ฉะเชิงเทรา - ชาวนาแปดริ้วยิ้มออกเริ่มมีความหวังต้นข้าวฟื้น หลังน้ำจืดจากเขื่อนทางตอนเหนือของประเทศระบายมาถึง ช่วยบรรเทาภาวะน้ำเค็มหนุนแทรกเข้าคลองชลประทาน ไหลเข้าถึงพื้นที่แล้ว พร้อมต่างพากันเร่งระดมสูบน้ำเข้าแปลงนาไม่หยุดนานข้ามคืน
วันนี้ (23 เม.ย.) เวลา 07.00 น.นายโรม นพพระ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68/6 ม.8 ต.คลองหลวงแพ่ง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เกษตรกรทำนาปรัง กล่าวว่า ขณะนี้น้ำจืดที่ได้รับการปล่อยระบายลงมาจากเขื่อนทางภาคเหนือของประเทศ (เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์) ได้ไหลเข้ามาถึงยังพื้นที่คลองชลประทานพระองค์ไชยานุชิตแล้ว หลังจากเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมานาข้าวได้รับความเสียหายไปเป็นจำนวนมากเพราะขาดน้ำจืด เนื่องจากเกิดภาวะน้ำเค็มหนุน แทรกเข้าสู่ในคลองชลประทาน จนไม่สามารถสูบนำน้ำในคลองชลประทานมาใช้ทำนาได้
ตลอดระยะเวลาเกือบหนึ่งเดือนที่ผ่านมา นาข้าวในเขตพื้นที่ อ.เมืองฉะเชิงเทรา และใกล้เคียง ได้รับความเสียหายไปเป็นจำนวนมากนับแสนไร่ เนื่องจากต้นข้าวขาดน้ำในขณะตั้งท้องที่จะออกรวง จึงทำให้รวงข้าวมีเมล็ดลีบเสียหาย แต่เมื่อได้น้ำมาหล่อเลี้ยงต้นข้าวอีกครั้ง จึงทำให้พอมีความหวังที่จะได้ผลผลิตกลับคืนมาบ้าง ถึงจะไม่ได้ผลผลิตอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยก็ตาม แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย
หลังได้รับน้ำจืดลงมาหล่อเลี้ยงนาข้าวในครั้งนี้ ถือว่าได้ช่วยให้ชาวนาไม่ต้องเป็นหนี้สินที่กู้ยืมมาลงทุนเพิ่มมากขึ้น ในส่วนของชาวนาบางรายที่เพิ่งหว่านข้าวปลูกไปก่อนที่จะขาดน้ำนั้นคาดว่าน่าจะได้รับความเสียหาย ต้นข้าวแห้งตายไประหว่างช่วงที่ขาดน้ำทั้งหมด
นางมาเลียม ลิดมัด อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95 ม.12 ต.คลองหลวงแพ่ง กล่าวว่า ถึงขณะนี้สามารถสูบน้ำขึ้นมาใช้หล่อเลี้ยงนาข้าวได้แล้ว แม้จะยังไม่จืดสนิทก็ตาม แต่ก็ถือว่าเจือจางลงไปมากแล้ว ซึ่งคาดว่าต้นข้าวบางส่วนจะฟื้นคืนกลับมาใหม่ได้ แต่ก็มีบางส่วนที่ได้รับความเสียหายไป เนื่องจากขาดน้ำมาเป็นเวลานานแต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้ผลผลิตเลย ก่อนหน้านี้มีความทุกข์ใจมาก เพราะจะไม่เหลืออะไรอีกเลย ลูกๆ ที่กำลังเรียนหนังสือก็จะไม่มีเงินส่งเสียให้ หนี้สินก็จะไม่มีเงินใช้เขา แต่เมื่อน้ำจืดเข้ามาถึงก็ยังพอมีความหวังอยู่บ้าง