สกลนคร - ผบก.สกลนครนำทีมตรวจสอบป่าสงวนแห่งชาติ และอุทยานแห่งชาติภูพาน พบว่าต้นไม้ในพื้นที่ป่า ถูกทั้งนายทุน-ชาวบ้านบุกรุก แผ้วถางกว่า 3 พันไร่ ด้านผู้ว่าฯเพิ่งรู้ สั่ง 4 นายอำเภอพื้นที่รอยต่อดำเนินการร่วมตำรวจในพื้นที่นำกำลังเข้าตรวจสอบในพื้นที่เกิดปัญหาอย่างเร่งด่วน หากพบการกระทำผิดจับกุมได้ทันที่
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้(22 มี.ค.) พลตำรวจตรี อุดม จำปาจันทร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรสกลนคร พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ภูธรจังหวัดสกลนคร ตำรวจพื้นที่ ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 23 ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของกองบินตำรวจขอนแก่น บินเข้าตรวจสอบป่าสงวนแห่งชาติ และอุทยานแห่งชาติภูพาน เขตรอยต่ออำเภอเมือง อำเภอภูพาน อำเภอโคกศรีสุพรรณ และอำเภอเต่างอย ซึ่งอยู่บนเทือกเขาภูพาน ซึ่งจากการบินสำรวจพบว่าต้นไม้ในพื้นที่ป่า ถูกราษฎรเข้าไปบุกรุก แผ้วถาง เผาทำลาย จำนวนมาก กำลังตรวจสอบพื้นที่
นอกจากนี้ยังพบว่ามีร่องรอยการแปรรูปไม้หวงห้ามหลายชนิด ทั้งไม้พยูง ไม้แดง ไม้ยาง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษอีกส่วนหนึ่งนำกำลังภาคพื้นเข้าปิดล้อมตรวจค้นบริเวณ บ้านแคมพุง และบ้านท่าเยี่ยม ต.โนนหอม อ.เมือง จ.สกลนคร เพื่อตรวจสอบไม้แปรรูปที่นอนเรียงหมอนไว้
โดยบางส่วนมีคนงานกำลังดำเนินการลักลอบตัดไม้เพื่อแผ้วถ่างเป็นพื้นที่ปลูกมันสำปะหลัง และยางพารา และทำการตรวจยึดเลื่อยโซ่ยนต์ จำนวน 2 เครื่อง ไม้แปรรูปและไม้ท่อนอีกจำนวนหนึ่ง ส่วนมอดไม้หลบหนีไปได้เพื่อทำการตรวจสอบและขยายผลติดตามจับกุม นายทุนหรือชาวบ้านที่บุกรุกป่าเขตอุทยานแห่งชาติภูพาน และเขตป่าสงวนต่อพนักงานสอบสวนในพื้นที่ต่อไป
พล.ต.ต.อุดม จำปาจันทร์ กล่าวว่า จากการบินตรวจสอบในพื้นที่ เขตรอยต่อ 4 อำเภอในจังหวัดสกลนคร พบว่า ในทุกพื้นที่ถูกชาวบ้านละกลุ่มนายทุนบุกรุกพื้นที่เขตป่าอุทยานแห่งชาติภูพาน น่าจะมีเบื้องหลังของกลุ่มขบวนการมอดไม้เหล่านี้ เป็นนายทุนที่มีอิทธิพล ว่าจ้างชาวบ้านเข้าดำเนินการ ลักลอบตัดไม้ อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย
โดยจุดที่เข้าพบการบุกรุก เมื่อตรวจสอบ แล้วในบริเวณที่ตัดไม้ มีอุปกรณ์ในการดำรงชีพ ในป่าอย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะมีเครื่องอำนวยความสะดวก แผงพลังงานแสงอาทิตย์ เลื่อยยนต์ บ้านพักพิง ซึ่งผิดลักษณะของชาวบ้านทั่วไป ที่เข้าไปทำมาหากินในเขตอุทยานแห่งชาติภูพาน จึงวอนทุกฝ่ายร่วมมือดูแลรักษาผืนป่าร่วมกันอย่างจริงจัง
จากนั้น พล.ต.ต.อุดม จำปาจันทร์ ได้เข้ารายงานสถานการณ์ ต่อ นายไพรัตน์ สกลพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร เพื่อรับทราบปัญหาการบุกรุกแผ้วถางป่าในเขตอุทยานแห่งชาติภูพานที่กินเนื้อที่ไปแล้วกว่า 3 พันไร่ เพื่อหาทางป้องกันและแก้ไขปัญหาร่วมกัน ซึ่งนายไพรัตน์ ได้สังการให้นายอำเภอทั้ง 4 อำเภอดำเนินการร่วมตำรวจในพื้นที่นำกำลังเข้าตรวจสอบในพื้นที่เกิดปัญหาอย่างเร่งด่วน
หากพบการกระทำผิดจับกุมได้ทันที่ พร้อมดำเนินการหาต้นตอของนายทุนผู้บุกรุกป่ามาดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด พร้อมเตรียมกำลังสนับสนุนจาก กองร้อย อส. ของจังหวัดเข้าร่วมในภารกิจการกวาดล้างการบุกรุกผืนป่า และให้นายอำเภอเตรียมเข้ามารายงานชี้แจงความคืบหน้าถึงการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ในวันจันทร์นี้
เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้(22 มี.ค.) พลตำรวจตรี อุดม จำปาจันทร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรสกลนคร พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ภูธรจังหวัดสกลนคร ตำรวจพื้นที่ ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 23 ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของกองบินตำรวจขอนแก่น บินเข้าตรวจสอบป่าสงวนแห่งชาติ และอุทยานแห่งชาติภูพาน เขตรอยต่ออำเภอเมือง อำเภอภูพาน อำเภอโคกศรีสุพรรณ และอำเภอเต่างอย ซึ่งอยู่บนเทือกเขาภูพาน ซึ่งจากการบินสำรวจพบว่าต้นไม้ในพื้นที่ป่า ถูกราษฎรเข้าไปบุกรุก แผ้วถาง เผาทำลาย จำนวนมาก กำลังตรวจสอบพื้นที่
นอกจากนี้ยังพบว่ามีร่องรอยการแปรรูปไม้หวงห้ามหลายชนิด ทั้งไม้พยูง ไม้แดง ไม้ยาง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษอีกส่วนหนึ่งนำกำลังภาคพื้นเข้าปิดล้อมตรวจค้นบริเวณ บ้านแคมพุง และบ้านท่าเยี่ยม ต.โนนหอม อ.เมือง จ.สกลนคร เพื่อตรวจสอบไม้แปรรูปที่นอนเรียงหมอนไว้
โดยบางส่วนมีคนงานกำลังดำเนินการลักลอบตัดไม้เพื่อแผ้วถ่างเป็นพื้นที่ปลูกมันสำปะหลัง และยางพารา และทำการตรวจยึดเลื่อยโซ่ยนต์ จำนวน 2 เครื่อง ไม้แปรรูปและไม้ท่อนอีกจำนวนหนึ่ง ส่วนมอดไม้หลบหนีไปได้เพื่อทำการตรวจสอบและขยายผลติดตามจับกุม นายทุนหรือชาวบ้านที่บุกรุกป่าเขตอุทยานแห่งชาติภูพาน และเขตป่าสงวนต่อพนักงานสอบสวนในพื้นที่ต่อไป
พล.ต.ต.อุดม จำปาจันทร์ กล่าวว่า จากการบินตรวจสอบในพื้นที่ เขตรอยต่อ 4 อำเภอในจังหวัดสกลนคร พบว่า ในทุกพื้นที่ถูกชาวบ้านละกลุ่มนายทุนบุกรุกพื้นที่เขตป่าอุทยานแห่งชาติภูพาน น่าจะมีเบื้องหลังของกลุ่มขบวนการมอดไม้เหล่านี้ เป็นนายทุนที่มีอิทธิพล ว่าจ้างชาวบ้านเข้าดำเนินการ ลักลอบตัดไม้ อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย
โดยจุดที่เข้าพบการบุกรุก เมื่อตรวจสอบ แล้วในบริเวณที่ตัดไม้ มีอุปกรณ์ในการดำรงชีพ ในป่าอย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะมีเครื่องอำนวยความสะดวก แผงพลังงานแสงอาทิตย์ เลื่อยยนต์ บ้านพักพิง ซึ่งผิดลักษณะของชาวบ้านทั่วไป ที่เข้าไปทำมาหากินในเขตอุทยานแห่งชาติภูพาน จึงวอนทุกฝ่ายร่วมมือดูแลรักษาผืนป่าร่วมกันอย่างจริงจัง
จากนั้น พล.ต.ต.อุดม จำปาจันทร์ ได้เข้ารายงานสถานการณ์ ต่อ นายไพรัตน์ สกลพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร เพื่อรับทราบปัญหาการบุกรุกแผ้วถางป่าในเขตอุทยานแห่งชาติภูพานที่กินเนื้อที่ไปแล้วกว่า 3 พันไร่ เพื่อหาทางป้องกันและแก้ไขปัญหาร่วมกัน ซึ่งนายไพรัตน์ ได้สังการให้นายอำเภอทั้ง 4 อำเภอดำเนินการร่วมตำรวจในพื้นที่นำกำลังเข้าตรวจสอบในพื้นที่เกิดปัญหาอย่างเร่งด่วน
หากพบการกระทำผิดจับกุมได้ทันที่ พร้อมดำเนินการหาต้นตอของนายทุนผู้บุกรุกป่ามาดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด พร้อมเตรียมกำลังสนับสนุนจาก กองร้อย อส. ของจังหวัดเข้าร่วมในภารกิจการกวาดล้างการบุกรุกผืนป่า และให้นายอำเภอเตรียมเข้ามารายงานชี้แจงความคืบหน้าถึงการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ในวันจันทร์นี้
