xs
xsm
sm
md
lg

พาณิชย์หนุนSMEsไทยบุกตลาดจีน/เอกชนจี้รัฐออกแรงเพิ่มรับถนนจีน-ไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เชียงราย – “Mr. China-พิษณุ เหรียญมหาศาล” เดินหน้าดึง SMEs ไทยบุกตลาดจีน เตรียมนำทีมผู้ผลิตขนาดกลาง-ย่อยทำตลาดเร็ววันนี้ อาสารับหน้าที่เป็นแม่ทัพทุนไทย ดึงรัฐบาลจีนสกรีนวิสาหกิจจีนให้เบื้องต้นก่อนเจรจาร่วมทุน พร้อมหาแบงก์หนุนด้านเงินทุนเต็มที่ ด้านนักลงทุนไทยในจีนจี้รัฐเร่งช่วยเสริมความเข้มแข็งให้ภาคเอกชนรับโครงข่ายคมนาคม ไทย พม่า ลาว จีน ก่อนถูกทุนต่างประเทศตีกิน หลังปี 53 ข้อตกลงจีนอาเซียนบังคับใช้เต็มที่

เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายพิษณุ เหรียญมหาศาล รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ หัวหน้าศูนย์ภูมิภาคจีน ได้เดินทางมาเปิดสัมมนา การเสริมสร้างศักยภาพ SMEs ภูมิภาคสู่ตลาดจีน และ เสนาใน หัวข้อ “โอกาสและกลยุทธ์การทำธุรกิจในตลาดจีน” ณ โรงแรมดุสิตไอแลนด์รีสอร์ท จ.เชียงราย โดยมีนักธุรกิจเอกชนชั้นนำในประเทศ รวมทั้งหอการค้าจังหวัดเชียงราย ราว 250 คน เข้าร่วม

นายพิษณุ เหรียญมหาศาล รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ หัวหน้าศูนย์ภูมิภาคจีน กล่าวว่า การทำธุรกิจกับเอกชนหรือวิสาหกิจจีนยุคใหม่ ปัจจุบันเป็นสากลมากขึ้น ทำให้ปัญหาเดิมๆ ที่เคยทำให้นักธุรกิจไทยขาดทุนเริ่มหมดไป ซึ่งกระทรวงพาณิชย์พยายามที่จะนำสินค้า SMEs เช่นสินค้าหัตถกรรม ของที่ระลึก งานฝีมือ ของใช้ ฯลฯ เข้าไปเจาะตลาดจีนอย่างเต็มที่ ขณะที่ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งเข้ามาสนับสนุนเงินทุนให้แก่เอกชนมากขึ้น เร็ว ๆ นี้กระทรวงฯ จะชักชวนนักธุรกิจในประเทศไทยและเชียงราย ไปเยือนจีนเพื่อหาลู่ทางการค้า สินค้า SMEs ด้วย

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ ก็พร้อมที่จะเป็นผู้นำเอกชนไทยให้ไปทำธุรกิจกับประเทศจีน ซึ่งจะช่วยให้การเจรจาตกลงกันได้ง่ายมากกว่าการเจาะตลาดเอง เพราะสามารถดึงรัฐบาลจีน เข้ามาช่วยให้คำแนะนำกลุ่มธุรกิจที่น่าร่วมทุน ร่วมมือ หรือสกรีนกลุ่มธุรกิจที่ได้มาตรฐานให้ก่อนเป็นเบื้องต้น ทำให้ปัญหาระหว่างกันลดลง

นายพิษณุ บอกว่า ธุรกิจด้านการคมนาคมขนส่ง ลอจิสติกส์ และการท่องเที่ยว จะทำให้จังหวัดเชียงราย มีรายได้เข้ามามากขึ้น เพราะรัศมี 300 กิโลเมตร(กม.)จากแนวถนน R3a มีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย หากมีการพัฒนาท่าอากาศยานเชียงราย รับนักท่องเที่ยวนานาประเทศ ทั้งจากประเทศจีน ยุโรป และอเมริกา มาท่องเที่ยวในบริเวณนี้ก็จะทำได้ง่าย ทั้งยังมีจุดเด่นเรื่องการท่องเที่ยวตามวัดวาอารามต่างๆซึ่งยังเป็นที่ประทับใจของนักท่องเที่ยวต่างประเทศน่าจะได้รับความนิยม และเมื่อนักท่องเที่ยวมาเยือนเชียงราย ก็ยังสามารถไปท่องเที่ยวต่อประเทศเพื่อนบ้านในบริเวณนี้ด้วย ทั้งสหภาพพม่า-สปป.ลาว-จีน

เขาบอกว่า ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า การพัฒนาในหลายส่วนอาจจะยังช้า ที่เด่นชัดอาจจะมีเพียงมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ที่เป็นมหาวิทยาลัยที่โดดเด่น ด้านการศึกษานานาชาติ ส่วนนิคมอุตสาหกรรมนั้นในอดีตเคยมีการเสนอที่ดินบริเวณ ต.ศรีดอนมูล อ.เชียงแสน จ.เชียงราย แต่ถูกต่อต้านจากคนในพื้นที่ เพราะเป็นพื้นที่การเกษตร - พื้นที่ชุ่มน้ำโลก ต่อมาทางนักลงทุนจีนจึงหันไปลงทุนใน สปป.ลาว เสียส่วนมาก ทำให้จังหวัดเชียงราย ขาดโอกาสไปส่วนหนึ่ง แต่ก็ยังไม่สายที่จะหาช่องทางและโอกาสใหม่ๆ ล่าสุดทราบว่ามีนักลงทุนชาวจีนสนใจที่จะทำธุรกิจยางรถยนต์ในจังหวัดเชียงราย เพื่อรับกับแนวถนน R3a ด้วย

ขณะที่นางอำภา เจียรกิตติกุล ที่ปรึกษาคณะทำงานภูมิภาคจีน สมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับ ที่เข้าไปทำธุรกิจศูนย์กระจายสินค้าไทยในนครคุนหมิง จีน มานานนับ 10 ปี กล่าวว่า ภาคเอกชนไทยควรไปแสวงหาสินค้าจีนที่มีคุณภาพในหลายมณฑล เพื่อที่จะหาช่องทางค้าขาย แลกเปลี่ยนสินค้ากัน เช่น ผลไม้จีน ยังมีอีกหลายชนิดที่มีคุณภาพ

สำหรับแนวทางที่จะผลักดันให้เชียงราย เป็นศูนย์กระจายสินค้า รับกับถนน R3a ที่แทบเสร็จสมบูรณ์แล้ว รอเพียงมีสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ที่ อ.เชียงของ จ.เชียงราย-แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว

ทั้งนี้ หากทุกอย่างลงตัว เชื่อว่าจะมีสินค้าจีนประเภท เครื่องใช้ไฟฟ้า สิ่งทอ ผลไม้ ฯลฯ ถูกส่งเข้ามาทำตลาดผ่านเชียงรายมากขึ้น โดยข้อเท็จจริงจะต้องร่วมทุนกับนักลงทุนจีน แต่ก็ต้องหาแหล่งจำหน่ายขายสินค้าด้วยเพราะหากเป็นศูนย์กระจายสินค้าแต่ไม่มีตลาดก็ไม่สำเร็จ

จากประสบการณ์การทำศูนย์กระจายสินค้าไทยในนครคุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน มานานนับสิบปี พบว่า สินค้าไทยหลายชนิด เช่น ผลไม้ไทย ข้าว อัญมณี ยังขายได้ อนาคตหากคนไทย โดยเฉพาะทางภาคเหนือ ซึ่งผู้คนมีลักษณะนิสัยอ่อนโยน ชำนาญด้านการบริการ น่าจะได้เปรียบในด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว การทำโรงแรมร้านอาหาร สปา โรงพยาบาล รวมไปถึงงานฝีมือด้านหัตถกรรม ซึ่งคนภาคเหนือเก่ง ที่ผ่านมา มีนักธุรกิจไทยไปสร้างตลาดสินค้าหัตกรรมที่นครคุนหมิงจำหน่ายดีมาก ดังนั้น คนภาคเหนือน่าจะพัฒนาสินค้าของตนเองที่เป็นเอกลักษณ์ไปจำหน่ายที่ประเทศจีนด้วย

“มาถึงวันนี้เชื่อว่านักลงทุนชาวจีน ที่มีศักยภาพนับร้อยล้านคน น่าจะสนใจมาลงทุนและท่องเที่ยวผ่านเส้นทางคมนาคมด้าน จ.เชียงราย มาก เพราะในปี 2552 ภาษีระหว่างไทย-จีน จะลงเหลือ 5% และในปีต่อไปคือ ปี 2553 ภาษีจะเหลือ 0% ทำให้เอื้อต่อการลงทุนต่อกันมากขึ้น”

อย่างไรก็ตาม อยากให้รัฐบาลไทยส่งเสริมเอกชนด้านเงินทุน พร้อมการโปรโมตให้ภาคเหนือเป็นเมืองท่องเที่ยว - ที่พัก เพราะหากภาษีไทย-จีน ลดเหลือ 0% เชื่อว่าจะมีนักลงทุนจีนเข้ามาใช้ไทยเป็นฐานการส่งสินค้าไปสู่อาเซียนแน่นอน และพัฒนาสินค้าของไทยให้เป็นมาตรฐานสู่สากล มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ระบบคมนาคมเชื่อมไทย พม่า ลาว จีน เสร็จสมบูรณ์มากขึ้นแล้ว หากรัฐบาลยังช้าอยู่ อนาคตภาคเอกชนจีนก็จะเข้ามาทำประโยชน์แล้วนำรายได้กลับประเทศจีน คนไทยจะไม่ได้ประโยชน์อย่างที่คิด หมดโอกาสที่จะมีส่วนแบ่งการตลาด ซึ่งปีนี้ ประเทศจีนเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิก จึงมีนักกีฬาและนักท่องเที่ยวเข้าไปประเทศจีนมาก และสินค้าไทยในจีนก็มีโอกาสขายได้มากขึ้นด้วย

นายอนุรัตน์ อินทร รองประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เขากับเพื่อนนักธุรกิจเชียงราย ได้ไปลงทุนเปิดร้านอาหารชื่อ “เฮือนลาว” ที่แขวงหลวงน้ำทา สปป.ลาว ใกล้ถนน R3a ซึ่งเป็นการเช่าที่ดินต่อจากเอกชนลาวที่เปิดร้านอาหารอยู่แล้ว พัฒนาเป็นร้านอาหารไทย จำหน่ายให้แก่นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศที่ผ่านเส้นทาง R3a และท่องเที่ยวที่แขวงหลวงพระบาง ซึ่งต้องเสียภาษีให้แก่ทางการลาว ราว 10%จากรายได้ และพบว่าร้านอาหารไทยยังมีน้อย

นอกจากนี้มีนักธุรกิจไทยหลายคนชักชวนกันไปลงทุนเปิดร้านอาหารไทยในประเทศจีนด้วย ซึ่งก็น่าสนใจดี ซึ่งเขามองว่า บริเวณแนว ถนน R3a ยังไม่ค่อยมีร้านอาหาร จึงน่าจะเป็นโอกาสของชาวไทย เพราะฝีมือการทำอาหารไทยของเราได้รับความนิยมจากนานาชาติ ส่วนนักธุรกิจจีนซึ่งมีเงินทุนมาก จะลงทุนทำโรงแรมและกาสิโนเสียเป็นส่วนใหญ่ และมีอนาคต ธุรกิจประเภท สปา ก็น่าจะเป็นธุรกิจที่น่าสนใจอีกประเภทหนึ่งต่อไป



กำลังโหลดความคิดเห็น