แพร่ - กกต.ตัดงบตรวจสอบเลือกตั้งจังหวัดแพร่ ตัดตอนการทำงานเกาะติดทุจริตเลือกตั้ง ส.ว. ด้านรองผู้ว่าฯ แพร่ชี้การตรวจสอบเลือกตั้งเป็นภาระหน้าที่ประชาชนต้องเข้าไปมีส่วนร่วมในทุกเรื่องเพื่อให้แนวทางระบอบประชาธิปไตยเป็นจริงขึ้นมา เชื่อมั่นประชาชนกลุ่มสร้างสรรค์ดังกล่าวจะทำให้การเมืองดีขึ้น
นายสมชัย หทยตันติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้ร่วมเป็นประธานเปิดศูนย์ประสานงานตรวจสอบเลือกตั้งจังหวัดแพร่ ที่อาคารเลขที่ 602/3 ถนนน้ำทอง ต.นาจักร อ.เมือง จ.แพร่ (หลังห้างบิ๊กซีแพร่) เมื่อวันที่ 25 ก.พ.51 ที่ผ่านมา โดยมีตัวแทนศูนย์ประสานงานตรวจสอบเลือกตั้งดังกล่าวเป็นผู้กล่าวถึงความเป็นมาและรายงานต่อนายสมชัย พร้อมด้วยตัวแทนองค์การเอกชนและอาสาสมัครที่เป็นภาคีร่วม เช่น สภาทนายความ เครือข่ายวิทยุชุมชน สมาคมวิทยุสมัครเล่น จ.แพร่ และเครือข่ายเลือกตั้ง (ภาคพลเมือง) รวมทั้งกลุ่มประเด็นปัญหาทางด้านทรัพยากรธรรมชาติ เช่น เครือข่ายป่าชุมชน เครือข่ายชนเผ่ากะเหรี่ยง 17 ชุมชน เครือข่ายแก้ปัญหาที่ดินเข้าร่วมในพิธีเปิดสำนักงานอย่างคับคั่ง
รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ กล่าวว่า การทำงานขององค์การเอกชนตรวจสอบการเลือกตั้งคือการเข้ามามีส่วนร่วมของภาคประชาชน ซึ่งเป็นไปตามสิทธิในรัฐธรรมนูญ และมีระบุไว้ชัดเจนในกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ คือ กฎหมายเลือกตั้งฉบับปัจจุบัน ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง ส่งอาสาสมัครสังเกตการณ์การเลือกตั้งไปประจำใน 760 หน่วยเลือกตั้งหน่วยละ 1 คน และมีอาสาสมัครรับแจ้งเหตุอีก 5 คนรับแจ้งเหตุทุกรูปแบบจากประชาชน
การทำงานดังกล่าวได้ผลดีจากการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ผ่านมา และเชื่อว่าในการเลือกตั้ง ส.ว.ครั้งนี้ เครือข่ายองค์กรชาวบ้านจะสามารถทำงานได้ประสบความสำเร็จ ซึ่งฝ่ายปกครองจะคอยหนุนช่วยการทำงานของภาคประชาชนอยู่เบื้องหลัง เป็นกำลังใจให้กับอาสาสมัครทุกคนได้ทำงาน
ขณะที่ตัวแทนศูนย์ประสานงานตรวจสอบเลือกตั้งจังหวัดแพร่ ระบุว่า องค์กรนี้เป็นองค์กรอาสาสมัครที่เข้ามาร่วมกันทำงานในช่วงที่มีการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นการเปิดกว้างสำหรับประชาชนที่เข้ามาร่วมกันทำงานและร่วมกันแจ้งเบาะแสการกระทำผิด การทำงานของอาสาสมัครเริ่มมาตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 51 สิ้นสุดในวันที่ 3 มีนาคม 51 หลังวันเลือกตั้ง เพื่อรายงานผลให้กับ กกต. และในช่วงทำงานจะมีการประสานงานกับฝ่ายสืบสวนของ กกต.ได้อย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป
โดยขณะนี้ถึงแม้การเลือกตั้งจะดูเงียบ แต่มีพรรคการเมืองพรรคหนึ่งส่งคนเข้าประกบผู้นำชุมชน และบีบให้มีการเลือกผู้สมัครหมายเลขหนึ่งที่ใกล้ชิดพรรคการเมือง รวมทั้งมีการแจ้งเหตุการณ์ถอนเงินออกจากธนาคารโดยมีกลุ่มคนของพรรคการเมืองเข้าไปถอนเงิน ซึ่งเครือข่ายตรวจสอบเลือกตั้งจะทำบันทึกแจ้งเหตุให้กับฝ่ายสืบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไปแล้ว
องค์กรตรวจสอบเลือกตั้งภาคประชาชนที่ทำงานในจังหวัดแพร่ ต้องใช้อาสาสมัครมากกว่า 700 คน โดยขณะนี้อยู่ในห้วงของการทำงานตามกฎหมายและอาสาสมัครได้ออกทำงานกันตลอดเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่คณะกรรมการการเลือกตั้งยังไม่ส่งงบประมาณให้ดำเนินการแต่อย่างใด
รวมทั้งมีการเสนอตัดค่าใช้จ่ายของอาสาสมัครที่ทำงาน 10 วันๆ ละ 200 บาทออกเหลือเพียง 7 วัน ทำให้งบประมาณในการจัดการตรวจสอบเลือกตั้งลดลงไปอีก แต่อาสาสมัครเหล่านั้นยังทำงานกันอย่างเต็มที่เพื่อพัฒนาการเมืองและยกระดับความรู้ด้านประชาธิปไตยในจังหวัดแพร่ต่อไป
