xs
xsm
sm
md
lg

ฟาร์มหมูแปดริ้วสวด “มิ่ง” แก้ปัญหาปลายเหตุ-เสียหายระยะยาว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - ฟาร์มเลี้ยงหมูชื่อดังเมืองแปดริ้ว แนะ “มิ่งขวัญ” แก้ปัญหมูให้ตรงจุด ชี้ต้นตออยู่ที่อาหารสุกรแพง ส่งผลทำราคาหมูขยับสูงต่อเนื่อง หากทำให้ราคาวัตถุดิบลดลงได้ทุกอย่างจบ สวดอย่าแก้ปลายเหตุจนส่งผลเสียระยะยาว หากเกษตรกรทนเลี้ยงอยู่ต่อไปไม่ได้

นายสุขุม ปัญญลิขิต เจ้าของฟาร์มเลี้ยงหมู “สุขุมฟาร์ม” ซึ่งเคยเป็นสถานที่ศึกษาดูงานของหน่วยงานราชการมากมายทุกระดับ รวมทั้งอดีตนายกฯ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และ รมว.เกษตรฯ หลายราย กล่าวถึงปัญหาราคาเนื้อสุกรแพงที่เป็นอยู่ในขณะนี้ว่า ปัญหานี้มีปัจจัยหลักที่สำคัญเพียงปัจจัยเดียว คือ ราคาต้นทุนในการเลี้ยงแพง โดยเฉพาะราคาวัตถุดิบที่นำมาใช้ประกอบในการผสมอาหารสุกรที่มีราคาสูงขึ้นกว่าเท่าตัว จึงส่งผลทำให้เกษตรกรที่มีสายป่านสั้นอยู่ไม่ได้ ทำให้ต้องหยุดเลี้ยง ส่งผลทำให้เนื้อหมูขาดตลาด

ก่อนหน้าราคาหมูอยู่ในภาวะตกต่ำอย่างต่อเนื่องมานาน 2-3 ปี เกษตรกรผู้เลี้ยงหมูต้องขาดทุนอย่างต่อเนื่องตัวละ 1,500-2,000 บาท โดยราคาเพิ่งมาดีขึ้นได้เพียง 2-3 เดือนที่ผ่านมาที่เริ่มมีกำไรตัวละประมาณ 1,000 บาท และต้องใช้ระยะเวลาในการเลี้ยงนานถึง 6 เดือน

หากภาครัฐจะให้ลดราคาขายโดยที่ไม่ลดราคาหน้าฟาร์มลงจากปัจจุบันอยู่ที่ กก.ละ 58 บาท เกษตรกรก็พออยู่ได้ โดยไปลดราคาจำหน่ายที่หน้าเขียงแทน แต่ถ้าหากเขียงกดราคาเกษตรกรลงมาก็จะขาดทุนทันที เนื่องจากต้นทุนราคาค่าอาหารขณะนี้อยู่ที่ กก.ละ 20 บาท จากแต่ก่อนอยู่ที่ กก.ละ 10 บาทเศษ โดยเนื้อหมูมีอัตราแร่เนื้อ 2 ต่อ 1 กก.ส่วนราคาลูกหมูขนาด 16 กก.ราคาอยู่ที่ตัวละ 1,800 บาท

จากปัญหาราคาวัตถุดิบผสมอาหารมีราคาสูงขึ้น จึงทำให้เกษตรกรต้องหยุดเลี้ยงไปเป็นจำนวนมาก จึงทำให้เนื้อหมูภายในประเทศมีจำนวนลดลงไปด้วย

ที่ฟาร์มของตนก็เช่นเดียวกัน จากแต่ก่อนเคยเลี้ยงอยู่ที่จำนวนกว่า 3-4 พันตัว ขณะนี้ลดลงมาอยู่ที่ 1-2 พันตัว เพราะทนสู้ต้นทุนที่แพงขึ้นไม่ไหว ทั้งที่สามารถผลิตลูกหมูได้เอง และฟาร์มยังได้รับการรับรอง การประกันคุณภาพปลอดสารพิษจากกรมปศุสัตว์อีกด้วย

ขณะที่ นายธีระ วนิชย์ถนอม อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80 ม.4 ต.เสม็ดใต้ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา เจ้าของฟาร์มเลี้ยงหมูที่เลิกกิจการ หยุดเลี้ยงมานานกว่า 2 ปี ระบุว่า ฟาร์มเลี้ยงหมูของตนนั้นได้หยุดเลี้ยงมานานแล้ว เนื่องจากประสบปัญหาการขาดทุนอย่างต่อเนื่องจากราคาต้นทุนวัตถุดิบที่ขยับแพงขึ้นทุกขณะ และราคาขายหน้าฟาร์มในช่วงที่ผ่านมาเพียง กก.ละ 28-32 บาท ทำให้ที่ผ่านมาทนเลี้ยงอยู่ต่อไปไม่ได้

หากจะกลับมาเลี้ยงใหม่ในตอนนี้ ก็ยังไม่คุ้มค่ากับการลงทุน เนื่องจากลูกหมูมีราคาแพง วัตถุดิบต้นทุนการผลิตอาหารมีราคาขยับขึ้นมากกว่าเก่า อยู่ในขั้นที่แพงมากกว่าเดิมเป็นเท่าตัว เช่น รำข้าวจากแต่ก่อน กก.ละ 6 บาท ได้ขยับขึ้นราคามาอยู่ที่ กก.ละ 10 บาท ข้าวโพด กก. ละ 4-5 บาท ขณะนี้ราคาสูงขึ้นถึง กก.ละ 9 บาท ทำให้เกษตรกรไม่สามารถกลับมาเริ่มต้นลงทุนใหม่ได้อีก


กำลังโหลดความคิดเห็น