กาญจนบุรี – ผู้ว่าฯ และอดีตประธานสภาอุตสาหกรรมกาญจนบุรี ขานรับถนนทวายกาญจนบุรี ไปยังท่าเรือน้ำลึกประเทศพม่า หลัง ครม.มีมติสนับสนุนโครงการดังกล่าว ผู้ว่าฯกาญจนบุรี เผย ถนนไทยสร้างเสร็จแล้ว จ่อชายแดนห่างแค่ 400 เมตร ส่วนอดีตเจ้าของสัมปทานถนนพม่าพร้อมหนุนสู่ระดับโลก แต่มีปัญหาเรื่องที่ดินรัฐทับซ้อนที่ทำกินราษฎร
หลังจากที่รัฐบาลได้มีมติ ครม.สนับสนุนโครงการตัดถนนสายกาญจนบุรีไปยังท่าเรือน้ำลึกเมืองทวายประเทศพม่า วันนี้ (6 พ.ค.) เวลา 17.30 น.นายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยเกี่ยวกับความพร้อมในสนองนโยบายตัดถนนสายทวายกาญจนบุรีว่า จังหวัดกาญจนบุรี พร้อมที่จะเดินหน้านโยบายโครงการท่าเรือน้ำลึกทวายมายังจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งหากมีการสร้างท่าเรือน้ำลึกที่ชายฝั่งทะเลด้านทวายในเมียนมาร์ และหากมีการสร้างถนนมาเชื่อมต่อมายังชายแดนไทยด้านกาญจนบุรี ทางจังหวัดกาญจนบุรี มีความพร้อมที่จะรองรับโครงการดังกล่าวได้อย่างทันที เพราะจังหวัดกาญจนบุรีได้ทำการก่อสร้างถนนเชื่อม ระหว่างบ้านพุน้ำร้อน ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เสร็จเรียบร้อย โดยถนนไปสิ้นสุดห่างจากชายแดนไทย-พม่า แค่ 400 เมตร เนื่องจากยังไม่มีการปักปันเขตแดนที่ถูกต้อง
“เราพร้อมทุกประการที่จะเชื่อมต่อเส้นทางไปยังไปเมืองทวาย ซึ่งมีระยะทาง 130 กม.ซึ่งหากเป็นไปตามที่รัฐบาลที่จะให้การสนับสนุนโครงการนี้ ผมเชื่อว่า ถ้าเกิดเส้นทางนี้ก็จะทำให้เกิดความเจริญก้าวหน้าและมีการพัฒนาด้านเศรษฐกิจรวมถึงการเติบโตทางภาคอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการนำเข้าวัตถุดิบของทะเลที่น่าจะเป็นธุรกิจหลักที่มีการนำเข้ามาในประเทศไทยจำนวนมากและเกิดความเจริญทางด้านเศรษฐกิจอีกด้วย” ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าว
ด้าน ดร.สิงห์ ตั้งเจริญชัยชนะ นายกสมาคมศูนย์ประสานงานองค์การภาคเอกชน จังหวัดกาญจนบุรี อดีตประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดกาญจนบุรีที่เคยเป็นหุ้นส่วนในบริษัทที่เคยได้รับสัมปทานถนนสายทวายกาญจนบุรี จากรัฐบาลกลางพม่า เปิดเผยว่า โครงการเส้นทางท่าเรือน้ำลึกเมืองทวาย ประเทศพม่า เป็นโครงการที่มีมาตั้งแต่สมัยตนเป็นประธานสภาอุตสาหกรรม และได้ดำเนินการมาโดยตลอด โดยหาข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าในประเทศไทยและประเทศพม่า เป็นโครงการที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญ นายกรัฐมนตรีทั้งสองฝ่ายได้มีการเจรจาประสานงานกันมาตลอด ซึ่งจะทำให้รายได้เข้าสู่ประเทศไทยมหาศาล
โดยล่าสุด ตนได้ร่วมเดินทางลงพื้นที่พร้อมกับรองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี และ พล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์ ส.ส.กาญจนบุรี เพื่อรับทราบข้อมูลและดูสภาพการพัฒนาพื้นที่เพื่อนำข้อมูลเสนอต่อ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีเพื่อผลักดันโครงการนี้อย่างต่อเนื่องต่อไป
“ในเบื้องต้นจะเสนอต่อทางสภาอุตสาหกรรมจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อร่วมกับภาคราชการผลักดันศูนย์ส่งเสริมพัฒนาการค้าชายแดน เพื่อเป็นการนำร่องในการเปิดตลาดการค้าขายชายแดนไทย-พม่า ระหว่างชาวพุน้ำร้อนและชาวพม่าที่อาศัยตามแนวชายแดนเพื่อให้เป็นการนำร่องให้เกิดการค้าชายแดน ก่อนที่จะพัฒนาไปเป็นจุดผ่อนปรนทางการค้าหรือเป็นด่านการค้าถาวรในอนาคต สิ่งที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดีของประเทศไทย โครงการนี้ถือเป็นเมกกะโปรเจกต์ของรัฐบาลอย่างแท้จริง” อดีตประธานสภาอุตฯกาญจนบุรี กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัญหาอุปสรรคในการพัฒนาจังหวัดกาญจนบุรีด้านการลงทุนทางด้านเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นอย่างมากที่สุด คือ ปัญหาเกี่ยวกับสถานะที่ดินเพราะพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีมีการประกาศกฎหมายเกี่ยวกับที่ดินทับซ้อนที่ทำกินจำนวนเกือบ 3 ล้านไร่ ทำให้นักลงทุนไม่เชื่อมั่นต่อสถานะของที่ดิน
หลังจากที่รัฐบาลได้มีมติ ครม.สนับสนุนโครงการตัดถนนสายกาญจนบุรีไปยังท่าเรือน้ำลึกเมืองทวายประเทศพม่า วันนี้ (6 พ.ค.) เวลา 17.30 น.นายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยเกี่ยวกับความพร้อมในสนองนโยบายตัดถนนสายทวายกาญจนบุรีว่า จังหวัดกาญจนบุรี พร้อมที่จะเดินหน้านโยบายโครงการท่าเรือน้ำลึกทวายมายังจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งหากมีการสร้างท่าเรือน้ำลึกที่ชายฝั่งทะเลด้านทวายในเมียนมาร์ และหากมีการสร้างถนนมาเชื่อมต่อมายังชายแดนไทยด้านกาญจนบุรี ทางจังหวัดกาญจนบุรี มีความพร้อมที่จะรองรับโครงการดังกล่าวได้อย่างทันที เพราะจังหวัดกาญจนบุรีได้ทำการก่อสร้างถนนเชื่อม ระหว่างบ้านพุน้ำร้อน ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เสร็จเรียบร้อย โดยถนนไปสิ้นสุดห่างจากชายแดนไทย-พม่า แค่ 400 เมตร เนื่องจากยังไม่มีการปักปันเขตแดนที่ถูกต้อง
“เราพร้อมทุกประการที่จะเชื่อมต่อเส้นทางไปยังไปเมืองทวาย ซึ่งมีระยะทาง 130 กม.ซึ่งหากเป็นไปตามที่รัฐบาลที่จะให้การสนับสนุนโครงการนี้ ผมเชื่อว่า ถ้าเกิดเส้นทางนี้ก็จะทำให้เกิดความเจริญก้าวหน้าและมีการพัฒนาด้านเศรษฐกิจรวมถึงการเติบโตทางภาคอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการนำเข้าวัตถุดิบของทะเลที่น่าจะเป็นธุรกิจหลักที่มีการนำเข้ามาในประเทศไทยจำนวนมากและเกิดความเจริญทางด้านเศรษฐกิจอีกด้วย” ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าว
ด้าน ดร.สิงห์ ตั้งเจริญชัยชนะ นายกสมาคมศูนย์ประสานงานองค์การภาคเอกชน จังหวัดกาญจนบุรี อดีตประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดกาญจนบุรีที่เคยเป็นหุ้นส่วนในบริษัทที่เคยได้รับสัมปทานถนนสายทวายกาญจนบุรี จากรัฐบาลกลางพม่า เปิดเผยว่า โครงการเส้นทางท่าเรือน้ำลึกเมืองทวาย ประเทศพม่า เป็นโครงการที่มีมาตั้งแต่สมัยตนเป็นประธานสภาอุตสาหกรรม และได้ดำเนินการมาโดยตลอด โดยหาข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าในประเทศไทยและประเทศพม่า เป็นโครงการที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญ นายกรัฐมนตรีทั้งสองฝ่ายได้มีการเจรจาประสานงานกันมาตลอด ซึ่งจะทำให้รายได้เข้าสู่ประเทศไทยมหาศาล
โดยล่าสุด ตนได้ร่วมเดินทางลงพื้นที่พร้อมกับรองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี และ พล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์ ส.ส.กาญจนบุรี เพื่อรับทราบข้อมูลและดูสภาพการพัฒนาพื้นที่เพื่อนำข้อมูลเสนอต่อ นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีเพื่อผลักดันโครงการนี้อย่างต่อเนื่องต่อไป
“ในเบื้องต้นจะเสนอต่อทางสภาอุตสาหกรรมจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อร่วมกับภาคราชการผลักดันศูนย์ส่งเสริมพัฒนาการค้าชายแดน เพื่อเป็นการนำร่องในการเปิดตลาดการค้าขายชายแดนไทย-พม่า ระหว่างชาวพุน้ำร้อนและชาวพม่าที่อาศัยตามแนวชายแดนเพื่อให้เป็นการนำร่องให้เกิดการค้าชายแดน ก่อนที่จะพัฒนาไปเป็นจุดผ่อนปรนทางการค้าหรือเป็นด่านการค้าถาวรในอนาคต สิ่งที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นเรื่องที่ดีของประเทศไทย โครงการนี้ถือเป็นเมกกะโปรเจกต์ของรัฐบาลอย่างแท้จริง” อดีตประธานสภาอุตฯกาญจนบุรี กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัญหาอุปสรรคในการพัฒนาจังหวัดกาญจนบุรีด้านการลงทุนทางด้านเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นอย่างมากที่สุด คือ ปัญหาเกี่ยวกับสถานะที่ดินเพราะพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีมีการประกาศกฎหมายเกี่ยวกับที่ดินทับซ้อนที่ทำกินจำนวนเกือบ 3 ล้านไร่ ทำให้นักลงทุนไม่เชื่อมั่นต่อสถานะของที่ดิน