xs
xsm
sm
md
lg

สมัชชาฯ อีสานขู่เคลื่อนไหวใหญ่ - จี้ทบทวนย้ายรองผู้การฯ บุรีรัมย์/เหิมจ่อเด้งอีก “ผบก.”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - สมัชชาฯ อีสาน 19 จังหวัด จี้ทบทวนการย้าย รองผู้การ จ.บุรีรัมย์ ออกนอกพื้นที่ เผย บุกยื่นหนังสือ ผบช.ภ.3 และรักษาการ ผบ.ตร.วันนี้ (10 มี.ค.) ระบุขีดเส้นให้ทบทวนคำสั่งภายใน 15 วัน พร้อมขู่เคลื่อนไหวใหญ่ เชื่อ เป็นการย้ายเพื่อช่วยเหลือคดีกลุ่มนักการเมืองใหญ่ในบุรีรัมย์ แฉเหิมเกริมไม่หยุด เตรียมเด้ง “พล.ต.ต.สมหมาย” ผบก.บุรีรัมย์ และ “เกษม วัฒนธรรม” ประธาน กกต.บุรีรัมย์ เป็นเหยื่อรายต่อไป

วานนี้ (9 มี.ค.) เวลา 16.00 น.ที่ห้องประชุมโดม โรงแรมศรีพัฒนา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ประธานสมัชชาประชาชนภาคอีสาน 19 จังหวัด และ นายสมบูรณ์ ทองบุราณ อดีต ส.ว.ยโสธร ที่ปรึกษาสมัชชาฯ พร้อมคณะกรรมการและแกนนำจาก 19 จังหวัดภาคอีสาน ได้ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมประจำเดือน มี.ค.ของสมัชชาประชาชนฯ ว่า ที่ประชุมได้นำเรื่องเข้าหารือในหลายประเด็น

ประเด็นที่สำคัญ คือ ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบกับการดำเนินการของสมัชชาประชาชนภาคอีสาน จ.บุรีรัมย์ ในการขอให้ทบทวนการย้าย พ.ต.อ.สังวร ภู่ไพจิตรกุล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (รอง ผบก.ภ.จว.) บุรีรัมย์ และ กกต.ฝ่ายสืบสวนสอบสวน จ.บุรีรัมย์ ไปช่วยราชการที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งทางสมัชชาฯ จ.บุรีรัมย์ ได้ยื่นเรื่องดังกล่าวต่อ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) บุรีรัมย์ ไปแล้ว โดยในวันนี้ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ นายนพสณฑ์ เสฎฐรังสี รองประธานสมัชชาฯ เป็นผู้ไปยื่นหนังสือต่อ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ในช่วงบ่ายวันนี้ (10 มี.ค.) พร้อมให้ยื่นต่อ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ทบทวนการย้ายดังกล่าวด้วย

“การย้ายครั้งนี้เราภาคประชาชนมีความไม่สบายใจ ว่า จะส่งผลต่อขบวนการสืบสวนสอบสวนคดีใหญ่ๆ และไม่เป็นผลดีต่อการดำเนินการในเรื่องคดี โดยเอาผลประโยชน์ตัวเองเป็นที่ตั้ง เรามีความเชื่อลึกๆ ว่า การย้ายข้าราชการกลางคัน จะทำให้เป็นผลลบต่อการสืบสวนสอบสวน ซึ่งการย้ายอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เป็นการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมระดับประเทศ เพื่อช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และวันนี้การแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมระดับจังหวัดเพื่อช่วยเหลือนักการเมืองได้เกิดขึ้นแล้วที่ บุรีรัมย์ ดังนั้น จึงขอให้มีการทบทวนเรื่องดังกล่าวโดยเร่งด่วน” นายไชยวัฒน์ กล่าว

นายไชยวัฒน์ กล่าวต่อว่า สมัชชาประชาชนภาคอีสานฯ จะให้เวลาในการทบทวนเรื่องดังกล่าว 15 วัน หากไม่มีความชัดเจนจะมีการหารือกัน เพื่อวางมาตรการในการเคลื่อนไหวใหญ่ต่อไป เพราะล่าสุดได้มีกระแสข่าวออกมาว่าจะมีการย้าย พล.ต.ต.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ ออกนอกพื้นที่เพิ่มอีก 1 ราย ซึ่งเป็นเรื่องที่สมัชชาประชาชนฯ จะขอให้มีการทบทวน หรือระงับเรื่องดังกล่าวไปพร้อมกันด้วย

ทั้งนี้ สมัชชาประชาชนภาคอีสานฯ เชื่ออย่างสุจริตใจว่า การโยกย้าย รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ ออกนอกพื้นที่ มีสาเหตุมาจากเรื่องการเมือง ที่ พ.ต.อ.สังวร เข้าไปดูแลคดีสำคัญหลายคดีที่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองใหญ่ตระกูล “ชิดชอบ” ทั้งเรื่องการบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์ อ.สตึก, การบุกรุกที่ดินเขากระโดง ของการรถไฟแห่งประเทศไทย รวมถึงคดีการร้องเรียนการทุจริตการเลือกตั้ง ทั้งการเลือกตั้งระดับชาติ คือ ส.ส.และระดับท้องถิ่น คือ อบจ.บุรีรัมย์ ซึ่งล้วนอยู่ระหว่างการดำเนินการและเป็นคดีที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน ที่ผู้ที่กระทำความผิดต้องได้รับการลงโทษตามกฎหมาย

ด้าน นางสำเนียง สุภัณพจน์ ประธานสมัชชาประชาชนภาคอีสานจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า การออกคำสั่งให้ พ.ต.อ.สังวร ภู่ไพจิตรกุล รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ ไปช่วยราชการที่ จ.ศรีสะเกษ แทนที่จะย้ายอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดนั้น เป็นการอำพรางเพื่อลดกระแสต่อต้านและวิพากษ์วิจารณ์ จากนั้นก็ได้ย้ายนายตำรวจที่เป็นคนของตัวเองมาสวมตำแหน่ง เพื่อปฏิบัติการล้มล้าง หรือทำลายหลักฐาน หรือทำสำนวนคดีให้อ่อนลง นอกจากนี้ ยังทำให้ศักยภาพของ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำจังหวัดบุรีรัมย์ อ่อนด้อยลงด้วย เนื่องจากมีอุปสรรคในการเดินทางมาปฏิบัติหน้าที่ของ พ.ต.อ.สังวร ระหว่าง จ.ศรีสะเกษ-บุรีรัมย์

นางสำเนียง กล่าวอีกว่า หลังจัดการกับ พ.ต.อ.สังวร แล้ว กลุ่มนักการเมืองใหญ่จะพุ่งเป้าไปที่ นายเกษม วัฒนธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ และประธาน กกต.ประจำจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งจะกลายเป็นเหยื่อรายต่อไปอย่างแน่นอน เพราะ นายเกษม ในฐานะประธาน กกต.บุรีรัมย์ ยืนยันเสมอว่า จะไม่อ่อนข้อให้นักการเมืองขี้โกงอย่างเด็ดขาด

บัดนี้สัญญาณลงดาบประหารข้าราชการบุรีรัมย์ ได้เปิดฉากขึ้นแล้ว หลังจากรัฐบาลพรรคพลังประชาชนขึ้นมาบริหารประเทศได้ไม่นาน และได้ย้ายข้าราชการส่วนกลางระดับสูงไปแล้วหลายราย ดังนั้น ประชาชนชาวบุรีรัมย์ทุกภาคส่วน และสมัชชาประชาชนภาคอีสานขออาสาเป็นหัวหอกในการร่วมใจกันต่อต้าน เปิดโปง การแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ที่ต้องการฟอกขาวให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และจะร่วมใจกัน เชิดชูคุณธรรม ปกป้องคนดีของแผ่นดินทุกรูปแบบ ด้วยการยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์





กำลังโหลดความคิดเห็น