จันทบุรี - จังหวัดจันทบุรี เร่งระบายผลไม้ที่ซื้อแทรกแซงราคาไปยังตลาดทั่วภูมิภาค ทั้งในประเทศและต่างประเทศ พร้อมทั้งวางแนวทางแก้ปัญหาระยะยาวในอนาคต
วันนี้ (16 พ.ค.) นายประจักษ์ สุวรรณภักดี ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี กล่าวภายหลังจากที่เดินตรวจเยี่ยมให้กำลังใจแก่ทหารและนักเรียนโรงเรียนเบญจมานุสรณ์ที่มาช่วยคัดแยกผลไม้เพื่อส่งไปจำหน่ายในตลาดต่างจังหวัด ว่า โดยขณะนี้ภายหลังจากที่จังหวัดเปิดจุดรับซื้อแทรกแซงราคาผลไม้ 8 จุด เพื่ออำนวยความสะดวกแก่เกษตรกรชาวสวนในจังหวัดจันทบุรี ลดต้นทุน กระจายผลผลิตสู่ตลาดปลายทาง ทำให้ปัจจุบันราคาผลไม้ในตลาดกลาง ที่จังหวัดจันทบุรีขยับตัวสูงขึ้นประมาณกิโลกรัมละ 1-2 บาท
ทั้งนี้ ผลไม้ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี ซื้อไว้จากเกษตรกร จะมีการนำเข้าสู่กระบวนการถนอมอาหาร โดยกลุ่มสตรีจากอำเภอต่างๆ จะช่วยกันกว๊านเม็ดแล้วแช่แข็งวันละ 50 ตัน เพื่อรอจำหน่ายแก่โรงงานบรรจุเงาะกระป๋อง หลังหมดฤดูกาล อีกส่วนหนึ่งแพ็คลงกล่อง กล่องละครึ่งกิโลกรัม ส่งจำหน่ายไปยังประเทศเกาหลีใต้ ที่มีกำลังซื้อ และต้องการผลผลิตเงาะคุณภาพมากกว่า 1,000 ตัน
ในอนาคตทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตจันทบุรี และมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี ทำการวิจัยนำเงาะบรรจุภาชนะที่เก็บรักษาได้นาน เพื่อรอจำหน่ายสดหลังหมดฤดูกาล พร้อมทั้งวิจัยเรื่องการนำเงาะไปเป็นส่วนประกอบในการผลิตน้ำส้มสายชู เพื่อลดปัญหาผลผลิตล้นตลาดราคาตกต่ำ ช่วยเหลือเกษตรกรได้อีกช่องทางหนึ่ง
ส่วนแผนระยะยาวทางจังหวัดได้มีการวางแผนป้องกันทั้งระบบ ตั้งแต่ขั้นตอนการปลูก การรวมกลุ่ม การผลิตผลไม้คุณภาพ รวมทั้งตลาดปลายทาง ที่คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในฤดูกาลผลิตปีหน้า และแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน
วันนี้ (16 พ.ค.) นายประจักษ์ สุวรรณภักดี ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี กล่าวภายหลังจากที่เดินตรวจเยี่ยมให้กำลังใจแก่ทหารและนักเรียนโรงเรียนเบญจมานุสรณ์ที่มาช่วยคัดแยกผลไม้เพื่อส่งไปจำหน่ายในตลาดต่างจังหวัด ว่า โดยขณะนี้ภายหลังจากที่จังหวัดเปิดจุดรับซื้อแทรกแซงราคาผลไม้ 8 จุด เพื่ออำนวยความสะดวกแก่เกษตรกรชาวสวนในจังหวัดจันทบุรี ลดต้นทุน กระจายผลผลิตสู่ตลาดปลายทาง ทำให้ปัจจุบันราคาผลไม้ในตลาดกลาง ที่จังหวัดจันทบุรีขยับตัวสูงขึ้นประมาณกิโลกรัมละ 1-2 บาท
ทั้งนี้ ผลไม้ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี ซื้อไว้จากเกษตรกร จะมีการนำเข้าสู่กระบวนการถนอมอาหาร โดยกลุ่มสตรีจากอำเภอต่างๆ จะช่วยกันกว๊านเม็ดแล้วแช่แข็งวันละ 50 ตัน เพื่อรอจำหน่ายแก่โรงงานบรรจุเงาะกระป๋อง หลังหมดฤดูกาล อีกส่วนหนึ่งแพ็คลงกล่อง กล่องละครึ่งกิโลกรัม ส่งจำหน่ายไปยังประเทศเกาหลีใต้ ที่มีกำลังซื้อ และต้องการผลผลิตเงาะคุณภาพมากกว่า 1,000 ตัน
ในอนาคตทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตจันทบุรี และมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี ทำการวิจัยนำเงาะบรรจุภาชนะที่เก็บรักษาได้นาน เพื่อรอจำหน่ายสดหลังหมดฤดูกาล พร้อมทั้งวิจัยเรื่องการนำเงาะไปเป็นส่วนประกอบในการผลิตน้ำส้มสายชู เพื่อลดปัญหาผลผลิตล้นตลาดราคาตกต่ำ ช่วยเหลือเกษตรกรได้อีกช่องทางหนึ่ง
ส่วนแผนระยะยาวทางจังหวัดได้มีการวางแผนป้องกันทั้งระบบ ตั้งแต่ขั้นตอนการปลูก การรวมกลุ่ม การผลิตผลไม้คุณภาพ รวมทั้งตลาดปลายทาง ที่คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในฤดูกาลผลิตปีหน้า และแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน
