ศูนย์ข่าวศรีราชา – จันทบุรีเร่งระบายผลผลิตทางการเกษตร สู่ตลาดผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ ช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนผลไม้ หลังผลไม้เริ่มกระจายออกสู่ตลาดมากขึ้น พร้อมเตรียมการแทรกแซงราคา หากพบราคาผลไม้ต่ำลง
นายประจักษ์ สุวรรณภักดี ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี เปิดเผยว่า จังหวัดจันทบุรีได้ประเมินสถานการณ์ผลไม้ที่สำคัญของจังหวัด คาดว่าในปีฤดูการผลิต 2551 จังหวัดจันทบุรีจะมีปริมาณผลไม้ออกสู่ตลาดรวมประมาณ 553,000 ตัน ประกอบด้วยทุเรียน 243,808 ตัน เงาะ 178,987 ตัน และมังคุด 77,700 ตัน ส่วนลองกองจะมีประมาณ 52,500 ตัน ปัจจุบันมีผลผลิตกระจายออกสู่ตลาดไปแล้วกว่า 132,252 ตัน เป็นทุเรียนประมาณร้อยละ 38.69 มังคุดประมาณ ร้อยละ 24.34 เงาะ ประมาณร้อยละ 0.57
จากปริมาณผลผลิตที่คาดการณ์ไว้ดังกล่าว ช่วงนี้ผลผลิตจะกระจายออกสู่ตลาดมากยิ่งขึ้น จังหวัดได้วางมาตรการเพื่อรองรับและพร้อมรับมือกับผลผลิต ที่จะออกสู่ตลาดไว้อย่างเป็นขั้นตอน และจะเข้มงวดกวดขัน เรื่องคุณภาพสินค้าและราคา แล้วจะเร่งระบายผลผลิตไปสู่ตลาดปลายทางที่สำคัญ เพื่อกระจายไปสู่ผู้บริโภคทั้งในประเทศ และต่างประเทศ มีสหกรณ์การเกษตรของจังหวัด จำนวน 10 สหกรณ์ เป็นผู้รวบรวมผลผลิตจากสมาชิกและเกษตรกรทั่วไป
ทั้งนี้ ได้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์กระจายผลไม้ของจังหวัดที่ตลาดค้าส่งผลไม้ปลายทางในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพิ่มขึ้นจากเดิม 5 แห่ง เป็น 8 แห่ง เพื่อลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพกลไกตลาด ด้านราคาผลไม้ในวันนี้ ที่ซื้อ-ขายกันในตลาดจันทบุรี ทุเรียนพันธุ์ชะนีอยู่ที่กิโลกรัมละ 7 ถึง 8 บาท หมอนทอง กิโลกรัมละ 16 ถึง 18 บาท เงาะโรงเรียน 8 ถึง 9 บาท มังคุดผิวมันเกรดส่งออก กิโลกรัมละ 20 ถึง 22 บาท ผิวมันเกรดรอง 16 ถึง 18 บาท มังคุดคละกิโลกรัมละ 10 ถึง 12 บาท
อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าราชการจังหวัดได้มอบหมายให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีนายมานพ วีระอาชากุล ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานป้องกันและแก้ไขปัญหาผลไม้ของจังหวัด เป็นหัวหน้าคณะเดินทางไปเจรจากับจังหวัดพระตะบองและกรุงไพลินของประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อขอให้อำนวยความสะดวกในการขนส่งผลไม้ของจังหวัดไปสู่ตลาดประเทศกัมพูชาและเวียดนามให้รวดเร็วขึ้น
พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์และจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ในประเทศเพื่อนบ้านและต่างประเทศ อีกทั้งได้ประสานขอความร่วมมือสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้อำนวยความสะดวกแก่รถบรรทุกผลไม้ที่มาบรรทุกผลไม้ของจังหวัด
ในส่วนขององค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี ได้เตรียมงบประมาณเพื่อรองรับสถานการณ์ผลไม้ของจังหวัดไว้อีกทางหนึ่งด้วย โดยจะเข้ามารับซื้อผลไม้และส่งไปจำหน่ายยังตลาดปลายทาง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และเพื่อให้การป้องกันและแก้ไขปัญหาผลไม้ของจังหวัดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว ทันเวลา และตอบสนองต่อสถานการณ์ ทางจังหวัดจึงได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาผลไม้ของจังหวัดขึ้น War Room ทำหน้าที่ติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์ผลไม้อย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ตาม หากมีสิ่งบอกเหตุที่จะส่งผลให้ระดับราคาผลไม้ตกต่ำ จังหวัดจะได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที และหากจำเป็นจะเข้ารับซื้อเพื่อแทรกแซงราคานำตลาดตลาดก็มีเงินพร้อมอยู่แล้ว ทั้งนี้ ศูนย์ปฏิบัติการดังกล่าวจัดตั้งอยู่ที่สำนักงานสหกรณ์จังหวัดจันทบุรี