ฉะเชิงเทรา - คนงานถางไร่ดวงถึงฆาต ถูกผึ้งหลวงรุมต่อยน่วมทั้งตัว ขณะออกไปทำงานถางไร่เก็บฟืน ก่อนถูกชาวบ้านช่วยกันหามส่งโรงพยาบาล แต่ไม่รอด หลังทนแพ้พิษของผึ้งนับร้อยไม่ไหวทำหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน
วันนี้ (27 เม.ย.) เวลา 12.00 น. พ.ต.ท.เทอดศักดิ์ วรรณพุฒ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ได้รับแจ้ง เกิดเหตุชาวบ้าน ซึ่งเป็นคนงานถางไร่ถูกผึ้งฝูงใหญ่รุมต่อยเสียชีวิต ที่บริเวณปากซอยเข้าฟาร์มไก่ร้าง (สหฟาร์ม) ไม่มีเลขที่ อยู่ห่างจากบังกะโล ลีรพลย์ ไปประมาณ 200 เมตร ริมถนนสายบางคล้า-แปลงยาว ม.6 ต.แปลงยาว จึงเดินทางไปสอบสวนยังที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุเป็นฟาร์มไก่รกร้าง พบรังผึ้งขนาดใหญ่ กว้างประมาณ 50-60 ซม.อยู่บริเวณกลางลำต้นกฐินณรงค์ สูงจากพื้นดินประมาณ 5 เมตร ส่วนคนเจ็บได้ถูกชาวบ้านช่วยเหลือนำส่งไปยัง รพ.แปลงยาว ก่อนหน้าแล้ว แต่ทนแพ้พิษของผึ้งที่รุมต่อยนับร้อยตัวไม่ไหว จึงเสียชีวิตระหว่างทาง ทราบชื่อต่อมา คือ นายอดุลยกิจ เรืองทอง อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26/7 ซ.2 ถ.สุทธาวาส ต.ตลาดหลวง อ.เมือง จ.อ่างทอง
จากการสอบสวน นายสมบูรณ์ กุลสุวรรณ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 ม.4 ต.หนองใหญ่ อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด เพื่อนคนงานที่ไปด้วยกันสองคนเล่าว่า ขณะเกิดเหตุตนพร้อมผู้ตายได้ไปถ่างป่าในไร่ ของนางม้อย ไม่ทราบนามสกุล ซึ่งเป็นเจ้าของบ่อปลา จากนั้นได้พากันไปเก็บฟืนยังบริเวณดังกล่าว และได้พบรังผึ้งอยู่บนต้นไม้ จึงถามกับผู้ตายว่าลุงเอาไหม ผู้ตายบอกว่าเอา
จากนั้นจึงได้ช่วยกันถางหญ้าเพื่อเข้าไปยังโคนต้นไม้ แต่ยังเข้าไปได้ไม่ถึงยังโคนต้น และยังอยู่ห่างอีกประมาณเกือบ 10 เมตร ได้มีฝูงผึ้งขนาดใหญ่บินเข้ามารุมไล่ต่อยตน และผู้ตาย ซึ่งตนเห็นก่อนจึงได้รีบวิ่งหนีออกมาพร้อมตะโกนร้องบอก แต่ตนก็ถูกรุมต่อยที่บริเวณศีรษะประมาณ 5 -6 แผล ส่วนผู้ตายถูกรุมต่อยทั้งตัวจนล้มลง ตนจึงได้รีบวิ่งไปบอกเจ้าของบ้านให้มาช่วยเหลือ และนำส่งไปยังโรงพยาบาล แต่ผู้ตายได้เสียชีวิตก่อนระหว่างทาง
พ.ต.ท.เทอดศักดิ์ กล่าวว่า จากการชันสูตรของแพทย์ เชื่อว่าผู้ตายเสียชีวิตจากอาการแพ้แบบเฉียบพลัน จนหนังลอกหลุดออกมาจากบาดแผลคล้ายแผลถูกไฟไหม้ เนื่องจากถูกผึ้งรุมต่อยเป็นจำนวนมากนับร้อยตัว โดยเฉพาะที่บริเวณศีรษะแพทย์สามารถดึงเอาเหล็กในของผึ้งออกมาได้ มากถึงกว่า 50 อัน ขณะนี้ยังไม่มีใครเข้ามาแสดงตนว่าเป็นญาติ และยังติดต่อกับทางญาติตามภูมิลำเนาไม่ได้ จึงจะได้มอบศพให้แก่มูลนิธิกู้ภัยพนมฯ นำไปเก็บรักษาต่อไป