บุรีรัมย์ - สมัชชาประชาชนบุรีรัมย์พร้อมเครือข่าย 18 องค์กร เคลื่อนพลเข้ากรุงคืนนี้ ร่วมกลุ่มพันธมิตรฯ ชุมนุมใหญ่คัดค้านแก้รัฐธรรมนูญ “ฟอกมาร” ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พร้อมจี้ผู้ว่าฯ – ตำรวจบุรีรัมย์ เร่งจับคนชั่วทุบเทวรูปบน “พนมรุ้ง” มาดำเนินคดีและฉาวถึงตัวบงการอยู่เบื้องหลังให้ได้
วันนี้ (24 พ.ค.) นางสำเนียง สุภัณพจน์ ประธานสมัชชาประชาชนภาคอีสานจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมแกนนำองค์กรเครือข่าย 18 องค์กร ได้เปิดแถลงข่าวร่วมกันว่า สมัชชาประชาชนภาคอีสานนจังหวัดบุรีรัมย์ และองค์กรเครือข่าย 18 องค์กร จะรวบรวมมวลชนกว่า 200 คน เพื่อเดินทางไปร่วมชุมนุมใหญ่เพื่อแสดงเจตนารมณ์คัดค้านการแก้ไขล้มล้างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 กับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กรุงเทพฯ ในวันที่ 25 พ.ค.2551
นอกจากนั้นกลุ่มสมัชชาฯ ที่จะออกเดินทางในคืนนี้ เพื่อไปร่วมชุมนุม ได้เตรียมเอกสารหลักฐาน สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน เพื่อร่วมเข้าชื่อยื่นถอดถอนสมาชิกรัฐสภาที่ได้ลงชื่อยื่นญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าวด้วย
ทั้งนี้รัฐบาลควรที่จะทดลองใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ไปก่อน ไม่น่าจะรีบร้อนที่จะไปแก้ไข เพราะที่ยกร่างและตราเป็นกฎหมายสูงสุดมายังไม่ทันได้ใช้งานเลย โดยขณะนี้ควรที่จะไปเร่งแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชนชนก่อนเพราะปัจจุบันประชาชนกำลังประสบปัญหาค่าครองชีพสูง ข้าว และ น้ำมันแพง เดือดร้อนกันทั้งประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องแรกที่รัฐบาลต้องดูแลแก้ไขโดยเร่งด่วน ไม่ใช่แก้รัฐธรรมนูญ
“รัฐธรรมนูญปี 2550 ลงประชามติเห็นชอบโดยประชาชนทั้งประเทศ หากแก้ไขก็ต้องให้ประชาชนทั้งประเทศได้ลงมติเห็นชอบก่อน ไม่ใช่ให้ ส.ส.และ ส.ว. ไม่กี่คนใช้เล่ห์เพทุบาย เพื่อให้ประชาชนและประเทศชาติ ต้องตกอยู่ในภาวะวิกฤตซ้ำอีก” นางสำเนียง กล่าวว่า
นางสำเนียง กล่าวอีกว่า นอกจากนี้สมัชชาประชาชนภาคอีสานจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมตัวแทนเครือข่าย 18 องค์กร ขอเรียกร้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) รวมทั้งผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้เร่งติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายที่บุกขึ้นไปประกอบพิธีกรรมก่อนทุบทำลายปากและเศียร องค์เทพบริวารที่ปกปักรักษาปราสาทพนมรุ้ง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ได้รับความเสียหายจำนวนมากมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
ทั้งนี้เนื่องจากปราสาทพนมรุ้ง เป็นเทวสถานอันศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบุรีรัมย์ และคนทั้งประเทศให้ความเคารพสักการะ อีกทั้งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอันเป็นสมบัติล้ำค่าของชาติ การกระทำของคนร้ายถือเป็นการเหยียบย่ำน้ำใจ ดูถูกคนบุรีรัมย์เป็นอย่างมาก
โดยให้จับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุจริง ๆ ไม่ใช่จับแพะมาลงโทษ และ ขออย่าปล่อยให้คนร้ายกลุ่มนี้ลอยนวลอย่างเด็ดขาด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับผู้ไม่หวังดีที่จ้องทำลายโบราณสถานอีกทั้งกลุ่มสมัชชาอีสานจะจัดเวทีสาปแช่งครั้งใหญ่ในเร็วนี้
“ที่สำคัญหากจับคนร้ายที่ทุบทำลายปราสาทพนมรุ้งได้แล้ว ต้องทำการสืบสวนสอบสวนสาวถึงตัวผู้บงการมาดำเนินคดีให้ได้ด้วย เพราะเชื่อว่าเรื่องนี้มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง และผู้ก่อเหตุน่าจะรู้เรื่องไสยศาสตร์เป็นอย่างดี ซึ่งชาวบ้านธรรมดาไม่กล้าบุกรุกขึ้นไปก่อเหตุดังกล่าวอย่างแน่นนอน” นางสำเนียง กล่าว
