แพร่ – สนามเลือกตั้ง ส.ว.เมืองแพร่ ซื้อกันสนุก เผยแม้บรรยากาศการหาเสียงทั่วไปไม่คึกคัก แต่การหาเสียงนอกระบบทั้งพาเที่ยวยกกลุ่ม-จ่ายเงินซื้อเสียงพ่วงสนามเลือกตั้งทุกระดับกลับครึกครื้นเต็มที่
แม้ว่าจะเหลือเวลาลงคะแนนเลือกตั้ง ส.ว.อีกไม่กี่วันก็ตาม แต่บรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้ง สว.แพร่ ขณะนี้ไม่คึกคักเท่าที่ควร เนื่องจากกติกาการหาเสียงซึ่งไม่สามารถทำได้เท่า ส.ส. อย่างไรก็ตาม แม้การหาเสียงในระบบไม่คึกคักแต่คลื่นใต้น้ำซื้อกันสะบั้น กกต.ตามไม่ทันและเอกสารแนะนำตัวผู้สมัครที่ กกต.จัดขึ้นส่งเพียงบางบ้านเท่านั้น
ขณะนี้ผู้สมัครของจังหวัดแพร่ หมายเลข 1 นายองอาจ เอื้ออภิญญกุล หมายเลข 2 นายขวัญชัย พนมขวัญ และหมายเลข 3 นายไพบูลย์ สุกใส นั้น มีเพียงหมายเลข 1 และ 2 เท่านั้นที่มีการปิดประกาศไปทั่วทุกอำเภอ ส่วนหมายเลข 3 ติดแผ่นป้ายแนะนำตัวค่อนข้างน้อยกว่า 2 เบอร์แรก
นอกจากนี้ ยังพบว่า แม้การสมัคร ส.ว.จะมีข้อห้ามไว้มากมาย โดยเฉพาะไม่ควรมาจากพรรคการเมือง เพราะต้องไปอยู่ในรัฐสภาที่ต้องคานอำนาจกับ ส.ส.แต่ในจังหวัดแพร่พบว่า มีผู้สมัครบางรายใช้กลไกของพรรคการเมืองหาเสียง และทีมหาเสียงของพรรคการเมือง ซึ่งเป็นการแสดงออกได้ชัดเจนว่าอยู่ในปีกของพรรคการเมืองนั่นเอง
ขณะเดียวกัน ยังมีผู้สมัครบางรายจัดเลี้ยงในอำเภอต่างๆ โดยใช้การจัดเลี้ยงเป็นงานส่วนตัว เช่นการเลี้ยงฉลองในฐานะที่หมดวาระ ส.อบจ.เป็นตัน ทั้งยังมีการนำกลุ่ม อสม.ซึ่งเป็นเครือข่ายอาสาสมัครของสาธารณสุข ที่มีการไปดูงานในต่างจังหวัด ล่าสุด เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2551 ที่ผ่านมา อสม.ประจำตำบลแม่จั๊วะ อ.เด่นชัย จ.แพร่ ก็ได้ไปดูงานที่จังหวัดเชียงรายจำนวน 4 คันรถบัส
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า เป็นการสนับสนุนงบประมาณโดยผู้สมัคร ส.ว.รายหนึ่ง ในการเลี้ยงกันตลอดเส้นทางไปกลับ ซึ่งกรณีดังกล่าวองค์กรตรวจสอบเลือกตั้ง ภาคประชาชนกำลังเข้าไปหาข้อมูล ขณะที่ฝ่ายสืบสวน กกต.แพร่ยังคงนิ่งเฉยไม่ดำเนินการใดใดต่อกระแสที่เกิดขึ้น
แหล่งข่าวเปิดเผยด้วยว่า การซื้อเสียงยังคงใช้กลไกหัวคะแนน หรือฐานเดิมของการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ผ่านมา โดยจะมีการซื้อแบบยกชุด ตั้งแต่ ส.ส.-ส.ว.และต่อด้วย ส.ท.นายกเทศมนตรี อำเภอต่างๆ รวมไปถึง ส.อบจ.ต่อเนื่องกันไป มีการจ่ายเงินอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในสายการเมืองที่ทำการซื้อเสียงจะประสบความสำเร็จทั้ง 8 อำเภอ
นางกรรณิการ์ ชมพูศรี เลขานุการเครือข่ายเลือกตั้ง (ภาคพลเมือง) จังหวัดแพร่ (คกต.แพร่) เปิดเผยว่า ในการตรวจสอบเลือกตั้ง ส.ว.แพร่ เครือข่ายเลือกตั้งภาคพลเมือง ซึ่งมี นายสมพล หริกุล เป็นประธานใหญ่ระดับชาติ ได้ทำโครงการตรวจสอบยื่นต่อ กกต.จำนวน 18 จังหวัด
ส่วนในจังหวัดแพร่ ยังประกอบด้วย ภาคีความร่วมมือในภาคประชาชน ได้เข้ามาทำหน้าที่ตรวจสอบด้วย จากกระแสในช่วงก่อนการเลือกตั้งจะพบว่ามีข้อสังเกตหลายประการที่ดูผิดปกติ โดยเฉพาะการจัดเลี้ยง และดูงานที่เกิดขึ้นมากผิดปกติ ซึ่งถ้าจะพูดถึงวัฒนธรรมทางการเมืองกันแล้ว องค์กรอาสาสมัคร ควรหยุดกิจกรรมดังกล่าวเพื่อสร้างความโปร่งใสให้กับองค์กรของตนเองไม่ควรทำแบบท้าทาย และ กกต.ก็ไม่สามารถเอาผิดได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม การซื้อเสียงในจังหวัดแพร่ยังคงมีให้เห็น และกลุ่มซื้อเสียงมั่นใจมากยิ่งขึ้นแม้การเลือกตั้ง ส.ส.ที่ผ่านมา ตำรวจสันติบาลและองค์กรตรวจสอบเลือกตั้งจับได้คนใกล้ชิด ส.ส.เป็นผู้จ่ายเงินซื้อเสียง แต่ก็ยังได้เพียงใบเหลือง ดังนั้น ในการเลือกตั้ง ส.ว.กลุ่มซื้อเสียงจะมั่นใจยิ่งกว่าการเลือกตั้ง ส.ส.
แม้ว่าจะเหลือเวลาลงคะแนนเลือกตั้ง ส.ว.อีกไม่กี่วันก็ตาม แต่บรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้ง สว.แพร่ ขณะนี้ไม่คึกคักเท่าที่ควร เนื่องจากกติกาการหาเสียงซึ่งไม่สามารถทำได้เท่า ส.ส. อย่างไรก็ตาม แม้การหาเสียงในระบบไม่คึกคักแต่คลื่นใต้น้ำซื้อกันสะบั้น กกต.ตามไม่ทันและเอกสารแนะนำตัวผู้สมัครที่ กกต.จัดขึ้นส่งเพียงบางบ้านเท่านั้น
ขณะนี้ผู้สมัครของจังหวัดแพร่ หมายเลข 1 นายองอาจ เอื้ออภิญญกุล หมายเลข 2 นายขวัญชัย พนมขวัญ และหมายเลข 3 นายไพบูลย์ สุกใส นั้น มีเพียงหมายเลข 1 และ 2 เท่านั้นที่มีการปิดประกาศไปทั่วทุกอำเภอ ส่วนหมายเลข 3 ติดแผ่นป้ายแนะนำตัวค่อนข้างน้อยกว่า 2 เบอร์แรก
นอกจากนี้ ยังพบว่า แม้การสมัคร ส.ว.จะมีข้อห้ามไว้มากมาย โดยเฉพาะไม่ควรมาจากพรรคการเมือง เพราะต้องไปอยู่ในรัฐสภาที่ต้องคานอำนาจกับ ส.ส.แต่ในจังหวัดแพร่พบว่า มีผู้สมัครบางรายใช้กลไกของพรรคการเมืองหาเสียง และทีมหาเสียงของพรรคการเมือง ซึ่งเป็นการแสดงออกได้ชัดเจนว่าอยู่ในปีกของพรรคการเมืองนั่นเอง
ขณะเดียวกัน ยังมีผู้สมัครบางรายจัดเลี้ยงในอำเภอต่างๆ โดยใช้การจัดเลี้ยงเป็นงานส่วนตัว เช่นการเลี้ยงฉลองในฐานะที่หมดวาระ ส.อบจ.เป็นตัน ทั้งยังมีการนำกลุ่ม อสม.ซึ่งเป็นเครือข่ายอาสาสมัครของสาธารณสุข ที่มีการไปดูงานในต่างจังหวัด ล่าสุด เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2551 ที่ผ่านมา อสม.ประจำตำบลแม่จั๊วะ อ.เด่นชัย จ.แพร่ ก็ได้ไปดูงานที่จังหวัดเชียงรายจำนวน 4 คันรถบัส
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า เป็นการสนับสนุนงบประมาณโดยผู้สมัคร ส.ว.รายหนึ่ง ในการเลี้ยงกันตลอดเส้นทางไปกลับ ซึ่งกรณีดังกล่าวองค์กรตรวจสอบเลือกตั้ง ภาคประชาชนกำลังเข้าไปหาข้อมูล ขณะที่ฝ่ายสืบสวน กกต.แพร่ยังคงนิ่งเฉยไม่ดำเนินการใดใดต่อกระแสที่เกิดขึ้น
แหล่งข่าวเปิดเผยด้วยว่า การซื้อเสียงยังคงใช้กลไกหัวคะแนน หรือฐานเดิมของการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ผ่านมา โดยจะมีการซื้อแบบยกชุด ตั้งแต่ ส.ส.-ส.ว.และต่อด้วย ส.ท.นายกเทศมนตรี อำเภอต่างๆ รวมไปถึง ส.อบจ.ต่อเนื่องกันไป มีการจ่ายเงินอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในสายการเมืองที่ทำการซื้อเสียงจะประสบความสำเร็จทั้ง 8 อำเภอ
นางกรรณิการ์ ชมพูศรี เลขานุการเครือข่ายเลือกตั้ง (ภาคพลเมือง) จังหวัดแพร่ (คกต.แพร่) เปิดเผยว่า ในการตรวจสอบเลือกตั้ง ส.ว.แพร่ เครือข่ายเลือกตั้งภาคพลเมือง ซึ่งมี นายสมพล หริกุล เป็นประธานใหญ่ระดับชาติ ได้ทำโครงการตรวจสอบยื่นต่อ กกต.จำนวน 18 จังหวัด
ส่วนในจังหวัดแพร่ ยังประกอบด้วย ภาคีความร่วมมือในภาคประชาชน ได้เข้ามาทำหน้าที่ตรวจสอบด้วย จากกระแสในช่วงก่อนการเลือกตั้งจะพบว่ามีข้อสังเกตหลายประการที่ดูผิดปกติ โดยเฉพาะการจัดเลี้ยง และดูงานที่เกิดขึ้นมากผิดปกติ ซึ่งถ้าจะพูดถึงวัฒนธรรมทางการเมืองกันแล้ว องค์กรอาสาสมัคร ควรหยุดกิจกรรมดังกล่าวเพื่อสร้างความโปร่งใสให้กับองค์กรของตนเองไม่ควรทำแบบท้าทาย และ กกต.ก็ไม่สามารถเอาผิดได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม การซื้อเสียงในจังหวัดแพร่ยังคงมีให้เห็น และกลุ่มซื้อเสียงมั่นใจมากยิ่งขึ้นแม้การเลือกตั้ง ส.ส.ที่ผ่านมา ตำรวจสันติบาลและองค์กรตรวจสอบเลือกตั้งจับได้คนใกล้ชิด ส.ส.เป็นผู้จ่ายเงินซื้อเสียง แต่ก็ยังได้เพียงใบเหลือง ดังนั้น ในการเลือกตั้ง ส.ว.กลุ่มซื้อเสียงจะมั่นใจยิ่งกว่าการเลือกตั้ง ส.ส.