ฉะเชิงเทรา - เพลิงยังคงครุกรุ่นอยู่ภายใต้ซากตัวอาคารคลังสินค้า บริษัทยูไนเต็ดไทย โลจิสติกส์ จำกัด ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปลายเทลงมาอย่างต่อเนื่องนานกว่า 2 วัน ชะล้างสารเคมีจำนวนมากไหลบ่าออกมาจากจุดเกิดเหตุ ขณะจังหวัดเตรียมสั่งใช้เครื่องมือกลงานหนัก คุ้ยเขี่ย หาต้นตอของแหล่งสะสมเชื้อเพลิงที่ลุกไหม้เรื้อรัง
วันนี้( 14 พ.ค.51) เวลา 14.30 น. หลังจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักเป็นเวลานานในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา บริเวณจุดเกิดเหตุเพลิงไหม้คลังสินค้า ของบริษัทยูไนเต็ดไทย โลจิสติกส์ จำกัด ภายในนิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์ ม.5 ต.บางสมัคร อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ได้มีสารเคมีจำนวนมากรั่วซึมไหลบ่าปรนเปื้อนออกมาจากซากของตัวอาคารพร้อมกับน้ำฝน
ขณะที่เปลวเพลิงยังคงลุกไหม้สร้างมลพิษอยู่อย่างต่อเนื่อง เป็นเวลานานกว่า 2 วัน แล้ว และยังไม่มีทีท่าว่าจะดับสนิทลงได้ง่าย ทั้งที่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จะมีฝนตกลงมาอย่างหนัก และต่อเนื่องก็ตาม โดยยังคงมีกลุ่มควันไฟพวยพุ่งออกมา จากภายในซากของตัวอาคารอยู่ตลอดเวลา และจะเกิดการประทุลุกไหม้ขึ้นมาเป็นระยะ
นานอานนท์ พรหมนารท ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวถึงผลการตรวจสอบมลพิษทางอากาศว่า จากการตรวจวัดมลพิษทางอากาศ ของกรมควบคุมมลพิษพบว่า ยังไม่ถึงขั้นเป็นอันตรายที่เกินกว่ามาตรฐาน โดยในบริเวณจุดเกิดเหตุมีค่ามลพิษทางอากาศที่วัดได้อยู่ที่ 11.8 พีพีเอ็ม (ppm) และพื้นที่ข้างเคียงตรวจวัดได้ 8.6 ซึ่งไม่เกินกว่าค่ามาตรฐานที่ 50 พีพีเอ็ม แต่จะส่งผลกระทบให้ระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจ
ขณะนี้ในที่เกิดเหตุ เพลิงยังไม่สงบ และยังมีกลุ่มควันไฟพวยพุ่งออกมา ซึ่งในวันนี้ได้พยายามที่จะทำให้เพลิงดับสนิทให้ได้ ด้วยการระดมฉีดน้ำเลี้ยงอยู่ตลอดเวลา และจะใช้เครื่องมือกลงานหนัก (แบ็คโฮ) เข้าไปทำงาน เพื่อคุ้ยหาต้นตอของแหล่งเชื้อเพลิงเพื่อทำการดับให้สนิท ซึ่งคาดว่าหากมีฝนตกลงมาอีกครั้งก็จะดับสนิทลงได้ ส่วนมูลค่าความเสียหาย และสาเหตุยังคงต้องรอการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย
สำหรับการรั่วไหลของสารเคมี ที่ถูกชะล้างปนมากับน้ำฝน จะให้กรมควบคุมมลพิษเข้าไปทำการตรวจสอบอีกครั้ง ซึ่งทราบว่าคลังสินค้าดังกล่าวไม่มีระบบบำบัดน้ำเสียรองรับ แต่ในส่วนของนิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์ มีระบบบำบัดน้ำเสียรวม คาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบออกมายังภายนอก