ตาก- “รัฐ-เอกชนตาก” ร่วมพลิกฟื้น “อัญมณีแม่สอด” สู่การค้าสากล ใช้นโยบายเชิงรุก เปิดฐานตลาดใหม่ หลังปีนี้ยอดขายหดตัวแล้วกว่า 20-30% “สภาอุตฯ-หอการค้า” จับมือรับหน้าที่การันตีคุณภาพ-ราคา สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ซื้อ หวังปีหน้าอัญมณีแม่สอดคืนชีพ
นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวถึงทิศทางการค้าอัญมณีจังหวัดตาก ในอนาคต หลังมีการจัดสัมมนา เพื่อเพิ่มศักยภาพสินค้าอัญมณีให้เข้มแข็งและมั่นคงมีฐานการตลาดในระดับนานาชาติ และการพัฒนาเมืองแม่สอดเป็นศูนย์กลางอัญมณีแห่งเอเชีย ว่า อ.แม่สอด เป็นแหล่งการค้าอัญมณีที่สำคัญมานานหลายสิบปี มีตลาดพลอยที่สำคัญ เริ่มจากการค้าระหว่างประชาชน 2 ฝั่งแม่น้ำเมย ก่อนก้าวเข้าสู่ศูนย์อัญมณีที่พ่อค้าจากหลายประเทศเข้ามาซื้อ-ขายแลกเปลี่ยน หยก พลอย ทับทิม-ยี่หร่า ฯลฯ กลายเป็นหนึ่งในการส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวควบคู่กันในอดีตที่ผ่านมา ดังนั้นตนจะสนับสนุนให้ผู้ประกอบการในการเพิ่มศักยภาพ-โอกาส และฐานการตลาด ของอัญมณีเพื่อพัฒนาอัญมณีแม่สอดไปสู่ระดับนานาชาติแบบการค้าสากลมากขึ้น
ขณะที่นายชัยยุทธ เสณีตันติกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตาก กล่าวว่าผู้ประกอบการและพ่อค้านักธุรกิจอัญมณี ต้องมีการเพิ่มศักยภาพสินค้าอัญมณีให้เข้มแข็งและมั่นคงมีฐานการตลาดในระดับนานาชาติ และการพัฒนาเมืองแม่สอดเป็นศูนย์กลางอัญมณีแห่งเอเชีย เชื่อว่าทิศทางและอนาคตจะสดใสขึ้นเพราะตลาดการค้าอัญมณีถือว่าเป็นสินค้าที่มีการส่งออกมูลค่าหลายแสนล้านบาท เป็นตลาดอันดับ 3 ของประเทศ แต่ปัจจุบันที่ตัวเลขการค้าตกลงเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ถดถอย และถือเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ทำให้กำลังซื้อลดลง แต่หากสถานการณ์ดีขึ้นสินค้าอัญมณีจะกลับมาฟื้นตัวอย่างแน่นอน
ในส่วนของจังหวัดตากตลาดอัญมณีแม่สอด ถือว่าเป็นตลาดสำคัญในประเทศ มีการนำเข้าวัตถุดิบจากพม่า และแอฟริกา เป็นส่วนใหญ่ และพ่อค้าในกลุ่มประเทศดังกล่าวก็จะนำเงินที่ได้จากการขายอัญมณีมาซื้อสินค้าไทยกลับไปขายในประเทศของตัวเอง ทำให้เกิดรายได้และเงินสะพัด
“ผมในฐานะประธานสภาอุตสาหกรรม จ.ตาก จะร่วมกับหอการค้าตากและกลุ่มผู้ประกอบการอัญมณีแม่สอด พลิกฟื้นตลาดการค้าอัญมณีไปสู่การค้าที่สากลยกมาตรฐานสินค้าและคุณภาพ โดยมีการออกใบรับรองสินค้าและการันตี สินค้าว่าเป็นของแท้ 100% และมีราคาเป็นธรรมตามสภาพความจริง” ประธานสภาอุตสาหกรรมจ.ตาก กล่าวและว่า
นายชัยยุทธ กล่าวต่อว่า เมื่อผู้ประกอบการและนักธุรกิจอัญมณีแม่สอดสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม มีการขยายธุรกิจอย่างมั่นคง รวมทั้งสามารถส่งออกสู้กับต่างประเทศได้แล้วจะทำให้ธุรกิจด้านนี้กลับมาฟื้นคืนโดยเร็วเ พราะที่ผ่านมาเกือบปีตัวเลขการค้าอัญมณีลดลง 20-30 %โดยครึ่งปีหลังของ ปี 2552 จะต้องสร้างมูลค่าให้กลับมาอยู่ในระดับเดิม และในปี 2553 จะต้องมีการเพิ่มตัวเลขเพิ่มขึ้นตั้งแต่ไตรมาสแรก จะต้องเพิ่มอย่างน้อย 10 % และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในไตรมาสที่ 2 และไตรมาสต่อๆไป
นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าวถึงทิศทางการค้าอัญมณีจังหวัดตาก ในอนาคต หลังมีการจัดสัมมนา เพื่อเพิ่มศักยภาพสินค้าอัญมณีให้เข้มแข็งและมั่นคงมีฐานการตลาดในระดับนานาชาติ และการพัฒนาเมืองแม่สอดเป็นศูนย์กลางอัญมณีแห่งเอเชีย ว่า อ.แม่สอด เป็นแหล่งการค้าอัญมณีที่สำคัญมานานหลายสิบปี มีตลาดพลอยที่สำคัญ เริ่มจากการค้าระหว่างประชาชน 2 ฝั่งแม่น้ำเมย ก่อนก้าวเข้าสู่ศูนย์อัญมณีที่พ่อค้าจากหลายประเทศเข้ามาซื้อ-ขายแลกเปลี่ยน หยก พลอย ทับทิม-ยี่หร่า ฯลฯ กลายเป็นหนึ่งในการส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวควบคู่กันในอดีตที่ผ่านมา ดังนั้นตนจะสนับสนุนให้ผู้ประกอบการในการเพิ่มศักยภาพ-โอกาส และฐานการตลาด ของอัญมณีเพื่อพัฒนาอัญมณีแม่สอดไปสู่ระดับนานาชาติแบบการค้าสากลมากขึ้น
ขณะที่นายชัยยุทธ เสณีตันติกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตาก กล่าวว่าผู้ประกอบการและพ่อค้านักธุรกิจอัญมณี ต้องมีการเพิ่มศักยภาพสินค้าอัญมณีให้เข้มแข็งและมั่นคงมีฐานการตลาดในระดับนานาชาติ และการพัฒนาเมืองแม่สอดเป็นศูนย์กลางอัญมณีแห่งเอเชีย เชื่อว่าทิศทางและอนาคตจะสดใสขึ้นเพราะตลาดการค้าอัญมณีถือว่าเป็นสินค้าที่มีการส่งออกมูลค่าหลายแสนล้านบาท เป็นตลาดอันดับ 3 ของประเทศ แต่ปัจจุบันที่ตัวเลขการค้าตกลงเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจโลกที่ถดถอย และถือเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ทำให้กำลังซื้อลดลง แต่หากสถานการณ์ดีขึ้นสินค้าอัญมณีจะกลับมาฟื้นตัวอย่างแน่นอน
ในส่วนของจังหวัดตากตลาดอัญมณีแม่สอด ถือว่าเป็นตลาดสำคัญในประเทศ มีการนำเข้าวัตถุดิบจากพม่า และแอฟริกา เป็นส่วนใหญ่ และพ่อค้าในกลุ่มประเทศดังกล่าวก็จะนำเงินที่ได้จากการขายอัญมณีมาซื้อสินค้าไทยกลับไปขายในประเทศของตัวเอง ทำให้เกิดรายได้และเงินสะพัด
“ผมในฐานะประธานสภาอุตสาหกรรม จ.ตาก จะร่วมกับหอการค้าตากและกลุ่มผู้ประกอบการอัญมณีแม่สอด พลิกฟื้นตลาดการค้าอัญมณีไปสู่การค้าที่สากลยกมาตรฐานสินค้าและคุณภาพ โดยมีการออกใบรับรองสินค้าและการันตี สินค้าว่าเป็นของแท้ 100% และมีราคาเป็นธรรมตามสภาพความจริง” ประธานสภาอุตสาหกรรมจ.ตาก กล่าวและว่า
นายชัยยุทธ กล่าวต่อว่า เมื่อผู้ประกอบการและนักธุรกิจอัญมณีแม่สอดสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม มีการขยายธุรกิจอย่างมั่นคง รวมทั้งสามารถส่งออกสู้กับต่างประเทศได้แล้วจะทำให้ธุรกิจด้านนี้กลับมาฟื้นคืนโดยเร็วเ พราะที่ผ่านมาเกือบปีตัวเลขการค้าอัญมณีลดลง 20-30 %โดยครึ่งปีหลังของ ปี 2552 จะต้องสร้างมูลค่าให้กลับมาอยู่ในระดับเดิม และในปี 2553 จะต้องมีการเพิ่มตัวเลขเพิ่มขึ้นตั้งแต่ไตรมาสแรก จะต้องเพิ่มอย่างน้อย 10 % และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆในไตรมาสที่ 2 และไตรมาสต่อๆไป
