หนองคาย - ม็อบเครือข่ายสถาบันเกษตรกรยื่นหนังสือผ่านผู้ว่าฯ หนองคายส่งต่อ 6 กระทรวง เรียกร้องแก้ปัญหา ทั้งนี้ข้อเสนอที่เรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขช่วยเหลือคล้ายนโยบายประชานิยมยุครัฐบาลทักษิณ
เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (6 มี.ค.) ที่ด้านหน้าศาลากลางจังหวัดหนองคาย นายอรรถฤทธิ์ สิงห์ลอ นายกสมาคมเครือข่ายสถาบันเกษตรกร หรือ คสก.ได้นำสมาชิกเครือข่ายประมาณ 2,000 คน เข้ายื่นหนังสือข้อเรียกร้องของสมาคมเครือข่ายสถาบันเกษตรกรให้กับนายเจด็จ มุสิกวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย เพื่อส่งต่อให้กับกระทรวงที่รับผิดชอบ ประกอบด้วย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, กระทรวงการคลัง, กระทรวงศึกษาธิการ, กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติลและสิ่งแวดล้อม, กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงมหาดไทย
ภายหลังจากที่รับหนังสือแล้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคายรับปากกับกลุ่มเครือข่ายว่าจะรีบส่งหนังสือข้อเรียกร้องให้กับทุกกระทรวงภายในวันนี้
นายอรรถฤทธิ์ สิงห์ลอ นายกสมาคมเครือข่ายสถาบันเกษตรกร กล่าวว่า ทางสมาคมมีมติร่วมกันขอให้รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาทวงคืนโคล้านครอบครัว ให้รัฐบาลสนับสนุนโครงการโคล้านครอบครัวให้กับเกษตรกรผู้ยากจนที่ต้องการเลี้ยงโค จากเดิมที่สมัยรัฐบาลทักษิณเคยจัดโครงการเดิมเป็นโคตัวผู้ครอบครัวละ 2 ตัว ขอเปลี่ยนเป็นโคตัวเมียครอบครัวละ 2 ตัว
หากเกษตรกรที่ได้รับโคไปเลี้ยงตามโครงการแล้วขอให้ขายโคตัวผู้เปลี่ยนเป็นตัวเมียแทนได้ ขอให้รัฐบาลสนับสนุนขุดสระน้ำขนาดเล็กและขนาดใหญ่ในไร่นาเพื่อทำการเกษตรจะได้มีแหล่งน้ำอย่างต่อเนื่อง, ข้อเรียกร้องต่อกระทรวงการคลังระบุว่า ขอให้เร่งรัดติดตามเงินกู้ ธ.ก.ส.ครอบครัวละ 50,000 บาท และเพิ่มเติมรายชื่อสมาชิกร้องขอ
เพื่อนำมาซื้อโคเพศเมียมาเลี้ยงจะได้ออกลูกทุกปี สมาชิกของสมาคมที่เป็นหนี้ค้างชำระ ธ.ก.ส.ในระยะเวลา 3-5 ปี จะหมดภาระหนี้สิน เรียกร้องให้ออกเอกสารสิทธิที่ดินเป็นโฉนดให้กับสมาชิกที่มีเขตที่ดินราชพัสดุรวมทั้งเสนอรายชื่อแต่งตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาที่ราชพัสดุ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา กับกระทรวงการคลัง
ส่วนข้อเรียกร้องต่อกระทรวงศึกษาธิการนั้นต้องการให้ยุติการฟ้องและทวงหนี้ทุนการศึกษาตามที่นักเรียนนักศึกษากู้ทุนไปเรียน แต่ขณะนี้นักเรียนและผู้ปกครองได้รับความเดือดร้อนกู้ยืนทุนไปเรียนแต่จบแล้วไม่มีงานทำ ทำให้ไม่สามารถนำส่งเงินกู้ยืมทางการศึกษาได้, เรียกร้องให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแก้ปัญหาแนวเขตอุทยานอำเภอภูพาน, อำเภอกุดบาก จ.สกลนคร ทับที่ทำกินและที่อยู่อาศัย ยกเลิกแนวเขตอุทยานและแนวเขตป่าไม้,
นอกจากนี้ยังเสนอให้กระทรวงพัฒนาสังคมฯสนับสนุนเงินกู้ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส รายละ 50,000 บาท เป็นกองทุนหมุนเวียนพัฒนาอาชีพโดยการปลอดดอกเบี้ยระยะเวลา 1-10 ปี ส่งคืนปีละ 1 ครั้ง ขอรับการสนับสนุนรถสามล้อโยกให้ผู้พิการ แว่นสายตากับผู้สูงอายุ และเรียกร้องไปยังกระทรวงมหาดไทยให้ออกเอกสารสิทธิ์โฉนดที่ดินที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน
โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยที่เกษตรกรอยู่เป็นเวลานานในที่สาธารณะหรือที่ว่างเปล่า รวมทั้งขอเพิ่มเงินเดือนผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาสและผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป จากเดิมเดือนละ 500 บาทเพิ่มเป็นเดือนละ 2,000 บาท
นายอรรถฤทธิ์ ยังกล่าวอีกว่า การรวมตัวกันและยื่นหนังสือครั้งนี้เครือข่ายเห็นว่าทุกข้อที่เรียกร้องเกิดจากปัญหาที่เกษตรกรประสบกับตัวเอง จะมีสมาชิกของสมาคมจากจังหวัดต่างๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้ง 19 จังหวัดมาสมทบรวมตัวกันที่จังหวัดหนองคายอีกประมาณ 5,000 คน และจะรวมตัวกันที่จังหวัดหนองคาย ต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าข้อเรียกร้องทุกข้อที่เสนอต่อรัฐบาลจะได้รับการแก้ไขและช่วยเหลือ
