กาฬสินธุ์- สภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ดันเปิดหลักสูตร ปวช.-ปวส.รับเด็กจบชั้น ม.3 เข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล นำร่องวิทยาเขตกาฬสินธุ์
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (13 มี.ค.) ศ.ดร.สุจินต์ จินายน นายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล พร้อมด้วยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และคณะกรรมการสภามาหาวิทยาลัย เดินทางเข้าศึกษาดูงานภายในศูนย์วิจัยและฝึกอบรมภูสิงห์ ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตกาฬสินธุ์ ตั้งอยู่ที่บ้านป่ากล้วย ต.นิคมลำปาว อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์
ศ.ดร.สุจินต์ จินายน นายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล กล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมการสภาได้เดินทางเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานครบทั้ง 9 แห่งแล้ว ซึ่งทุกคนมีความประทับใจมาก เนื่องจากมหาวิทยาลัยทุกแห่งมีส่วนช่วยเหลือประเทศชาติในการผลิตนักศึกษาที่มีคุณภาพ มีทักษะในการปฏิบัติภายใต้ปรัชญาเดิม คือ พัฒนาท้องถิ่น ออกทำหน้าที่ให้กับสังคมจำนวนมาก
ทั้งนี้ คณะกรรมการสภาได้มอบหมายให้มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งไปจัดทำยุทธศาสตร์ที่ใช้ประกอบการเรียนการสอนขึ้นมาใหม่ โดยจะต้องมีความเหมาะกับท้องถิ่นของและสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ของจังหวัดนั้นๆ ด้วย เพื่อให้การเรียนการสอนของมหาวิทยาลัยมีการพัฒนาท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง
ศ.ดร.สุจินต์ กล่าวอีกว่า คณะกรรมการสภาฯมีมติว่าควรที่จะให้โอกาสกับเด็กที่เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีพรสวรรค์ ความรู้ ความสามารถในด้านการช่าง ด้านศิลปะ หรือแม้กระทั่งด้านการเกษตรได้เข้ามาศึกษาต่อในระดับ ปวช.-ปวส.ในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลต่างๆ โดยขณะนี้กำลังมีการประสานความต้องการแรงงานไปยังภาคอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อให้เกิดความเหมาะสมอยู่
ในวันที่ 14 มีนาคม นี้ ตนจะนำเรื่องดังกล่าวเสนอกับนายกสภามหาวิทยาลัย และคณะกรรมการทั่วประเทศ ซึ่งหากคณะกรรมการฯทุกคนเห็นควร ก็เริ่มดำเนินเนินการทันที โดยคาดว่าภายในปี 2552 นี้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลทุกแห่ง จะสามารถเปิดหลักสูตรการเรียนการสอนในระดับ ปวช.-ปวส.รองรับเด็กที่จบ ม.3 ในพื้นที่ได้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม หากมีการเปิดการเรียนการสอนดังกล่าว พื้นที่ จ.กาฬสินธุ์จะต้องมีการเปิดสอนเป็นแห่งแรก เพราะ จ.กาฬสินธุ์ส่วนใหญ่ประชากรมีอาชีพทำการเกษตรค่อนข้างมาก สถานศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยก็มีเพียงไม่กี่แห่ง เพราะฉะนั้นจะต้องเปิดรองรับเด็กม.3 ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ และพื้นที่ใกล้เคียงก่อนที่อื่น
สำหรับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลวิทยาเขตกาฬสินธุ์นั้น หลังจากคณะกรรมการสภาได้สำรวจแล้ว พบว่า มีศักยภาพเรื่องวิชาการ และปฏิบัติในการพัฒนาภาคการเกษตร เพราะฉะนั้นทางคณะกรรมการสภาฯจึงได้กำชับให้ดำเนินการพัฒนาคุณภาพในดังกล่าวให้มากขึ้น โดยเฉพาะการส่งเสริมการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม เพราะ จ.กาฬสินธุ์ ขึ้น เชื่อในเรื่องไหมแพรวา
ด้าน ผศ.ณรงค์ ผลวงษ์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตกาฬสินธุ์ได้เข้าไปมีบทบาทและช่วยเหลือ ในการส่งเสริมประชาชน โดยเฉพาะส่งเสริมเกษตรกรในการพัฒนาคุณภาพผลผลิตทางการเกษตรหลายอย่าง
โดยเฉพาะผลผลิตการเกษตรอุสาหกรรม เช่น อ้อย มันสำปะหลัง นอกจากนี้ ยังได้เปิดศูนย์ให้ความรู้ในการเพราะเลี้ยงสัตว์ต่างๆ ให้กับเกษตรกรอีกด้วย
ส่วนศูนย์วิจัยและฝึกอบรมภูสิงห์ ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตกาฬสินธุ์ ที่อยู่บ้านป่ากล้วย ต.นิคมลำปาว อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์นั้นได้เปิดขึ้น เพื่อใช้ในการวิจัยเพื่อแก้ไขปัญหา และสร้างองค์ความรู้ใหม่ให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ใช้เป็นแหล่งการถ่ายทอดเทคโนโลยีทางการเกษตร และพัฒนาเกษตรอินทรีย์และสนองพระราชดำริแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
โดยขณะนี้ศูนย์ดังกล่าวกำลังทำการวิจัยและตนลองการเลี้ยงหมู่ป่า นกกระจอกเทศ โค กระบือ กบ ปลา และพืชต่างๆ
สำหรับแนวคิดของกรรมการสภาที่ต้องการมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตกาฬสินธุ์ดำเนินการทดลอง ส่งเสริมและสนับสนุนการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมให้กับประชาชนนั้น ทางมหาวิทยาลัยฯจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ และจะร่วมกับทาง จ.สุรินทร์ จากนั้นจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด และคาดว่าจะสามารถขยายปลูกหม่อนเลี้ยงไหมได้ในเร็วๆ นี้