เลย- ธ.ก.ส.เลย เดินเครื่องพักหนี้เกษตรกร เปิดทางลูกหนี้ 2,800 ราย ฟื้นฟูอาชีพ ขณะที่ยอดการกู้เงินเตรียมไปปลูกข้าวเพิ่มสูงขึ้นเกือบ 300 ล้านบาท หลังข้าวราคาดี
นายชัยณรงค์ กล้าวิจารณ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จังหวัดเลย กล่าวว่า ด้วยภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันได้ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะปัญหาปัจจัยการผลิตและน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีราคาสูงขึ้น ทำให้เกษตรกรต้องมีภาระค่าใช้จ่าย ภาระหนี้สินเพิ่มมากขึ้น ธ.ก.ส.ได้ตระหนักถึงปัญหาและความจำเป็นในการที่จะช่วยเหลือฟื้นฟูอาชีพของเกษตรกรรายย่อยและยากจน
ประกอบกับรัฐบาลได้มีนโยบายเร่งด่วน ที่จะพักหนี้ของเกษตรกรรายย่อยและยากจน เพื่อสร้างโอกาสให้เกษตรกรสามารถยกระดับคุณภาพชีวิต ด้วยการสร้างรายได้และอาชีพที่มั่นคง ธ.ก.ส.จึงได้จัดทำโครงการฟื้นฟู และพักหนี้เกษตรกรรายย่อยและยากจน โดย ธ.ก.ส.จะเริ่มโครงการในระยะเวลา 2 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2551 - 31 มีนาคม 2553
ปลายเดือนนี้ ธ.ก.ส.เลย จะเริ่มแจ้งไปยังเกษตรกรที่มีคุณสมบัติเข้าร่วมโครงการได้ตามหลักเกณฑ์ 2,878 ราย มูลหนี้ 152 ล้านบาท ซึ่งผู้ที่จะเข้าโครงการต้องเป็นเกษตรกรที่มีหนี้ต้นเงินกู้คงเหลือ ณ สิ้นวันที่ 31 มีนาคม 2551 รวมกันทุกสัญญาไม่เกิน 100,000 บาท และเป็นเกษตรกรที่ประสบปัญหาหนี้สินอันเนื่องมาจากเหตุสุจริตและจำเป็น
รวมทั้งไม่เป็นหนี้ที่เกิดจากการจงใจบิดพลิ้ว ที่สำคัญระหว่างเข้าโครงการจะไม่สามารถกู้ยืมเงินเพิ่มเติมได้
นายชัยณรงค์ กล่าวอีกว่า ในจำนวนลูกหนี้ 2,878 ราย จะได้รับสิทธิการฟื้นฟูและพัฒนาความรู้ในการประกอบอาชีพของเกษตรกร เพื่อให้การแก้ไขปัญหาหนี้สินเป็นไปอย่างยั่งยืน สร้างภูมิคุ้มกันไม่ให้กลับมามีหนี้สิน
ธ.ก.ส.จึงร่วมกับกระทรวงเกษตรฯ กระทรวงมหาดไทย องค์การบริหารส่วนตำบล ชุมชนและปราชญ์ชาวบ้านจัดทำแผนฟื้นฟูร่วมกับเกษตรกร โดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง และจากการที่ข้าวมีราคาสูงขึ้น ทำให้ปีนี้มีเกษตรกรชาวนาได้เข้ามาขอสินเชื่อ กับ ธ.ก.ส.เลย เพื่อนำเงินไปปลูกข้าวเพิ่มในพื้นที่การผลิต 3.69 แสนไร่ รวมจำนวน 7,929 ราย โดยมียอดสินเชื่อ 295 ล้านบาท
