 500 คน ตอนนี้ก็ถึงปลายทางเรียบร้อยแล้ว ส่วนที่อยู่ในพื้นที่ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันเรื่องข้าวยาก หมากแพง รัฐบาลไม่แก้ปัญหาปากท้องชาวบ้านก่อน มัวแต่นึกถึงผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้อง
"ตอนนี้พันธมิตรฯตรังกำลังดำเนินการขออนุญาตใช้สถานที่หน้าศาลากลางจังหวัดตรัง เพื่อนำจอโปรเจกเตอร์มารับสัญญาณถ่ายทอดสด ให้พี่น้องประชาชนได้มาร่วมชุมนุมควบคู่ไปกับเวทีใหญ่อีกด้วย"
คนโคราชกว่าพันร่วมขับรัฐบาล
ทพ.ศุภผล เอี่ยมเมธาวี ประธานกลุ่มภาคีมวลชนคนโคราชรักประชาธิปไตย กล่าวว่า วันนี้(30)ประชาชนชาวโคราช ทั้งกลุ่มภาคีมวลชนคนโคราชฯ และสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย พร้อมทั้งองค์กรเครือข่าย ได้ระดมสมาชิกเดินทางเข้ากรุงเทพฯร่วมชมนุมใหญ่เผด็จศึกครั้งสุดท้ายกับกลุ่มพันธมิตรฯไม่ต่ำกว่า 1,000 คน โดยชุดแรกได้เดินทางด้วยรถบัสถึงกรุงเทพฯ แล้วตั้งแต่เย็นวันที่ 29 พ.ค.และชุดที่ 2 ได้พร้อมใจกันเดินทางเข้ากรุงเทพฯในเช้าวันนี้
"กลุ่มภาคีมวลชนคนโคราชและสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทยเห็นด้วยและพร้อมสนุนสนุน กลุ่มพันธมิตรฯอย่างเต็มที่ในแนวทางเดินหน้าชุมนุมขับไล่รัฐบาลนอมนีของระบอบทักษิณจนถึงที่สุด"
